กีฬากอล์ฟดูเหมือนจะไกลตัว "หลี่หมิง" เหมือนอยู่คนละฟากฟ้าเมื่อเยาว์วัย แต่เมื่อได้สัมผัสหัดเล่น อาการหลงใหลหัวปักหัวปำก็บังเกิด เคยออกรอบ 36 หลุม ตั้งแต่เช้าจรดเย็น บางที่เล่นบ่ายจบเย็น ไปต่อค่ำสนามที่มีไฟเปิด ทำบ่อยครั้ง
ข้อแนะนำสำหรับการเล่นกอล์ฟ คือ หาโปรเก่งในการสอนเบสิกมาแนะนำตั้งแต่จับกริฟ จะทำให้พื้นฐานแน่น ตีสนุก และไม่เละออกทะเล
สำหรับ "หลี่หมิง" ใช้สไตล์ "ครูพักลักจำ" เริ่มต้นแบบผิดๆ เพราะสอนกันเอง ฝึกกันเอง วงสวิงจึงเหมือน "จับกังตี" เน้นความรุนแรง หัวไม้โอเวอร์จนถึงเอว ช่วงแรกๆ ไม่รู้สึกสนุกผูกพันมากนัก เพราะตีไม่ค่อยจะได้เรื่องได้ราว สุดท้ายเสียตังค์เกินกว่าค่ากรีนฟี
อย่างไรก็ตาม ด้วยความมุมานะจึงทุ่มเงินให้โปรแนะนำ และแก้ไข แม้จะทำให้วงสวิงสวยสง่าเป็นราศีไม่ได้ แต่จังหวะการหมุนจากเอวส่งถึงสะโพก และตีลูกผ่านโดนเต็มๆ ทำให้สกอร์ลดลงฮวบฮาบประมาณ 40 ต้นๆ
ช่วงที่มีความสุขสมอารมณ์หมายกับการตีกอล์ฟ เมื่อฟอร์มการไดรฟ์ตรงไกลไร้ความผิดพลาด ขณะที่ลูกสั้น และลูกพัตต์ ได้เติมแต่งจากการเข้าสนามไดรฟ์(แอบ)ฝึกฝนหนัก จึงเป็นทีเด็ดให้ใครๆ แอบชม ทำให้ "หลี่หมิง" ติดเล่นกอล์ฟงอมแงม
ตอนจัดรายการกีฬาทั่วทิศ เอฟเอ็ม 90.5 ใหม่ๆ ต้องเอาใจสปอนเซอร์ กีฬากอล์ฟช่วยได้ระดับหนึ่ง มีผู้บริหารบริษัทเอกชนรายหนึ่งชอบตีกอล์ฟกลางคืนแถวปทุมธานี "หลี่หมิง" แอบไปร่วมก๊วนบ่อยครั้ง กว่าจะกลับถึงบ้านก็เกินเที่ยงคืนสัปดาห์ละ 2-3 วัน
ย้อนนึกถึงตอนทำข่าว "ไทเกอร์ วูดส์" รุ่งโรจน์สุดๆ เรียกเรตติ้งจากแฟนกอล์ฟทั่วโลก โดยเฉพาะพี่ไทย นับถือเป็นคนบ้านเดียวกันจากเชื้อ "แม่" ที่เป็นคนไทย
"หลี่หมิง" จำได้ไม่ลืมรายการไทยแลนด์โอเพ่น ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์ย่านคลอง 5 รังสิต ดักรอ "ไทเกอร์" ที่ขึ้นกรีน แล้วเข้าห้องเพรสเซ็นเตอร์บริเวณทางเข้าประตูห้อง ยื่นหมวกที่ซื้อจากเมืองซิดนีย์ช่วงกลับจากทำข่าวโอลิมปิกเกมส์ 2000 หรือประมาณ 10 ปีที่แล้ว "พญาเสือ" ยิ้มเล็กๆ ยื่นมือเหมือนลิงกอริลล่า ตัวใหญ่ทมึนบัง "หลี่หมิง" มิด แล้วเซ็นบนหมวกใบงาม
เพิ่งรู้วันนั้นว่า นักกีฬาระดับโลกเค้าจะมีปากกาส่วนตัวไว้เซ็นให้แฟนๆ ที่ดักรอ ด้วยความฮอต นักข่าวไทยเทศต่างมะรุมมะตุ้มล้อมขอลายเซ็นตามติด จนโฆษกในห้องแถลงข่าวต้องประกาศขอความร่วมมือให้งดขอลายเซ็น "ไทเกอร์"
ความยิ่งใหญ่ของ "เสือใหญ่" ในช่วงรุ่งโรจน์สุดขีด "หลี่หมิง" เปรียบเหมือนเป็น "ดีเอโก้ มาราโดน่า" ที่มักโชว์ลูกมหัศจรรย์เฉกเช่น เลี้ยงบอลหลบผู้เล่น 5 คนแล้วปาดเข้าประตูในการเจอทีมชาติอังกฤษ ปี 1986
