หวั่นนายจ้างแห่ปิดกองทุนสำรอง เสนอ สศค.ผ่อนผันจ่ายเงินสมทบ

นางอารยา ธีระโกเมน อุปนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กล่าวว่า ผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบที่เป็นนายจ้างหลายแห่งที่จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เริ่มประสบปัญหาทางการเงิน ในปีที่ผ่านมามีบริษัทหลายแห่งปิดกิจการและยกเลิกกองทุน ขณะที่บางแห่งเริ่มมีการสอบถามข้อมูลมายังสมาคมว่าจะสามารถชะลอส่งเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพในส่วนของนายจ้างได้หรือไม่ เนื่องจากรายได้ลดลงจากวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้ไม่สามารถแบกรับต้นทุนต่อไปได้

ขณะนี้สมาคมอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลจำนวนนายจ้างที่มีการปิดกิจการในช่วงที่ผ่านมา และแนวโน้มการปิดกิจการในปีนี้ เพื่อเสนอให้แก่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาประกอบการตัดสินใจ ในการอนุญาตผ่อนผันให้แก่นายจ้างที่ประสบปัญหาทางการเงิน สามารถชะลอส่งเงินสมทบเข้ากองทุนในส่วนของนายจ้างได้เช่นเดียวกับที่เคยอนุญาตเมื่อปี 2540 นางอารยา กล่าวและว่า หาก สศค.ผ่อนผันให้เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ แต่หากไม่มีการผ่อนผันให้ ก็อาจทำให้ภาคธุรกิจต้องปิดกองทุนไปโดยปริยาย ทำให้ระบบการออมเพื่อวัยเกษียณเกิดปัญหา

// //

นอกจากนี้ ในส่วนของสมาคม ยังเตรียมที่จะเสนอให้ สศค. ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับลูกจ้างที่ย้ายไปทำงานกับบริษัทใหม่ ให้สามารถโอเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปยังบริษัทใหม่ได้โดยได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ เพื่อส่งเสริมให้มีการออมต่อเนื่อง

นางอารยา กล่าวอีกว่า ภาพรวมธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีที่ผ่านมา ผลตอบแทนการลงทุน ปรับตัวลดลงตามดัชนีหุ้น และแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง ส่วนแนวโน้มในปีนี้คาดว่าตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไม่น่าจะสดใสมากนัก เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทำให้แนวโน้มการขอจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงลดลง

คำมั่นอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะต้องคุ้มครองสื่อให้ปลอดจากอำนาจรัฐ-อำนาจทุน

สำหรับข่าวโทรทัศน์วันนี้ที่มีการคุยข่าวไปเรื่อยๆ เป็นอันตราย แม้ข้อดีคนจะได้มีความเพลิดเพลิน แต่อันตรายของการคุยข่าวคือการชี้นำ เพราะไม่เหมือนกับการอ่านข่าวหรือประกาศข่าวอย่างที่เราเห็นในอดีต