นายกฯเร่งช่วยน้ำท่วมใต้-งบไม่พอให้บอก

นายกฯเร่งช่วยน้ำท่วมใต้-งบไม่พอให้บอก

นายกฯเร่งช่วยน้ำท่วมใต้-งบไม่พอให้บอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกรายการสดเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ โดยในวันนี้ นายกรัฐมนตรี จัดรายการรูปแบบประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับความเดือดร้อน จากภัยธรรมชาติ ในประเด็นแผนป้องกัน และเตรียมรับมือภัยพิบัติ ที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และ จังหวัดพัทลุง นั้น ยังคงมีฝนตกอยู่เป็นระยะๆ โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช สนามบินก็ยังต้องปิด เนื่องจากเครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้ ทั้งนี้ ตนทราบปัญหาเรื่องที่เรือให้การช่วยเหลือ ประชาชนหากให้มีเครื่องยนต์จะต้านแรงน้ำไม่ได้ ขณะที่วงเงินการช่วยนั้น หากไม่เพียงพอ ก็ขอให้รายงานประสานกันอย่างใกล้ชิด ซึ่ง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะให้ความช่วยเหลือ

อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดที่รายงานผลกระทบประกอบด้วยภัยน้ำท่วมจากจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง รวมทั้งจังหวัดเชียงราย และ จังหวัดน่าน เพื่อรายงานผลความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินไหว

นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมประชุม วิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับนายรัฐมนตรี โดยกล่าวว่า
ทางจังหวัดได้ประกาศภัยพิบัติแล้วหลายอำเภอ โดยสถาการณ์วันนี้ฝนได้ตก และหยุดบางช่วง ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังอย่าง
ต่อเนื่อง พื้นได้รับความเสียหาย กว่า 1 แสนไร่ ประเมินมูลค่าความเสียหาย 300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังได้ประสาน
จังหวัดใกล้เคียงขอสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยผู้ประสบภัยแล้ว พร้อมแจ้งเตือนประชาชนอย่างใกล้ชิด โดยอุปสรรคน้ำท่วมขัง
บน ถนน แต่รถยังสามารวิ่งผ่านได้ ขณะที่สนามบิน ได้งดบินแล้ว เพราะมีน้ำท่วมขัง และได้ประสานเจ้าหาน้าที่เข้าแก้ปัญหาแล้ว

ด้าน นายพิสิษฐ บุญช่วง ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า สถานการณ์ในจังหวัด ตั้งแต่ฝนตกหนัก เมื่อวันที่ 23-25 มี.ค.
ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝน จำนวน 220 มิลเมตร จนทำให้น้ำเอ่อล้นไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 8 อำเภอ 347 หมู่บ้าน โดยทางจังหวัด ได้ระดมกำลังประชาชนอย่างเต็มที่ ขณะที่ นายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมากว่า 200 มิลิเมตร โดยพร่งนี้จะเคลื่อนไปทางฝั่งอันดามัน ซึ่งจะทำให้ จ.ระนอง ได้รับผลกระทบต่อไป ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ไปถึงสิ้นเดือน มี.ค.

ด้าน นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้
ประสานจังหวัด ที่ประสบภัยทั้งน้ำท่วม และแผ่นดิน เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป

ด้าน นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า อ.แม่สาย อ.เชียงแสน ได้รับความเสียหายหนัก ได้ตั้งศูนย์ประสานให้ความช่วยเหลือที่ศาลากลางจังหวัด และได้ระดมเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ และออกสำรวจบ้านเรือนปะรชาชนได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ความซ่อมแซมช่วยเหลือ วัดเจดีหลวงเชียงแสน ได้รับความเสียหาย ยอดเจดีย์ 680 ปี ได้หัก หล่นกระแทกพื้น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศิลป์ และกรมศาสนา เข้าไปดูแลเยียวยาแล้ว

ทางด้านนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน รายงานเหตุกาณ์แผ่นดินไหวที่กระทบไทย ในพื้นที่นั้น จาการสำรวจความเสียหาย ไม่พบว่า ถนน และเครื่องสาธารณะ เสียหาย มีเพียง วัดพระธาตุแช่แห้ง ที่มีรอยร้าว และวัดภูมิรินทร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ และพบว่าโครงสร้างยังแข็งแรงดี และได้ประสานการบูรณะปฏิสังขรณ์แล้ว

ทางด้าน นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวยืนยันว่า ทางศูนย์เตือนภัยมีการเฝ้าระวังตรวจสอบ สถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หากมีเหตุกาณณ์หรือแนวสุ่มเสี่ยง จะเกิดภัยพิบัติ ก็จะมีการแจ้งเตือนไปตามช่องทางต่างๆ ทั้งทางวิทยุ เอสเอ็มเอส และหน่วยงานฝ่ายปกครองไปให้ประชาชนรับทราบทันที รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติตามแผนสากล หากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นมา และขอให้ประชาชน ไว้วางใจ ว่าศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ มีประสิทธิภาพ ดูแลและแจ้งเตือนประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ให้ดีที่สุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook