ขี้ยายิงแสกหน้าแม่ค้า ชิงจยย.หนีตำรวจ
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/218/1092863/21-1-2555_19-49-20.jpgขี้ยายิงแสกหน้าแม่ค้า ชิงจยย.หนีตำรวจ

    ขี้ยายิงแสกหน้าแม่ค้า ชิงจยย.หนีตำรวจ

    2012-01-21T18:54:25+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ขี้ยาเดนสังคมหนีตร.ไล่กวด ใช้ปืนจ่อยิงแม่ค้าสาวใหญ่ดับอนาถกลางกรุง ย่านประดิพัทธิ์ ก่อนชิงจยย.หลบหนี

    (21 ม.ค.) สน.บางซื่อรับแจ้งเหตุ มีคนขับรถจยย.ถูกยิงเสียชีวิต ที่ ซอยประดิพัทธิ์ 5 หน้า บริษัท เอส ซี เอส อินดัสตรี้ จำกัด แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จึงรุดไปตรวจเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนน เจ้าหน้าที่พบศพ นางวิมล เกตุเหล็ก อายุ 54 ปี อาชีพขายน้ำ-ขนมคบเคี้ยว หลังขนส่งหมอชิต ถูกกระสุนปืนขนาด ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่บริเวณคอ 1 นัด

    จากการสอบสวน พยานในที่เกิดเหตุ ได้ให้การว่า ขณะนั่งอยู่บริเวณสวนหย่อม เห็นผู้เสียชีวิตขับรถจยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาถึงจุดเกิดเหตุ จากนั้นได้เห็นคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์วิ่งออกมา แล้วได้ขวางหน้ารถจยย. แล้วมีการฉุดกระชากกัน ทำให้คนร้ายซึ่งถืออาวุธปืนมาด้วยจ่อยิงผู้ตายจนล้มลง ก่อนที่คนร้ายจะขับจยย.คันดังกล่าวหลบหนีไป

    ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.บางซื่อ ได้เข้าทำการตรวจสอบ และปิดล้อม บ้านเลขที่ 11 ซอยร่วมมิตร เขตพญาไท หลังได้รับแจ้งว่ามีการมั่วสุมเสพยา เจ้าหน้าที่สามารถทำการควบคุมตัว นายวีรชน เสือสกุล หรือ โอ๋ อายุ 34 ปี ซึ่งอยู่ในห้องดังกล่าวในสภาพเมายามาทำการสอบปากคำ ส่วนอีก 2 คน ได้หลบหนีไปได้ทราบชื่อในเบื้องต้นแล้วคือ นายสมชาย เอี่ยมไพจิตร หรือ เอเหลือก อายุ 34 ปี และนายยงยุทธ วงศ์ศิริ หรือ เค อายุ 27 ปี 

    ต่อมา พล.ต.ต.พิสิฎฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รองผบช.น.พร้อมคณะนายตำรวจ ได้ร่วมกันสอบปากคำตัวนายวีรชน กว่า 1 ชม. โดยในเบื้องต้นนายวีรชน ได้ให้การว่าก่อนเกิดเหตุเสพยาอยู่กับนายสมชาย ที่ห้องพักบริเวณชั้นสองของบ้าน จนกระทั่งนายยงยุทธ ได้ขึ้นมาบอกว่าตำรวจมา จึงพากันหลบหนีออกทางหน้าต่าง และแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง แต่ตนทราบว่านายสมชาย ได้พกอาวุธปืนไปด้วย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจับคดีค้ายาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง

    ล่าสุดเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้กำลังตรวจสอบภาพวงจรปิดว่า นายสมชาย เป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ ทั้งนี้จากตรวจสอบประวัตินายสมชาย พบว่าเคยถูกจับกุมในคดีครอบครองยาบ้าเพื่อจำหน่ายจนต้องโทษจำคุก 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 7 วัน ก็มาก่อเหตุอีกครั้ง