กกต.พอใจคนใช้สิทธิ์ล่วงหน้าเพิ่ม

กกต.พอใจคนใช้สิทธิ์ล่วงหน้าเพิ่ม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
วันที่ 4 ม.ค. เวลา 09.30 น. นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ฝ่ายบริหารการเลือกตั้ง กล่าวภายหลังตรวจดูความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า ในเขต 10 ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะว่า การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ล่วงหน้าในทุกเขตทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้มาใช้สิทธิ์ 90,024 คน มากกว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่มีผู้มาใช้สิทธิ์ 89,260 คน คาดว่าเป็นผลมาจากประชาชนกลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงถือโอกาสใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้มาใช้สิทธิ์สูงมาก ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีคนมาใช้สิทธิ์มากกว่าครั้งที่ผ่านมา และอยากขอร้องสื่อมวลชนและหน่วยงานที่จัดทำโพลเกี่ยวกับการเลือกตั้งว่าไม่สามารถนำมาเผยแพร่ในช่วงนี้เนื่องจากระเบียบกกต.ห้ามไม่ให้เผยแพร่ในช่วง 7 วันก่อนเลือกตั้ง

นายประพันธ์ยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย เตรียมร้องเรียน กกต. กรณีนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่มอบนโยบายในเขตเลือกตั้งซ่อม และเรียกผู้นำท้องถิ่น มาร่วมรับฟังนโยบาย ซึ่งอยู่ใกล้กับเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้ง ว่า เจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยผู้สมัครเลือกตั้งหาเสียงไม่ได้ แต่หากเป็นการไปตรวจงาน หรือไปประชุมมอบนโยบาย โดยไม่เป็นการหาเสียงให้กับผู้สมัคร ก็ไม่เป็นไร ส่วนตัวยังไม่ทราบรายละเอียดแต่จะให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนกลุ่มคนเสื้อแดงนำป้ายมีข้อความระบุว่า ไม่เอาอภิสิทธิ์ พันธมิตรฯ ออกไป ชูบริเวณหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าที่จ.ร้อยเอ็ด ต้องดูเจตนาว่าเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งหรือไม่ หากเป็นการขัดขวางก็มีโทษ แต่หากไม่ขัดขวางก็อยู่ที่กกต.ประจำหน่วย จะพิจารณาว่ามีผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกผู้สมัครหรือไม่

ที่ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร.) พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผอ.ศรส.ลต.ตร. กล่าวภายหลังประชุมศรส.ลต.ตร.ว่า ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.จนถึงวันที่ 3 ม.ค.ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันแรก รับแจ้งการกระทำความผิด 4 คดี ผู้ต้องหา 4 คน ในข้อหาจำหน่ายจ่ายแจกหรือจัดเลี้ยงสุราในเขตเลือกตั้ง เหตุเกิดที่อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด 2 คดี อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด 1 คดี และอ.เมืองมหาสารคาม 1 คดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook