นายกฯย้ำเร่งผลิตน้ำมันปาล์มขาย47บ./ขวด

นายกฯย้ำเร่งผลิตน้ำมันปาล์มขาย47บ./ขวด

นายกฯย้ำเร่งผลิตน้ำมันปาล์มขาย47บ./ขวด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหา น้ำมันปาล์มขาดแคลนว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งการผลิต เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ซึ่งคาดว่า ภายใน 1-2 วันนี้ จะสามารถวางจำหน่ายนำมันปาล์ม ตามโครงการของรัฐบาล ได้ทั่วประเทศ โดยมั่นใจว่า ภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยสามารถวางขายน้ำมันปาล์มได้ในราคา ไม่เกินขวดละ 47 บาท และมีปริมาณที่เพียงพอ โดยประชาชนไม่จำเป็นที่จะต้องกักตุนสินค้า


ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาราคาสินค้าที่แพงขึ้น ว่าเป็นปัญหาสำคัญที่สืบเนื่อง มาจากสถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง ซึ่งรัฐบาลพยายามหาแนวทางการแก้ไข ในการเสริมรายได้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะคนจน ที่ขณะนี้รัฐบาลกำลังพิจารณาในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีกรอบ ขณะเดียวกัน ยังสั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาการเพิ่มการประกันรายได้ให้กับเกษตรกร ทั้งนี้ เพื่อให้รับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้



นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าจากการพูดคุยกับตัวแทนองค์กรยูเนสโก ที่เดินทางมารับฟังข้อมูล ได้มีความเห็นที่ตรงกันกับจุดยืนของประเทศไทย ที่เห็นว่าการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ควรใช้การเจรจาระดับทวิภาคี ระหว่าง 2 ประเทศ เพื่อหาทางออกให้ได้ข้อยุติ ก่อนที่จะหารือในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ในเดือนมิถุนายนนี้

พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า การที่ไทยมี เอ็มโอยู ปี 2543 และการร่วมเป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก นั้น เป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประเทศ ในการได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับชาติต่างๆ ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะไม่เช่นนั้น นานาชาติ จะฟังข้อมูลจากกัมพูชา เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่า รัฐบาลไทยมีความคืบหน้าในการชี้แจงข้อมูลกับนานาประเทศ อย่างมาก

นอกจากนนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศลิเบีย ว่า ขณะนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน ได้ประสานงาน เพื่อดำเนินการให้แรงงานไทยที่ลิเบีย อยู่ในที่ปลอดภัย และนำออกนอกประเทศในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งต้องประเมินเรื่องความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา

ส่วนสถานการณ์ที่ประเทศนิวซีแลนด์นั้น ขณะนี้ยังคงไม่สามารถติดต่อคนไทย 6 คน ที่หายไปได้ ซึ่งรัฐบาลได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางไปช่วยสนับสนุน การทำงานของเจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์ อีกทางหนึ่งแล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook