วิชัยยันขอรื้อสุขาพธม.วันนี้-ไม่ใช่สลาย

วิชัยยันขอรื้อสุขาพธม.วันนี้-ไม่ใช่สลาย

วิชัยยันขอรื้อสุขาพธม.วันนี้-ไม่ใช่สลาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บรรยากาศที่ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขณะนี้ยังคงตึงเครียดอยู่ ท่ามกลางการประจันหน้ากัน
ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจนถึงขณะนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มทยอยออกมาสมทบกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการเตรียมป้องกันสวมหมวกกันน็อกและแว่นตา รวมถึงผ้าชุบน้ำ ทั้งนี้หลังมีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่จะใช้แก๊สน้ำตา
เข้าสลายการชุมนุม ขณะที่การจราจรโดยรอบนั้นก ลุ่มผู้ชุมนุมนำรั้วแผงเหล็กและรถจอดกีดขวางการจราจรเส้นทางถนนที่รถสัญจรผ่านในพื้นที่การชุมนุม เพื่อป้องกันการเข้ามาก่อกวนของกลุ่มบุคคลที่ 3 รวมถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่ออก
มายืนบริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่ยืนประกบทางเข้า - ออกด้านหลังเวทีการปราศรัย ส่งผลให้รถที่ขับผ่านต้องกลับรถเพื่อเลี่ยงเส้นทาง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม บนเวที นอกจากจะเป็นการปราศรัยของแกนนำที่ตำหนิรัฐบาลถึงการปฏิบัติหน้าที่ ที่ละเมิดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว ก็มีการร้องเพลงขับกล่อมดนตรี เพื่อปลุกใจผู้ชุมนุมให้เตรียมความพร้อม หากเจ้าหน้าที่
ใช้ความรุนแรง


ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ในฐานะ ผู้เจราจากับกลุ่มผู้ชุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า จากความพยายามที่จะเข้าขอรื้อส้วม จำนวน 48 ห้อง ของกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา แต่ถูกต่อต้านและไม่ให้เข้ารื้อถอนนั้น ตนยืนยันว่า ภายในวันนี้ จะขอเข้ารื้อส้วมดังกล่าวอย่างแน่นอน เพราะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้สัญจรไป - มา นานแล้ว ซึ่งไม่ใช่การขอคืนพื้นที่การชุมนุมแต่อย่างใด ส่วนที่เกิดการเผชิญหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมกับตำรวจปราบจราจล ที่ตั้งแถวเตรียมดำเนินการนั้น ยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ แต่เบื้องต้น จะเจราจาขอเข้าไปรื้อส้วมอีกครั้ง


ทั้งนี้ บรรยากาศที่ บริเวณแยกสวนมิสกวัน ถนนพิษณุโลก ขณะนี้ จำนวนกลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงมีการปิดกั้นช่องทางการจราจร และนั่งเป็นแถว เพื่อป้องกันการเข้ากระชับพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่เตรียมจะเข้าประจำพื้นที่ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีกำลังทั้งหมด กว่า 8 กองร้อย หรือ 1,200 นาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่นั้น อยู่ห่างจากกลุ่มผู้ชุมนุม ราว 200 เมตร โดยมีเพียงโล่สำหรับป้องกันการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่ กลุ่มผู้ชุมนุม นำโดย นายอมร อมรรัตนานนท์ ได้มีการพูดผ่านเครื่องกระจายเสียง โดยเนื้อหาเป็นการกล่าวแสดงจุดยืนของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาปักหลักอยู่บริเวณดังกล่าว โดยจะไม่ยินยอมออกจากพื้นที่ ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้มีการพูดผ่านเครื่องกระจายเสียงเพื่อชี้แจงให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องมีการขอเข้ากระชับพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตามล่าสุดในขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการประกาศว่า จะยินยอมถอนกำลังออกจากพื้นที่โดยขอให้กลุ่มผู้ชุมนุม ชุมนุมต่อไปอย่างสงบ ขณะที่พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เตรียมเข้าเจรจากับตัวแทนกลุ่มเครือข่ายอีกครั้ง เพื่อขอคืนพื้นที่บริเวณถนนพิษณุโลก ในเวลา 11.00 น.


และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ถอนกำลังออกจากบริเวณในพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ และเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ภายหลังนำกำลังเข้ามาปิดล้อมกดดันกลุ่มผู้ชุมนุมตลอดตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ทั้งนี้ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอนกำลังออกไปกลุ่มผู้ชุมนุมต่างแสดงอาการดีใจ ร้องเพลง เพื่อเป็นการแสดงถึงชัยชนะของพลังประชาชน โดยแกนนำคนสำคัญ อาทิ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ และ นายศรัณยู วงษ์กระจ่าง ได้ประกาศขอบคุณผู้ชุมนุมที่ร่วมพลังปกป้องพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คงจะต้องเฝ้าติดตามการแถลงข่าวจากกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อรอดูท่าทีของแกนนำ ถึงกรณีการกำหนดทิศทาง ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ นำกำลังเข้ามากดดัน และใกล้วันกำหนดขีดเส้นตายที่ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย จะขอให้กลุ่มผู้ชุมนุม เคลื่อนย้ายออกไปจากพื้นที่ดังกล่าว


ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์ที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวนกว่า 3 กองร้อย เข้ามาปิดล้อมพื้นที่การชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่ออำนวยความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ในการเข้ามารื้อถอนห้องสุขา และแผงร้านค้า บริเวณริมรั้วกระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก ภายหลังที่ เจ้าหน้าที่ ยืนป้องกันรักษาความสงบเรียบร้อยอยู่นั้น ส่งผลให้ผู้ร่วมชุมนุมทยอยกันออกมาร่วมต่อต้านมากขึ้น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงให้ยกเลิกภารกิจดังกล่าว ทั้งนี้ ทางผู้บังคับบัญชา จึงมีคำสั่งให้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกมาทั้งหมด โดยไม่มีเหตุการณ์การกระทบกระทั่งระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook