อัศจรรย์! เลือด-น้ำเหลือง หลวงตามหาบัว เป็นพระธาตุ

อัศจรรย์! เลือด-น้ำเหลือง หลวงตามหาบัว เป็นพระธาตุ

อัศจรรย์! เลือด-น้ำเหลือง หลวงตามหาบัว เป็นพระธาตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฮือฮาอีกครั้ง เลือด-น้ำเหลืองที่ได้มาจากการทำความสะอาดบาดแผลนิ้วเท้าของหลวงตาตอนที่ยังไม่ละสังขาร กลายเป็นก้อนแข็งคล้ายเม็ดทราย ส่องแสงแวววับอย่างน่าอัศจรรย์

(12 ก.พ.) เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมากราบสรีระหลวงตาพระมหาบัว ต่างฮือฮา เมื่อศิษยานุศิษย์หลวงตาคนหนึ่ง ได้นำเอาโกศบรรจุเลือดและน้ำเหลืองของหลวงตามาให้ดู พบว่าน้ำเหลืองและเลือดที่ได้มาจากการทำความสะอาดบาดแผลนิ้วเท้าของหลวงตาตอนที่ยังไม่ละสังขารแล้วนำมาบูชานั้น ได้กลายเป็นก้อนแข็งคล้ายเม็ดทรายหรือเม็ดน้ำตาลทราย ส่องแสงแวววับอย่างน่าอัศจรรย์ เชื่อว่าก้อนเลือดและก้อนน้ำเหลืองจากหลวงตานี้ น่าจะเป็นพระธาตุเหมือนที่เกศาของหลวงตาเป็นพระธาตุมาก่อนหน้านี้

พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นตามทฤษฎีทางการแพทย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เพราะปกติหากหากน้ำเหลืองแข็งตัวมาก ก็จะพบเพียงก้อนวุ้นเฉยๆ ไม่ใช่เป็นในลักษณะเม็ดน้ำตาลทราย หรือเม็ดทรายเล็กๆ ส่วนกรณีที่ศพไม่เน่าเกิดจาก 3 ปัจจัย คือ อุณหภูมิสูงมาก ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศต่ำ และอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวถือเป็นภาวะเหมาะสมที่ทำให้สภาพร่างกายของศพไม่เน่าได้ แต่กรณีนี้ไม่พบเห็นบ่อย เกิดขึ้นได้น้อยมาก

ด้าน ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การอธิบายกรณีที่เกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องยาก เพราะเมืองไทยเป็นเมืองพุทธศาสนา แพทย์หลายท่านก็นับถือศาสนาพุทธ แม้ว่าจะสามารถนำก้อนเลือด ก้อนน้ำเหลืองดังกล่าวไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ ถึงที่มาที่ไป ก็อาจดูไม่เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องของความศรัทธา ดังนั้น คงไม่สามารถจะเอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายปรากฏการณ์ในลักษณะนี้ได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook