คอลัมน์ เศรษฐกิจรอบสัปดาห์

คอลัมน์ เศรษฐกิจรอบสัปดาห์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
คลอดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการหารือร่วมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเมื่อวันที่ 7 ม.ค.ว่า เบื้องต้นที่ประชุมได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีการใช้งบกลางเพิ่มเติม 1 แสนล้านบาทในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย 9 กลุ่ม อาทิ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ในเรื่องการใช้น้ำใช้ไฟฟรีหนึ่งในนโยบาย 6 มาตรการ 6 เดือนที่ต้องดำเนินการต่อเนื่องไปอีก 6 เดือนทันที กลุ่มผู้ใช้แรงงานนอกภาคเกษตร โดยการจัดโครงการฝึกอบรมแรงงาน 5 แสนคนทั้งบัณฑิตจบใหม่และผู้ถูกเลิกจ้าง เป็นต้น คาดว่าจะสามารถกระตุ้นเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ภายใน 3-6 เดือน โดยทุกหน่วยงานต้องจัดทำรายละเอียดให้แล้วเสร็จเพื่อหารือกับตนและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) อีกครั้งก่อนเสนอให้ ครม.เห็นชอบในวันที่ 13 ม.ค.นี้

ไม่ยืดลดภาษีน้ำมัน

น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการไปว่าจะไม่ต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เพราะขณะนี้ราคาน้ำมันปรับลดลงมาก กระทรวงพลังงานเตรียมเงินไว้แล้วกว่า 3,000 ล้านบาทจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันในวันที่ 1 ก.พ.ไม่ให้ปรับขึ้นทันที หากกระทรวงไม่เข้าไปช่วยน้ำมันจะปรับขึ้นตามภาษีสรรพสามิตและภาษีอื่นๆ ที่ลดลง คือ แก๊สโซฮอล์ 3.88 บาท/ลิตร ดีเซล 2.71 บาท/ลิตร บี 5 ที่ 2.47 บาท/ลิตร ซึ่งจะหมดเวลาลดภาษีในวันที่ 31 ม.ค.52

มาร์คกุมบังเหียนบีโอไอ

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้นั่งเป็นประธานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อดูแลการลงทุนด้วยตัวเอง และนายกฯ มีความเป็นห่วงการลงทุนที่กำลังหดตัวลง โดยในปี51 มูลค่าการลงทุนลดลงถึง 29.69% เหลือเพียง 4.46 แสนล้านบาท จากปี50 ที่อยู่ระดับ 6.34 แสนล้านบาท ในปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 6.5 แสนล้านบาท การที่จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ขึ้นอยู่กับงบประมาณกลางปีที่จะได้รับจัดสรรเพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมขอไป 8-9 พันล้านบาท จากปกติที่ได้รับไม่ถึงระดับพันล้านบาท นอกจากนี้ บีโอไอกำหนดจัดงานนายกฯ พบนักลงทุน ในวันที่ 19 ม.ค.เพื่อเป็นเวทีในการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ

ขาดดุลพุ่งหลุดกรอบคลัง

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า กรมสรรพากรรายงานการจัดเก็บรายได้ในปี52 น่าจะต่ำกว่าเป้า 1.2-1.3 แสนล้านบาท จากที่คาดจะได้ 1.58 ล้านล้านบาทจะเหลือเพียงกว่า 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งหากรวมการตั้งงบขาดดุลปี52 อีก 3.5 แสนล้านบาท จะส่งผลให้ปีนี้ขาดดุลทางการคลังสูงถึง 4.8 แสนล้านบาท ซึ่งจะสร้างภาระทางการคลังให้รัฐบาล และส่งผลต่อเนื่องถึงความสามารถในการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี53 ที่มีข้อจำกัดเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการขาดดุลที่เกิดขึ้นยังอยู่ในขอบเขตที่รัฐบาลบริหารจัดการได้

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า กรอบวินัยการคลังระบุว่าการขาดดุลทางการคลังในปี52 ไม่ควรจะขาดดุลเกิน 4.3 แสนล้านบาท

เล็งปิดดอนเมือง

นายศรีสุข จันทรางศุ ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาโครงข่ายการขนส่งทางอากาศ เปิดเผยภายหลังการประชุมนัดแรกว่า กระทรวงคมนาคมมีนโยบายหลักในการบริหารท่าอากาศยานเดี่ยว โดยใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลัก ขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมืองจะใช้สำหรับกิจกรรมที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบิน หรือใช้สำหรับเครื่องบินเช่าเหมาลำแต่ไม่ใช่เที่ยวบินประจำปกติ ซึ่งข้อดีของการบริหารจัดการท่าอากาศยานเดี่ยว คือ ป้องกันความสับสนของผู้โดยสารที่ใช้บริการ ส่วนสายการบินประจำที่ทำการบินที่ดอนเมืองในขณะนี้ต้องย้ายมาให้บริการที่สุวรรณภูมิ แต่ยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาชัดเจนว่าจะต้องย้ายเมื่อใด

หวยออนไลน์ยังไม่แท้ง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการหวยออนไลน์ ว่า ปัญหาอยู่ที่เรื่องสัญญากับทางบริษัท ล็อกซเล่ย์ จีเท็ค เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งกระทรวงการคลังกำลังสรุปว่าสถานะปัจจุบันในเชิงข้อกฎหมายและเชิงสัญญาเป็นอย่างไร และต้องดูว่าถ้ายกเลิกสัญญาจะมีผลอย่างไร เพราะเรื่องนี้เคยมีการฟ้องร้องมาแล้วครั้งหนึ่ง และตนก็พูดชัดเจนมาแล้วครั้งหนึ่งว่าถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากทำต่อ แต่ถ้ามีข้อผูกมัดและการเลิกมีความเสียหายต่อรัฐก็ต้องมาดูว่าความเสียหายชั่งแล้วเป็นอย่างไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook