ผู้ต้องขังไทยเสี่ยงติดเอชไอวีสูง! ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน-ขายตัวแลกช็อกโกแลต

ผู้ต้องขังไทยเสี่ยงติดเอชไอวีสูง! ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน-ขายตัวแลกช็อกโกแลต

ผู้ต้องขังไทยเสี่ยงติดเอชไอวีสูง! ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน-ขายตัวแลกช็อกโกแลต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แฉผู้ต้องขังเรือนจำไทยเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวีสูง ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ขายตัวแลกช็อกโกแลต ไร้ถุงยางอนามัยป้องกัน แนะแจกถุงยางอนามัย-สารหล่อลื่น-เข็มฉีดยาสะอาดให้ผู้ต้องขัง ขณะที่ จอน เสนอให้นักโทษชั้นดีมีเซ็กส์กับคู่สมรสเมื่อมาเยี่ยม เชื่อป้องกันการแพร่เชื้อได้ดีกว่า

ดร.สุทยุต โอสรประสบ ผู้เชี่ยวชาญโครงการพัฒนามนุษย์ ธนาคารโลก สำนักงานประเทศไทย บรรยายเรื่อง "เอดส์ในเรือนจำ" ในการประชุมเอดส์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ครั้งที่ 9 ที่บาลี ประเทศอินโดนีเซีย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-13 สิงหาคม ว่าการรณรงค์โรคเอดส์ในประเทศไทย ผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานกลุ่มเสี่ยงสูงมี 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้ที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน 2.กลุ่มชายรักชาย และ 3.กลุ่มผู้ที่ขายบริการทางเพศให้ผู้ต้องขัง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสักร่างกาย ตกแต่งอวัยวะเพศ และใช้ถุงยางอนามัยขนาดใหญ่กว่าอวัยวะเพศ ซึ่งผู้ต้องขังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันตนเอง เพราะไม่มีถุงยางอนามัยแจกในเรือนจำ

เนื่องจากผู้บริหารระดับนโยบาย ไม่ยอมรับว่าผู้ต้องขังมีเพศสัมพันธ์กันภายในเรือนจำ มีความเชื่อว่าให้ถุงอนามัยกับผู้ต้องขังเป็นการสนับสนุนให้มีเพศสัมพันธ์ เพราะการมีเพศสัมพันธ์ในที่กักขังถือว่าผิดกฎหมาย รวมถึงผู้ต้องขังไม่กล้าขอรับถุงยางอนามัย กลัวถูกมองว่าเป็นเกย์ และการมีเพศสัมพันธ์ในเรือนจำเกิดขึ้นได้ทั้งชายกับชาย หญิงกับหญิง หรืออาจเกิดจากการถูกข่มขืนบางคนมีเพศสัมพันธ์เพื่อให้ได้อาหาร บางคนยินยอมเพื่อให้ได้รับการคุ้มครอง และบางคนขายบริการทางเพศเพื่อแลกกับบุหรี่ หรือช็อกโกแลต จึงไม่สามารถบอกได้ว่าถูกบังคับหรือยินยอม

"การป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อเอชไอวีในเรือนจำ ต้องให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์และแนวทางป้องกันกับเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขัง มีถุงยางอนามัย สารหล่อลื่น จัดตรวจหาเชื้อเอชไอวี จัดให้มีเข็มฉีดยาที่สะอาด และจัดระบบการควบคุมการใช้เข็มฉีดยา จำเป็นต้องเร่งเข้าไปให้ความรู้ในการป้องกันตนเองแก่ผู้ต้องขัง และขยายผลเรือนจำที่ดำเนินการที่มีประสิทธิ์ภาพไปยังเรือนจำและทัณฑสถานอื่นๆ ด้วย "ดร.สุทยุต กล่าว

ด้านนายจอน อึ๊งภากรณ์ อดีต ส.ว.กทม กล่าวว่า รัฐต้องส่งเสริมให้กลุ่มเหล่านี้ได้รับสิทธิ์ขั้นพื้นฐาน เช่น การเข้าถึงบริการสุขภาพ การศึกษา ที่อยู่อาศัย ทำให้การเหยียดหยามในสังคมลดน้อยลง รวมถึงส่งเสริมเครือข่ายของกลุ่มคนเหล่านี้ให้เข้มแข็งขึ้น และต้องเผชิญกับความเป็นจริงส่งเสริมการป้องกันตนเองจากเชื้อเอชไอวี เช่น แจกถุงยางอนามัยในเรือนจำ อนุญาตให้นักโทษที่ประพฤติตัวดีมีเพศสัมพันธ์กับสามี ภรรยาของตนเองได้หากมาเยี่ยม ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่ามีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นในเรือนจำ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook