นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นากยรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับแจกถุงยังชีพ และมอบเงินเยียวยาให้กับญาติผู้เสียชีวิต
จำนวน 50,000 บาท ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนว่า ขอให้ติดตามการเตือนภัยของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ส่วนเงินค่าชดเชยที่จ่ายให้ครอบครัวละ 5,000 บาท จากที่ประสบอุทกภัยเมื่อปลายปีก่อนนั้น ที่ยังจ่ายให้ไม่ครบทุก
ครอบครัว เพราะล่าช้า มีปัญหาเรื่องรายชื่อที่ซับซ้อน จึงต้องมีการตรวจสอบ แต่ยืนยันว่า จะเร่งรัดช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้รับรายงานเรื่องดินถล่มที่ จ.กระบี่ แล้ว และมีผู้เสียชีวิต ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ และกองทัพ กำลังเร่งดูแลแก้ไขปัญหา และสิ่งที่ย้ำ คือ การเตือนภัยและการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เนื่องจาก
ปริมาณฝนที่ตกลงมามาก และมีหลายพื้นที่ ที่อุ้มน้ำไม่ไหว ตนก็ไม่ทราบว่าจะอุ้มได้เพียงใด จึงขอเน้นย้ำในเรื่องความปลอดภัย และต้องแจ้งเตือนภัยอย่างจริงจัง โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม อย่างไรก็ตาม ไม่ยอมให้มีการฉวยโอกาส
ขึ้นราคาสินค้าเด็ดขาด ตามที่มีรายงาน
ข่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยว่า หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับความเสียหายด้านทรัพย์สิน และพืชผลทางการเกษตรนั้น คณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ คชอ. กำหนดหลักเกณฑ์ ให้ความช่วยเหลือและเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางไปตรวจสภาพของโรงพยาบาลท่าศาลา ที่ถูกน้ำท่วมสูง โดยเครื่องมือแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ขณะนี้น้ำได้ลดลงแล้ว ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามผู้อำนวยการโรงพยาบาล เพื่อหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อไปด้วย
อย่างไรก็ตาม คณะของนายกรัฐมนตรี ต้องเดินทางด้วยรถยนต์จาก จ.นครศรีธรรมราช ไปยัง จ.ตรัง จากเดิมจะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก และขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยาน จ.ตรัง เดินทางกลับกรุงเทพฯ
