ผอ.กาชาดสากลออกแถลงการณ์กรณีวีระ-ราตรี
นายฌาร์ค สเตราน์ ผู้อำนวยการคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) สำนักงานภูมิภาค กรุงเทพมหานคร ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า กาชาดสากลมีความเป็นกลางในการทำงาน โดยเฉพาะกรณีการดูแลผู้ต้องขังชาวไทยในกัมพูชานั้น ยึดหลักการรักษาความลับเป็นพื้นฐานของการสนทนา เชิงสร้างสรรค์ กับผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งช่วยให้ไอซีอาร์ซี สามารถเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังซ้ำได้ นั่นหมายความว่า เราจะไม่เผยแพร่สิ่งที่พบ และไม่แพร่งพรายข้อมูลแก่สื่อ หรือสาธารณชน แต่เราจะแบ่งปันรายงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพ และสภาพความเป็นอยู่ แก่เจ้าหน้าที่เรือนจำ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
แถลงการณ์กาชาดสากล ระบุอีกว่า ที่ผ่านมา มีคนบางกลุ่มต้องการให้ ICRC เป็นเครื่องมือประณามฝ่ายตรงข้าม ขอยืนยันว่า เราดูแลผู้ต้องหาชาวไทย เพื่อมนุษยธรรม โดยไม่มีการเลือกปฎิบัติ ไม่มีการช่วยไกล่เกลี่ย หรือช่วยนำผู้ต้องขังออกมาตามที่เป็นข่าว
นอกจากนี้ นายฌาร์ค ยังชี้แจงกรณี นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ด้วยว่า กรณีของผู้ต้องขังชาวไทย คือ คณะผู้แทนและแพทย์ของคณะกรรมการกาชาดระหว่าง ประเทศได้เข้าเยี่ยมเยียนบรรดาผู้ต้องขังอย่างสม่ำเสมอ และในฐานะที่ผู้ต้องขังเป็นชาวต่างชาติ พวกเขาจึงเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ ไอซีอาร์ซี ในกรุงเทพมหานคร ยังคงแจ้งข่าวคราวของผู้ต้องขัง ให้แก่ทางครอบครัวของพวกเขาทราบอย่างต่อเนื่อง เมื่อชาวไทย 7 คน ถูกจับกุมตัวเป็นครั้งแรก ในเดือนมกราคม พวกเขาได้รับอนุญาตให้เขียนจดหมาย ถึงครอบครัวของตนได้ ซึ่งผู้ต้องขังบางรายก็ได้เริ่มใช้วิธีการนี้
อย่างไรก็ตาม ความเอาใจใส่เป็นพิเศษดังกล่าว ไม่ใช่สิทธิพิเศษแต่อย่างใด ผู้ต้องขังทุกราย จะได้รับการเข้าเยี่ยม โดยไม่คำนึงว่าเหตุใดพวกเขาจึงถูกคุมขัง
แถลงการณ์กาชาดสากล ระบุอีกว่า ที่ผ่านมา มีคนบางกลุ่มต้องการให้ ICRC เป็นเครื่องมือประณามฝ่ายตรงข้าม ขอยืนยันว่า เราดูแลผู้ต้องหาชาวไทย เพื่อมนุษยธรรม โดยไม่มีการเลือกปฎิบัติ ไม่มีการช่วยไกล่เกลี่ย หรือช่วยนำผู้ต้องขังออกมาตามที่เป็นข่าว
นอกจากนี้ นายฌาร์ค ยังชี้แจงกรณี นายวีระ สมความคิด และ น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูลย์ ด้วยว่า กรณีของผู้ต้องขังชาวไทย คือ คณะผู้แทนและแพทย์ของคณะกรรมการกาชาดระหว่าง ประเทศได้เข้าเยี่ยมเยียนบรรดาผู้ต้องขังอย่างสม่ำเสมอ และในฐานะที่ผู้ต้องขังเป็นชาวต่างชาติ พวกเขาจึงเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษ ไอซีอาร์ซี ในกรุงเทพมหานคร ยังคงแจ้งข่าวคราวของผู้ต้องขัง ให้แก่ทางครอบครัวของพวกเขาทราบอย่างต่อเนื่อง เมื่อชาวไทย 7 คน ถูกจับกุมตัวเป็นครั้งแรก ในเดือนมกราคม พวกเขาได้รับอนุญาตให้เขียนจดหมาย ถึงครอบครัวของตนได้ ซึ่งผู้ต้องขังบางรายก็ได้เริ่มใช้วิธีการนี้
อย่างไรก็ตาม ความเอาใจใส่เป็นพิเศษดังกล่าว ไม่ใช่สิทธิพิเศษแต่อย่างใด ผู้ต้องขังทุกราย จะได้รับการเข้าเยี่ยม โดยไม่คำนึงว่าเหตุใดพวกเขาจึงถูกคุมขัง