เขื่อนภูมิพลยังวิกฤต ระดับน้ำยังไม่ลดลง

สถานการณ์น้ำที่ใกล้ล้นเขื่อนภูมิพล ขณะนี้ยังคงวิกฤติติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เพราะน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนยังมีระดับสูง ทำให้เขื่อนภูมิพลต้องเร่งระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนทางประตูฉุกเฉินให้มากและเร็วที่สุด เนื่องจากมีพื้นที่รับน้ำไม่มาก ปัจจุบันเขื่อนมีน้ำกักเก็บทั้งสิ้น 13,351 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลืออีก 111 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยทำการระบายทั้งสองช่องทาง คือ ช่องทางปกติ และช่องทางฉุกเฉิน จำนวนกว่า 100 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากว่าเหลืออีก 0.83 เปอร์เซ็นต์ น้ำจะล้นอ่าง ในขณะที่มีน้ำไหลเข้าวานนี้จำนวน 136 ล้านลูกบาศก์เมตร

นอกจากนี้น้ำที่ไหลลงมาบรรจบจากแม่น้ำวัง ลงสู่แม่น้ำปิง อีกจำนวนมหาศาลในแต่ละวัน ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลผ่าน ตัวอำเภอเมืองตากมากถึงวินาทีละ 2,375 ลูกบาศก์เมตร หรือ วันละ 205 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้แม่น้ำปิง รับไม่ไหว ไหลเข้าท่วมพื้นที่ อ.บ้านตาก อ.เมือง และ อ.วังเจ้า ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 1,000 ครอบครัว ซึ่งทางจังหวัดตาก

นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และคณะจะมาเดินทางตรวจสถานการณ์ของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล รวมทั้งร่วมวางแผนการระบายน้ำ ทั้งระยะสั้น และระยะยาวของเขื่อนภูมิพลที่จะส่งผลกระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด

ขณะที่ นายชัยประเสริฐ เนตรอนงค์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการฯ ยังคงปิดประตูระบายน้ำของเขื่อนกิ่วลม ทั้ง 5 บาน มาโดยตลอด ถึงแม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วม ในเขตเมืองลำปาง อ.เกาะคา เริ่มคลี่คลาย ส่วนพื้นที่ อ.เถิน อ.แม่พริก ซึ่งยังคงมีน้ำท่วมอยู่บ้าง ซึ่งล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนกิ่วลม อ.เมือง จ.ลำปาง มีน้ำอยู่ที่ 84 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นความจุ 77%

อย่างไรก็ตาม ทางโครงการฯ ยังต้องปิดประตูระบายน้ำเขื่อนกิ่วลม เพราะถือว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ทิศใต้ของจ.ลำปาง และพื้นที่ จ.ตาก ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติ หลังน้ำท่วมอย่างหนัก ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดของการที่จะเปิดประตูน้ำเพื่อระบายน้ำแต่อย่างใด ส่วนปริมาณน้ำวังในเขตตัวเมืองลำปาง ขณะนี้ก็ได้ลดลงไปบ้างแล้ว

นอกจากนี้ ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้ออกประกาศเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ ในวันที่ 8-9 ตุลาคม 2554 โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ควรจับตาเฝ้าระวังเป็นที่สุด