ชูวิทย์แฉบ่อนพนัน-เปลือยเต้าอยู่พื้นที่สายไหม

ชูวิทย์แฉบ่อนพนัน-เปลือยเต้าอยู่พื้นที่สายไหม

ชูวิทย์แฉบ่อนพนัน-เปลือยเต้าอยู่พื้นที่สายไหม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์  ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย เปิดเผย สำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. เกี่ยวกับบ่อนการพนันอักษรย่อ ส. ที่มีการ"โชว์เต้า" จนเป็นที่ฮือฮาของสังคมว่า บ่อนแห่งนี้อยู่ในพื้นที่เขตสายไหม เป็นบ่อนขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะพนันโต๊ะเดียว แต่จะมีการจัดแสดงโชว์ เช่น การเปลือยหน้าอก เป็นต้น โดยจะมีการโชว์ในช่วงที่แขกน้อย เพื่อเรียกลูกค้า พร้อมระบุว่า บ่อนขนาดเล็กเช่นเดียวกันนี้ มีเป็นจำนวนมากในพื้นที่เขตสายไหม และยังมีเครือข่ายเดียวกันอีกหลายพื้นที่ อาทิ เขตลาดพร้าว ลาดกระบัง เป็นต้น  ซึ่งตนจะเปิดเผยชื่อบ่อน และข้อมูลเกี่ยวกับบ่อนการพนัน รวมถึง สิ่งผิดกฎหมายอื่น ๆ อีก ภายในสัปดาห์หน้าอย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ ยังกล่าวด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการประสานขอข้อมูลมาแต่อย่างใด แต่ถึงจะประสานมา ตนก็จะไม่ให้ข้อมูลใด ๆ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก เพราะเห็นว่า ไม่มีประโยชน์ ที่ผ่านมาตนเคยให้ข้อมูลไปแล้ว แต่พบว่าปัญหาทุกอย่างไม่ได้รับการแก้ไข ไม่มีการปราบปรามที่จริงจัง ส่วนมาก การจับกุมก็เป็นการเตี๊ยมกันมากกว่า จึงคิดว่า ตำรวจเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ไม่ใช่เป็นผู้แก้ปัญหา แต่จะเก็บข้อมูลไว้ใช้ประโยชน์ในทางอื่น ๆ ยืนยัน จะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ และไม่กลัวการถูกทำร้ายด้วย ส่วนการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ยังมองว่า ต้องแก้ที่กฎหมายเท่านั้น ชงปิดผับซีวิคเขม่นยิงกระบะ5ศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร นำกำลังตำรวจ 50 นาย เข้าตรวจสถานบันเทิง "เอ็กซ์ไซด์ ผับ" ย่านพระราม 3 หลังหนึ่งในผู้เสียหายที่รอดชีวิต กรณีกลุ่มคนร้าย จำนวน 6 คน ร่วมกันก่อเหตุขับรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค ไล่ยิง เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ก่อนประสบอุบัติเหตุบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 23 และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย โดยอ้างว่า สถานบริการดังกล่าวได้เปิดเกินเวลา ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภายในผับดังกล่าว พบ นักเที่ยวประมาณ 30 คน จึงนำมาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและยึดบัตรประชาชน พร้อมสั่งให้ปิดสถานบันเทิงให้ตรงเวลาด้วยโดย พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.วัดพระยาไกร เปิดเผยว่า  ผลการตรวจไม่พบนักเที่ยวมีปัสสาวะสีม่วง รวมถึง ไม่พบเด็กและเยาวชน ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าใช้บริการ  ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ได้มีการปล่อยปละละเลย โดยได้มีการกำหนดมาตรการอย่างเข้มงวด ทั้งการสุ่มตรวจสถานบันเทิงในพื้นที่ทุกวันศุกร์และวันเสาร์  และเมื่อวาน ได้นำกำลังมาปิดผับ ในเวลา 03.00 น. พร้อมส่งฟ้อง นางนุช  ศรีโนนทอง เจ้าของร้าน ต่อศาลแขวงกรุงเทพใต้ ฐานเปิดสถานบันเทิงเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด และปรับเทียบเป็นเงินสด จำนวน 1 หมื่นบาท และในวันที่ 23 มกราคม 2555 ทาง สน.วัดพระไกร จะทำหนังสือถึง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. ให้มีการพิจารณาสั่งปิดสถานบันเทิงแห่งนี้ เป็นเวลา 60 วัน ส่วนคณะกรรมการของ บช.น. จะมีคำสั่งเพิ่มโทษหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจาณาอีกครั้ง เบื้องต้น โทษสูงสุดอาจถึงขั้นถอนใบอนุญาตประกอบกิจการได้ อย่างไรก็ตาม แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะอยู่นอกพื้นที่ของ สน.วัดพระยาไกร ซึ่งต้องขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย ส่วนผับแห่งนี้ ตำรวจ ป.ป.ส. เคยนำกำลังมาตรวจเมื่อปีที่ผ่านมา และพบนักเที่ยวมีบัสสาวะสีม่วงและนักเที่ยวพกพาอาวุธปืนเข้ามาในสถานบันเทิง จนถึงสั่งปิดไปแล้ว จำนวน 60 วัน ตร.เตรียมออกหมายจับ3โจ๋ยิงอริดับ5สำหรับความคืบหน้ากรณี กลุ่มวัยรุ่น จำนวน 6 ราย ซิ่งรถเก๋งฮอนด้า ไล่ยิงกระบะคู่อริ กลางถนนสุขสวัสดิ์ 23 หลังเขม่นกันมาจาก เอ็กซ์-ไซด์ ผับ สถานบันเทิงดังย่านพระราม 3 จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน  5 ราย ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบตัวผู้ที่อยู่ในรถเก๋งฮอนด้าแล้ว มีทั้งหมด 6 คน รวมทั้ง นายเอกรินทร์ ผู้ต้องหา ที่เข้ามอบตัวก่อนหน้า โดยวันนี้  พนักงานสอบสวน จะนำพยานหลักฐานไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี ออกหมายจับ นายวีรยุทธ จรูญเรือง หรือ อั้ม อายุ 23 ปี นายศักดิ์สิทธิ์ หรือ กี้ วรรณพาหุล อายุ 20 ปี นายวรุฒ หรือ ตู้ พละเดช อายุ 23 ปี ในข้อหาร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนา ร่วมกันพยายามฆ่า มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หรือ หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอีก 2 คน คือ นายสุทธินันท์ หรือ แนท กังวาลเพราะ อายุ 19 ปี และนายพงศ์เทพ หรือ หนุ่ย ผ่องแผ้ว อายุ 22 ปี ที่โดยสารมากับนายเอกรินทร์ เจ้าหน้าที่ จะติดตามตัวมาสอบสวนอีกครั้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook