กัมพูชาฉลองครบรอบ 30 ปีที่เขมรแดงถูกโค่นอำนาจ

กัมพูชาฉลองครบรอบ 30 ปีที่เขมรแดงถูกโค่นอำนาจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
(7ม.ค.) ชาวกัมพูชาหลายหมื่นคน ได้ออกไปเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปี ที่เขมรแดงถูกโค่นอำนาจ เมื่อปี 2522 โดยรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาชนกัมพูชา หรือ CPP ที่ทรงอำนาจของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ที่สนามกีฬาโอลิมปิค สเตเดียม ในกรุงพนมเปญ

ประชาชนรวม 4 หมื่นคน ได้เข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลอง ซึ่งเมื่อ 30 ปีก่อน คือเมื่อปี 2522 กองกำลังภายใต้การนำของเวียดนาม ได้โค่นอำนาจเขมรแดง ที่ถูกประนามว่าปกครองกัมพูชาด้วยความโหดเหี้ยม ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2 ล้านคน นายกรัฐมนตรีฮุน เซน และสมาชิกพรรค CPP ต่างพากันปรบมือ ขณะชมการร่ายรำตามประเพณีเขมร,การแสดงของวงดุริยางค์และขบวนรถบุปผชาติ

// //

นายเจีย ซิม ประธานพรรค CPP กล่าวสุนทรพจน์ต่อฝูงชนว่า ชัยชนะเมื่อวันที่ 7 มกราคม เมื่อ30 ปีก่อน ได้ช่วยรักษาแผ่นดิน และประชาชนชาวกัมพูชาเอาไว้ได้ พิธีเฉลิมฉลองเป็นเครื่องหมาย ของการปิดหน้าประวัติศาสตร์อันมืดมนของกัมพูชาและขอขอบคุณเวียดนามที่ช่วยกัมพูชาจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และทำให้พลิกฟื้นคืนมาได้

เขมรแดงได้ปกครองกัมพูชา เมื่อปี 2518 และถูกระบุว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายล้านคน จากการทำงานหนัก , การประหารชีวิตและความอดอยากหิวโหย ก่อนที่ถูกกองทัพที่ได้รับการสนับสนุนจากเวียดนาม โค่นอำนาจเมื่อเดือนมกราคา ปี 2522 พรรค CPP ปกครองเวียดนามนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งจากเวียดนามในขณะนั้น และนายเจีย ซิม ได้เน้นเรื่องความสำเร็จของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศที่ยากจน และของคุณประชาชนที่สนับสนุนพรรครัฐบาล แต่ขณะเดียวกัน เขากลับไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการตั้งศาลอาชญากรสงครามที่สหประชาชาติ

ให้การสนับสนุน เพื่อดำเนินคดีบรรดาผู้นำเขมรแดงที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่คาดว่าจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

พอล พต หรือฉายา พี่ชายหมายเลข 1 เสียชีวิตเมื่อปี 2541 แต่ยังเหลืออีก 5 คน ที่ยังมีชีวิตอยู่ และมีกำหนดจะถูกนำตัวขึ้นศาลฐานเป็นอาชญากรสงครามและกระทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หลังจากถูกเลื่อนออกไปนานนับสิบปี อันเนื่องมาจากความวิตกว่าจะถูกแทรกแทรงทางการเมือง

ตะลุยข่าว : THE GREEN POLICE กองปราบฯ สู่ศตวรรษที่ 21

ในขณะที่หลายประเทศทั่วโลกสามารถระงับยับยั้งปัญหาอาชญากรรมให้ลดลงและควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ ตรงกันข้ามกับประเทศไทย กลับมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และมีการกล่าวถึงในระดับนานาชาติว่า

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook