ชาวบ้านร้านตลาด - เสี้ยนเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลควรถอน

ชาวบ้านร้านตลาด - เสี้ยนเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลควรถอน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
โดย ยั้งดาบไว้ไมตรี ไม่เอ่ยถึงชื่อหน่วยงานใด ไม่กี่วันถัดมา สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็ประจานการทำงานของผู้บริหาร บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเวจคาร์ด จำกัด หรือ ทีพีซี. ผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายบัตรเอกสิทธิ์ไทยแลนด์ อีลิท หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า อีลิทการ์ด

หนึ่งในหลายหน่วยงานที่รัฐบาลควร ทุบทิ้ง ปรากฏเป็นข่าวขึ้นมาอย่างเหมาะเหม็งจริงๆ

// //

บริษัทนี้ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2546 ทำหน้าที่ขายการเป็นสมาชิกพิเศษแก่มหาเศรษฐีชาวต่างชาติ ให้ถือ การ์ด เข้ามาตักตวงความสุขในเมืองไทยได้อย่างเต็มที่ แต่บริษัทนี้ประสบแต่ความล้มเหลวมาโดยตลอด ตั้งเป้าที่จะขายการ์ดให้ได้เท่านั้นเท่านี้ต่อปี ก็ไม่เคยได้ตามเป้าสักปี ขนาดบางปีลดเป้าต่ำลงมากว่าครึ่งก็ยังทำไม่ได้

ที่แย่กว่านั้น ผู้บริหารของบริษัทนี้ก็ ถลุงเงิน กันเป็นว่าเล่น เท่านั้นยังไม่สะใจ เที่ยวเอื้อประโยชน์ให้สมาชิกพรรคการเมืองของคุณทักษิณ ชินวัตร ไปใช้จ่ายอีกบานเบอะ ตามรายงานของ สตง.มีชื่อบุคคลเหล่านั้นชัดเจนว่ามีใคร และใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ก็หวังว่ารัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ จะหา จำเลย ได้ไม่ยากนะครับ

อีกหน่วยงานหนึ่งที่อยากให้รัฐบาลทบทวนว่าควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่ คือ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ที่ใช้อักษรย่อภาษาไทยว่า สสปน. ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปี 2547 หน้าที่ของหน่วยนี้คือ เป็นตัวกลางในการดึงต่างชาติให้เข้ามาจัดประชุม หรือจัดนิทรรศการต่างๆ ในประเทศไทย

ทั้งๆ ที่กิจกรรมดังกล่าว ภาคเอกชนทั้งที่เป็นบริษัทจัดงานแสดงสินค้าและงานประชุมทางวิชาการหรือเจ้าของสถานที่จัดงานอย่าง ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาติไบเทค ที่บางนา หรือศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค ที่เมืองทองธานี หรือที่สร้างเสร็จใหม่ๆ ที่พัทยา ต่างก็ทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ แสวงหาลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติมาจัดกิจกรรมในแต่ละแห่งเต็มตลอดปีอยู่แล้ว

จึงไม่ทราบว่าต้องมีหน่วยงานทำนองนี้ทำไมให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินอีก ตอนรัฐบาลเก่าจัดทำงบประมาณประจำปี 2552 สสปน.ขอไป 850 ล้านบาท แต่บังเอิญผู้อำนวยการ สสปน.นามสกุล อมรวิวัฒน์ หรือเปล่าไม่ทราบได้ รัฐบาลเกิดใจดีให้มาถึง 913 ล้านบาท แต่เชื่อผมเถอะว่า หากยังปล่อยให้หน่วยงานนี้ทำงานอยู่ เงินแค่ 913 ล้านบาทนี้คงไม่พอหรอกครับ ข้ออ้างประเภท เศรษฐกิจไม่ดี มีการแข่งขั้นสูง ก็จะนำมาซึ่งการ แบมือ-ถือกะลา ร่อนไปร่อนมา เพื่อให้รัฐบาลเติมเงินให้อีกนั่นแหละ

หน่วยงานในทำนองนี้ล่ะครับ ที่ผมอยากให้รัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กรุณาตั้งคณะทำงานขึ้นมาทบทวนดูว่า จำเป็นต้องมีต่อไปหรือ หากไม่จำเป็นควรยุบทิ้งเสีย โอนงานต่างๆ คืนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไป ส่วนพนักงานในสังกัดก็โอนย้ายไปอยู่ในหน่วยงานอื่นๆ ที่แต่ละคนชำนาญการจะดีกว่านะครับ

ตอนนี้รัฐบาลเหมือนคนถังแตก การปล่อยให้หลายหน่วยงาน ช่วยตัวเองไม่ได้ อยู่เหมือนปลิงในหนองน้ำ หรือเห็บบนหลังหมา นั้นน่ารำคาญนะครับ ช่วงแรกของการเป็นรัฐบาล หากประชาธิปัตย์ถอนเสี้ยนเศรษฐกิจที่ว่านี้ออกไปซะบ้าง คงได้ใจชาวบ้านร้านตลาดโขทีเดียวนะครับ

ภานุมาศ ทักษณา

เสียงเล็กๆ นวันเด็กขอนายกฯช่วยคนไทยรักกัน

วันเด็กแห่งชาติปีนี้...ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานไปเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ ที่เปิดเป็นพื้นที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ ทำเนียบรัฐบาล ที่เคยโอ่อ่ากว้างใหญ่ กลับแคบลงไปถนัดตา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook