โพลล์เทคะแนนให้ทหารช่วยเหลือน้ำท่วม

6 พ.ย. - เอแบคโพลล์ เผยผู้ประสบภัยเทคะแนนให้ทหารสูงถึง 9.56 คะแนนเต็ม 10 คะแนน รองลงมาเป็นอาสาสมัครและสื่อมวลชน สายด่วนการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ได้รับความพอใจมากสุด ขณะที่สายด่วน ศปภ.น้อยสุด โทร.แล้วสายไม่ว่างหรือรับเรื่องไว้ไม่มีการช่วยเหลือ อยากได้ค่าซ่อมบ้านหลังน้ำลด

นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวถึง ผลสำรวจเสียงสะท้อนของผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมต่อผู้เข้าให้ความช่วยเหลือในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,478 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-5 พฤศจิกายน 2554 พบว่า ความพอใจของผู้ประสบภัย ต่อศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ และสายด่วนต่างๆ พบว่า 5 อันดับ ที่พอใจสูงสุด จากคะแนนเต็ม 10 ได้แก่ 1. สายด่วนบริการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 ได้ 6.83 คะแนน 2. สายด่วนรถไฟแห่งประเทศไทย 1690 ได้ 5.86 คะแนน 3. สายด่วนแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 191 ได้ 5.83 คะแนน 4. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โทร 1129 ได้ 5.75 คะแนน และ 5 . ศปภ. โทร. 1111 กด 5 ได้ เพียง 5.51 คะแนนปัญหาที่พบ คือ โทร.แล้วสายไม่ว่าง ถ้าโทรติดก็ไม่มีคนรับสาย หรือเมื่อมีคนรับสายมีแต่รับเรื่องไว้ไม่มีการดำเนินการช่วยเหลืออะไร หรือถ้ามีก็ล่าช้ามากและสายเกินไป

ส่วนความพึงพอใจในการรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานและคณะบุคคลพบว่า ความช่วยเหลือจาก "ทหาร" ยังครองใจ และได้ใจในความพึงพอใจของประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติสูงสุด โดยได้ 9.56 คะแนน รองลงมาพอใจ อาสาสมัคร 9.10 คะแนน สื่อมวลชน 9.08 คะแนน ตำรวจ 9.05 คะแนน ส่วนความพึงพอใจของกรุงเทพมหานครและรัฐบาลได้รับความพึงพอใจจากประชาชนไม่แตกต่างกันคือ 8.34 กับ 8.3 คะแนน ส่วนความเดือดร้อนที่น่าเป็นห่วง ได้แก่ เรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่รายได้ หรือเงินเดือนเท่าเดิม

พบร้อยละ 72 .6 เดือดร้อนในเรื่องราคาอาหาร รองลงมาร้อยละ 65.7 เดือดร้อน ราคาน้ำดื่ม สำหรับเสียงสะท้อนของผู้ที่อยู่ในศูนย์พักพิงร้อยละ 66.3 อยากให้ทำฐานข้อมูลช่วยเหลือด้านการเงินหลังน้ำลด รองลงมาร้อยละ 47.1 อยากให้ปรับปรุงเรื่องห้องน้ำร้อยละ 43.4 ให้แก้ไขเรื่องความปลอดภัย นอกจากนี้ อยากให้ทำฐานข้อมูล ช่วยเหลือ ด้านที่ทำกินร้อยละ 42.6 และร้อยละ 41.5 ระบุต้องการมีการฝึกวิชาชีพ

นายนพดลกล่าวว่า จากการสำรวจสิ่งที่อยากได้เป็นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลหลังน้ำลดพบว่า ร้อยละ 65 อยากให้ซ่อมแซมที่พักอาศัย รองลงมาร้อยละ 59.3 อยากให้แก้ปัญหาราคาสินค้าร้อยละ 54.6 อยากให้แก้ปัญหา คนว่างงาน ร้อยละ 52.4 หาแนวทางป้องกันน้ำท่วมในอนาคต นอกจากนี้ ข้อเสนอผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมต่อรัฐบาลและฝ่ายค้านในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติในอนาคตว่า ร้อยละ 93.8 ขอให้หยุดขัดแย้ง หยุดโจมตีกัน รองลงมาร้อยละ 63 ขอให้บอกความจริงที่ครบถ้วนกับประชาชนร้อยละ 58 ขอให้ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินร้อยละ 55.9 ขอให้ปรับปรุงเรื่องระบบเตือนภัยและร้อยละ 54.9 ขอให้ปรับปรุงเรื่องการสื่อสารกับประชาชน

ส่วนทางด้าน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ระหว่างผู้ที่เข้าพักอาศัยในศูนย์พักพิง และผู้ที่ไม่เข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิง จำนวน 1,454 คน ระหว่าง 1-5 พฤศจิกายน 2554 พบว่า เหตุผลของผู้ที่เข้าพักอาศัยในศูนย์พักพิง ร้อยละ 39.18 บ้านถูกน้ำท่วม ไม่มีที่อยู่อาศัยอื่น รองลงมา ร้อยละ 30.42 บ้านถูกตัดน้ำตัดไฟ เดินทางซื้ออาหารลำบาก ร้อยละ 16.66 มีบุตรหลาน และผู้สูงอายุต้องดูแล ห่วงในความปลอดภัยของคนในครอบครัว และร้อยละ 13.74 ถูกชักชวนให้มาอยู่ในศูนย์พักพิง

ส่วนเหตุผลของคนที่ไม่เข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิง ร้อยละ 51.16 ยังสามารถพออาศัยอยู่ชั้นบนของบ้านได้ ห่วงสัตว์เลี้ยงและกลัวโจรขโมยของในบ้าน ร้อยละ 28.57 มีที่พักพิงอื่นทั้งพักบ้านญาติ เช่าหอ หรือคอนโดมีเนียม ร้อยละ 13.39 ไม่อยากไปอยู่ศูนย์พักพิง เพราะแออัด ส่วนความช่วยเหลือที่อยากได้จากรัฐบาลทั้งผู้ที่อยู่ในศูนย์พักพิง และไม่อยู่ในศูนย์ฯ ไม่แตกต่างกัน ร้อยละ 60.05 และร้อยละ 57.67 ต้องการเงินชดเชยซ่อมแซมบ้านถูกน้ำท่วม ขณะเดียวกันการแก้ไขปัญหาภาพรวมของรัฐบาล ทั้งผู้ที่อยู่ในศูนย์พักพิง และไม่อยู่ในศูนย์ฯไม่แตกต่างกัน ร้อยละ 46.90 และร้อยละ 41.53 เห็นว่า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้ ขาดการเตรียมพร้อมที่ดี และการให้ความช่วยเหลือไม่ทั่วถึง - สำนักข่าวไทย