ปาฏิหาริย์มีจริง มานะได้แข่งต่อ สเตจ7จบ79

ปาฏิหาริย์มีจริง มานะได้แข่งต่อ สเตจ7จบ79

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หลังจากที่ทำเอาแฟนๆ กีฬาคนไทยต้องผิดหวังไปตามๆ กัน เมื่อก่อนหน้านี้มีรายงานว่าเจ้าหนึ่ง " มานะ พรศิริเชิด นักแข่งแรลลี่ชาวไทยในดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา - ชิลี ต้องเดินทางกลับบ้านก่อนกำหนด เนื่องจากรถแข่งติดอยู่ในหล่มทรายสเตจที่ 5 เป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม ร่วมกับรถแข่งอีกว่าร้อยคัน ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการที่ผู้จัดการแข่งขันมาให้ความ ช่วยเหลือรถแข่งของมานะล่าช้ากว่ารถแข่งคันอื่นๆ ทำให้มานะ และ เธียรรี่ เนวิเกเตอร์ มาไม่ทันในการออกสตาร์ตในสเตจที่ 6 ส่งผลให้ต้องออกจากการแข่งขันที่สุด ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่นายประสาน ดวงวิบูลย์ ผู้จัดการทีมได้เข้าร่วมประชุมพร้อมชี้แจงกับผู้จัดการแข่งขันถึงสาเหตุที่รถแข่งของมานะ ที่มาไม่ทันออกสตาร์ตในสเตจ 6 ที่เกิดจากการช่วยเหลือที่ล่าช้าของผู้จัดการแข่งขันเอง ประกอบกับที่ผู้จัดการแข่งขันประกาศยกเลิกผลการแข่งขันในสเตจที่ 5 และ 6 จึงทำให้มานะ ยังอยู่ในการแข่งขันต่อไป อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มานะ พรศิริเชิด และเธียร์รี่ ลาคอมบ์ สองนักแข่งทีมไทย ต้องก่อกองไฟเพื่อความอยู่รอดกลางทะเลทรายปาทาโกเนีย ที่มีอากาศหนาวจัดถึงขั้นติดลบ เพื่อรอคอยการช่วยเหลือผู้จัดการแข่งขันนั้น ทั้งคู่ได้เดินทางกลับมายังแคมป์ด้วยอาการที่อิดโรย ก็เข้าร่วมประชุมกับทีมใหญ่ทันที พร้อมนำรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 เข้ารับการซ่อมบำรุงและตรวจเช็กสภาพความพร้อม ก่อนออกสตาร์ตต่อในสเตจที่ 7 ซึ่งก่อนสตาร์ตในสเตจที่ 7 มานะได้โทรศัพท์มาบอกกับทีมงานที่ประเทศไทยว่า ตอนนี้ดีใจมากที่ได้แข่งต่อในสเตจที่ 7 ผมและรถแข่งก็มีความพร้อมที่สุดที่ทำ การแข่งขันในสเตจต่อไป Race for Thailand ครับ โดยการแข่งขันในสเตจที่ 7 ออกสตาร์ตกัน ที่เมืองเมนโดซ่าข้ามพรมแดนสู่เมืองวาลปาไดโซ่ประเทศชิลี รวมระยะทาง 816 กิโลเมตร ซึ่งในวันนี้ผู้จัดการแข่งขันได้ลดช่วงจับเวลาพิเศษจากเดิม 491 กิโลเมตร เหลือเพียง 243.36 กิโลเมตร ในวันนี้นักแข่งจะต้องเผชิญกับสภาพเส้นทาง ที่หลากหลายทั้งทะเลทรายที่ว่ากันว่าโหดกว่าสเตจที่ 5 รวมทั้งช่วงจับเวลาพิเศษที่ต้องวิ่งบนทางที่สูงกว่า 3,000 เมตร ก่อนที่นักแข่งคันที่เหลือรอด จะได้เข้าสู่ประเทศชิลีเป็นวันแรก ซึ่งผลการแข่งขันในสเตจนี้ของมานะ พรศิริเชิด และเธียร์รี่ ลาคอมบ์ สองนักแข่งจาก มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต สิงห์ ทีมไทยแลนด์ ในรถแข่งมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลย 368 นั้น สองนักแข่งทีมไทยได้ช่วยกันทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยออกสตาร์ตในอันดับที่ 87 และเข้ามาเป็นอันดับที่ 79 ของสเตจด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 52 นาที 24 วินาที รั้งอันดับที่ 80 โอเวอร์ออล ด้วยเวลา 68 ชั่วโมง 15 นาที 2 วินาที ตามหลังผู้นำคาร์ลอส แซงค์ สังกัดโฟล์คสวาเกน อยู่ 44 ชั่วโมง 32 นาที 22 วินาที ด้านทีม เรปซอล มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ต แค่เพียงจบสเตจที่ 7 ก็ต้องเหลือรถแข่งขันหมายเลย 304 ที่ขับโดยโจน นานิ โรมา นักแข่งชาวสเปนเพียงคันเดียว จากทั้งหมด 4 คัน โดยในสเตจนี้ โรมา เข้าเป็นอันดับที่ 4 ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 41 นาที 4 วินาที รั้งอันดับที่ 4 โอเวอร์ออลด้วยเวลา 24 ชั่วโมง 11 นาที 56 วินาที ตามหลังผู้นำอยู่ 29 นาที 16 วินาที สำหรับในวันพรุ่งนี้เป็น วันแรกที่นักแข่งทุกคนจะได้พักผ่อนและตรวจเช็กรถแข่งกันอย่างเต็มที่ หลังจากต้องเหน็ดเหนื่อยจากการแข่งขันกันมาอย่างต่อเนื่องตลอด 7 วันที่ผ่านมา และหากนักแข่งยังมีกำลังใจและรถแข่งยังพร้อมทะยานไปข้างหน้า การแข่งขันที่เหลืออีกครึ่งทางก็คงไม่น่าเกินความสามารถที่จะฝ่าฟันไปให้ถึง อนึ่ง ขอเชิญชาวไทยและแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตติดตามชมการแข่งขันและส่งแรงใจเชียร์ 2 นักแข่งทีมไทย มานะ พรศิริเชิด และเธียร์รี่ ลาคอมบ์ พร้อมด้วย มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีโวลูชั่น หมายเลข 368 ให้สามารถคว้าชัยในการแข่งขันดาการ์ แรลลี่ 2009 อาร์เจนตินา " ชิลี ผ่านทาง FM 96.00, FM 106.75 หนังสือพิมพ์ และรายการข่าวกีฬาของสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง หรือติดตามความคืบหน้าได้จาก www.pajerosport2dakar.com, www.dakar.com และ www.mitsubishi-motors.co.th ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์คิกออฟ ฉบับ 3459
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook