สรรพสามิตเผยพ.ย.เก็บภาษีน้ำอัดลมเพิ่ม

นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทำให้โรงงานต่างๆ ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมได้รับความเสียหาย จึงทำให้กรมฯ ประเมินว่าจะส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ในเดือน พ.ย. อย่างแน่นอน การจัดเก็บภาษีน้ำมัน และรวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ปรับลดลง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมา การจัดเก็บภาษีเครื่องดื่ม น้ำอัดลมเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาน้ำเปล่าขาดแคลน ประชาชนจึงหันมาดื่มน้ำอัดลมแทน ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเกินกว่าเป้าหมายในเดือนนี้แล้วกว่า 200 ล้านบาท โดยจัดเก็บได้ประมาณ 1.2 พันล้านบาท

ในขณะที่การเก็บภาษีในสินค้าประเภทสุรา และเบียร์ ลดน้อยลง เพราะโรงงานผลิตฝาจีบรายใหญ่ หยุดการผลิตฝาจีบ เพราะโดนน้ำท่วมไป 8-9 ราย จากทั้งหมดที่มี 18 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50 % ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนฝาจีบ เพื่อทำให้บรรจุภัณฑ์เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้น ผู้ผลิตรายใหญ่ จึงเสนอขอให้มีการนำเข้าฝาจีบในช่วงที่ไม่สามารถผลิตได้ โดยให้ยกเว้นภาษีศุลกากร ขณะนี้กรมสรรพสามิต ได้ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลัง พิจารณาแล้ว

สำหรับปัจจุบันฝาจีบ มีความสำคัญต่อการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิต เพราะการเก็บรายได้จะพิจารณาจากจำนวนฝาจีบ ที่ใช้ปิดขวด ผู้ประกอบการเครื่องดื่ม ต้องมายื่นขอแสดงจำนวน ในการใช้ฝาจีบกับกรมฯ เพื่อเสียภาษีก่อนแล้วกรมฯ จะออกใบอนุญาตให้ จากนั้น ก็นำใบอนุญาตไปรับฝาจีบจากโรงงานที่ผลิต เพื่อนำไปปิดบนขวดเครื่องดื่ม ขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาประสิทธิการจัดเก็บภาษี ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่คือ วิชั่น เซ็นเซอร์ เพื่อทดแทนแบบเก่า