หุ้นไทยร่วงตามคาด กังวลเหตุปะทะไทย–กัมพูชา และ ม็อบ พธม.

หุ้นไทยร่วงตามคาด กังวลเหตุปะทะไทย–กัมพูชา และ ม็อบ พธม.

หุ้นไทยร่วงตามคาด กังวลเหตุปะทะไทย–กัมพูชา และ ม็อบ พธม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันที่ 7 ก.พ. 2554 ดัชนีราคาหุ้นไทยปรับตัวลดลง ตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยปรับลดลง 6.63 จุด อยู่ที่ 978.15 จุด และต่ำสุดที่ 976.32 จุด  หลังจากนั้นเคลื่อนไหวแกว่งตัวในแดนลบ โดยมีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ ทั้ง ปตท. , ปตท.สผ. , บ้านปู , ไทยออยล์ และ ธนาคารพาณิชย์

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงการปรับฐาน ดังนั้น เมื่อมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ นักลงทุนก็จะหาเหตุในการทำกำไร หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นร้อยละ 40  ในปีที่ผ่านมา และย้ายกลับไปลงทุนในตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย และกัมพูชา แม้จะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อการลงทุนและเศรษฐกิจไทย  เนื่องจากมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชามีไม่มาก แต่มีผลให้การชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ( พธม.) ที่จะเคลื่อนขบวนในวันที่ 11 ก.พ.หลังประกาศยกระดับการชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลา ออก มีความเสี่ยงมากขึ้น

ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก คาดการณ์ว่า แนวโน้มผันผวนในกรอบ 960-997 จุด โดยมีแรงขายต่อเนื่องความไม่มั่นใจต่อเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทย และกัมพูชา รวมทั้งการชุมนุมทางการเมืองที่กดดันรัฐบาล  คาดนักลงทุนจะชะลอการซื้อขาย หรือเข้าซื้อเก็งกำไรผลประกอบการเฉพาะรายหลักทรัพย์ที่ออกมาดี

 ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงการพักฐานต่อไป เนื่องจากมีปัจจัยกดดัน คือการปะทะกันระหว่างไทย กับกัมพูชาตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามมองว่าเหตุปะทะกันยังเป็นปัจจัยลบเชิงบรรยากาศการลงทุนมากกว่า ที่จะเป็นปัจจัยลบเชิงปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากไทยมีส่วนได้ ส่วนเสียทางเศรษฐกิจเกี่ยวข้องกับกัมพูชาไม่สูง โดยไทยมีการส่งออกไปกัมพูชาเพียง ร้อยละ 1.2 ของยอดส่งออกทั้งหมด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook