นายกฯยันเร่งช่วยน้ำท่วมใต้ย้ำลต.ตามเดิม

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่าง ปราศรัยกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังประชุมใหญ่สามัญพรรคว่า การที่ ตนประกาศจะยุบสภาในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคมนั้น เป็นการตัดสินใจที่มอง ประเทศเป็นหลัก เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลชุดนี้เหมือนกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในอดีต ที่บ้านเมืองเดินหน้าไม่ได้ ในขณะนี้ก็ได้นำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤติแล้ว ส่วนระยะเวลาที่เหลือเพียงเดือนเศษนั้น มีหน้าที่มุ่งมั่นงาน โดยจะต้องกล่าวให้ชัดเจน จะเดินหน้าแก้ไขความเดือดร้อนประชาชนอย่างไรบ้าง ซึ่งการเลือกตั้งเป็นเรื่องของอนาคต ไม่ใช่ว่าเรื่องใดทำอะไรมาแล้ว แต่เป็นเรื่องที่จะทำสิ่งใดให้กับประชาชนบ้าง ซึ่งความมั่นใจว่า สิ่งที่ทำมานั้น แก้วิกฤติของประเทศ ขณะเดียวกันจะไม่ยอมให้พวกที่ข่มขู่คุกคาม หรือ ใช้ความรุนแรง มาชี้นำประชาชน แต่เราจะทำงานเป็นระบบ จึงอยากให้ประชาชนมีทางเลือกให้ชัดเจน อยากให้ประชาชนเห็นว่า ผู้ที่จะมาดูแลบ้านเมืองต่อไป มีแนวคิดเห็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นขบวนการงดงามตามระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อพาบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมและอาสาขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า เพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นความยากลำบากต่อไปในอนาคต


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังเป็นประธาน การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ โดยเน้นย้ำให้ สมาชิกพรรค มีความเป็นเอกภาพ โดยเฉพาะในช่วงการลงพื้นที่หาเสียง ต้องสื่อสารไปยังประชาชนให้ชัดเจน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันเกี่ยวกับนโยบายของพรรค นอกจากนี้ ยังยืนยันว่า หากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีปัญหาติดขัดในการทำงานอย่างไร ก็ขอให้แจ้งมา โดยย้ำว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันกับกกต. ในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้มั่นใจว่า จะยังมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ตามกรอบเวลาที่รัฐบาลได้วางไว้ ถึงแม้ว่าจะมีบางกลุ่ม ไม่ต้องการให้เกิดขึ้นก็ตาม แต่เชื่อว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ในสังคม ต้องการให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ เข้าใจว่า หากต้องการชนะการเลือกตั้ง ก็ต้องเพิ่มจำนวนที่นั่ง ส.ส. ให้ได้ในทุกภาค แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประเมิน เกี่ยวกับตัวเลขที่ชัดเจน ส่วนที่ขณะนี้ มีการตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา รวมทั้ง มีการเสนอคู่แข่งขันที่จะชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เป็นคนกลางนั้น เห็นว่า สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่การเป็นคนกลางหรือไม่ แต่อยู่ที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างไร โดยเฉพาะ ปัญหาเรื่องปากท้อง และความเดือดร้อนของประชาชน