ช่วงนั้นหากมี "ไทเกอร์" แข่งขัน สปอนเซอร์หายห่วงเรื่องแย่งกันลงโฆษณา การถ่ายทอดสดทุกครั้ง "หลี่หมิง" จะเฝ้าติดตาม และเห็นลูกหวดเหล็ก 3 ระยะ 230 หลา ออนในซ็อต 2 ของพาร์ 5 มาแล้ว
ครั้งนั้น "ไทเกอร์" หวดเต็มแรงหมุนเอวส่งสะโพกอย่างดุดันจนหญ้ากระจาย จำได้ยังไม่ครบวงแต่ "ไทเกอร์" กระโดดตัวลอย เพราะคนตีกอล์ฟจะรู้ดีว่า "อิมแพ็ก" หรือ การปะทะของเหล็กกับลูกเต็มๆ นั้นเป็นอย่างไร
แต่วัฏจักรความรุ่งโรจน์ และร่วงโรย ได้มาถึง "พญาเสือ" อย่างน่าใจหาย หลังจากสิ้นพ่อ "ไทเกอร์จูเนียร์" และต้องเลิกกับเมียเผือกที่หิ้วลูกไปอยู่ด้วย ทำเอาเสียงคำรามเป็น "แมวเหมียว" กระทบกับฟอร์มการเล่นอย่างไม่น่าเชื่อ
ศึก "พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ" ณ สนามแอตแลนตา แอธเลติก คลับ รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (11-14 ส.ค.) ปรากฏว่า วูดส์ ยังไม่สามารถคัมแบ็กได้ ทำสกอร์รวมสองวัน 10 โอเวอร์พาร์ ไม่ผ่านการตัดตัว โดยถือเป็นอีกครั้งที่ วูดส์ ยังไม่สามารถสัมผัสแชมป์ใดได้นับตั้งแต่ศึก "ออสเตรเลียน มาสเตอร์ส 2009" หรือเกือบ 2 ปีมาแล้ว
ความมั่นใจเหมือนในช่วงอดีตที่คว้าชัยได้อย่างต่อเนื่องได้หดหายไป สภาพจิตใจที่ส่งถึงฟอร์มการเล่น หมายถึงสัญญาณอันตรายโดยตรง โดยเกจิอาจารย์ฟันธงว่า ขณะนี้มีนักกอล์ฟหน้าใหม่ที่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น คีแกน แบรดลีย์ (แชมป์พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2011), ริคกี้ ฟาวเลอร์ (รุกกี้ของพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2010) และ โรรี่ย์ แม็คอิลรอย (แชมป์ยูเอส โอเพ่น 2011)
ทุกคนยังพัฒนาได้ "ดีขึ้น" เป็นอนาคตที่สดใส ผิดกับ "พญาแมว" ที่มีแต่ "ทรุด" และไร้อนาคต
ได้ยินได้อ่านเจอในท่วงทำนองการวิเคราะห์วิจารณ์ถึงไทเกอร์ว่า หมดทางที่จะกลับมาครอบครองวงการอีกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายการเมเจอร์ที่เจ้าตัวกำลังเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดอยู่ "หลี่หมิง" ได้แต่สะท้านใจกับความยิ่งใหญ่ที่เจ้าตัวทำไว้
เท่าๆ กับยังเชื่อมั่นว่าจะมีจุดเปลี่ยนที่เป็น "ปาฏิหาริย์" ให้ "เสือน้อย" เลิกเป็น "แมวเหมียว" กลับมาได้เหมือนตอนที่ "หลี่หมิง" ผิดพลาดในลูกไดรฟ์ หรือ ตีตกทรายเข้าป่าจนเสียหายในบางหลุม มักจะท่องย้ำให้กำลังใจกับตัวเองว่า "กอล์ฟ คือ การกลับมา" จากนั้น ก็จะเริ่มเข้าฝักเข้าฟอร์มอันเกรียงไกร ไล่ล้วงเงินในกระเป๋าเพื่อนร่วมก๊วนกลับคืน
"กอล์ฟ คือการกลับมา" ฝากถึง "ไทเกอร์" น้องรัก "กลับมาทางเดิมที่มึงเข้า" ง่ายๆ (แต่ทำยาก) บ๊ายบาย ปู๊นๆ ฉึกฉักๆ ๆ ๆ
เรื่องโดย "หลี่หมิง"
ขอบคุณเนื้อหาจากคอลัมน์ หลี่หมิงยิงแฮตทริก