ไก่ ภาษิต ลมออกหู จวกสื่อไร้จรรยาบรรณ เต้าข่าวเกย์ไม่หยุด

ผู้ประกาศข่าวไฟแรง "ไก่ ภาษิต" เผยฉุนไม่น้อยที่ถูกสื่อบันเทิงเขียนพาดพิง ในทำนองชอบไม้ป่าเดียวกันตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันก็ยังเต้าข่าวไม่หยุด เสียใจที่เพื่อนร่วมอาชีพไร้จรรยาบรรณเขียนข่าวโดยไม่มีมูลเหตุ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักคนที่ตกเป็นข่าวด้วย ไม่ว่าจะเป็นข่าวกับ "หมอโอ๊ค สมิทธิ์" และล่าสุดก็มีข่าวว่าควงพระเอกหนุ่มลูกหม้อเอ็กแซ็กท์ "สน ยุกต์" เปิดโรงแรมนอนที่ใต้

"ผมกับสนเราไม่รู้จักกันเลย ผมเพิ่งเคยเห็นตัวจริงสนเมื่อกี้เองครับ (ได้ไปภาคใต้แล้วเปิดโรงแรมนอนหรือเปล่า) ไม่มีเลยครับ ทำงาน 7 วันเลยครับ แต่ถ้าไปทะเลอาจมีบ้างอย่างวันอาทิตย์ไปหัวหินเช้าวันจันทร์กลับ ไม่ค่อยได้ไปไกลมาก ล่าสุดที่ไปภาคใต้ก็ไปทัวร์สัญจรกับคุณสรยุทธช่วงที่ภาคใต้น้ำท่วม"

รู้สึกอย่างไรที่มีข่าวแบบนี้
"ข่าวนี้เพิ่งได้ยินนะครับ รู้สึกตกใจ ผมพยายามจะพูดให้ชัดว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงหวังว่าทุกท่านจะเข้าใจ ผมมองว่าข่าวแบบนี้มันเป็นความเชื่อและไม่เชื่อ การวิพากษ์วิจารณ์ผมรับได้ครับ ธรรมดา"

ส่วนตัวแล้วซีเรียสไหม
"ผมซีเรียสกับข่าวหมอโอ๊ค ขออนุญาตพูดให้ชัดเจนและขอพาดพิงด้วยเพราะว่าวันก่อนมีหนังสือพิมพ์บันเทิงฉบับนึง พาดหัวข่าวพาดพิงถึงผมในเนื้อข่าวไม่ได้มีชื่อผมปรากฏอยู่เลย รู้สึกว่าผมเสียหายและในกรณีของหมอโอ๊ค ถ้าเล่าย้อนไปผมตกเป็นข่าวกับหมอโอ๊คตั้งแต่ 2549 เป็นปีแรกที่ผมเข้ามาอ่านข่าว เพิ่งอ่านข่าวได้ 2 เดือนยังไม่รู้จักใคร ตอนนี้ก็ยังไม่รู้จักว่าหมอโอ๊คคือใคร จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่รู้จักกัน ยังไม่เคยพุดคุยหรือแนะนำตัวเลย เคยทำงานที่ยืนใกล้กันก็ไม่ได้คุยกัน เพราะฉะนั้นจนถึงปัจจุบันผมก็ยังตอบคำถามได้เหมือนเดิมว่าเราไม่รู้จักกันนะครับ"

"คราวนี้มันมีประเด็นเรื่องที่เขามีความรัก ผมมองว่ารักเป็นสิ่งสวยงาม เวลาพี่น้องนักข่าวเวลาไปสัมภาษณ์ เราก็จะพูดในมุมที่ดีวาจาที่ไพเราะ แต่เวลาพาดหัวข่าวคือมันทำร้ายและไม่ใช่ผมคนเดียว มันทำร้ายหมอโอ๊คและคุณโอปอล์ด้วย ทุกคนที่เป็นแหล่งข่าวของคุณโดนทำร้ายหมดเลย ในฐานะผมเป็นนักข่าวเหมือนกัน ผมก็รู้สึกว่าโดนทำร้ายในกลุ่มคนในสายอาชีพเดียวกัน ผมไปปรึกษากับคนอื่นว่าทำยังไงดี ทุกคนก็จะบอกว่าก็นี่แหละนักข่าวบันเทิงไทย มันเสียไปหมดเลย ผมว่าเราช่วยกันดีกว่า ผมรู้สึกไม่พอใจเพราะเขาพาดหัวข่าวทำร้ายผม แต่ไม่ได้ถามผมเลยว่าเรื่องจริงเป็นยังไง"

หนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวได้ติดต่อเข้ามาสัมภาษณ์ไหม
"ฉบับนั้นไม่ได้ติดต่อเข้ามา เบอร์ผมหาไม่ยากหรอก ถ้าอยากสัมภาษณ์ผมก็ได้อยู่แล้ว ให้เกียรติผมนิดนึงนะครับ ในฐานะแหล่งข่าวของคุณก็ได้ ทุกครั้งที่ผมจะเล่าข่าวผมก็จะบ่งบอกแหล่งข่าวที่ชัดเจน ให้เกียรติแหล่งข่าวของผมเสมอ ถ้าผมตกไปข่าวผมก็มีความคาดหวังว่าทุกคนจะให้เกียรติในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ"

เราก็ไม่พอใจเหมือนกัน?
"โกรธครับ อย่างที่บอกคือผมตอบคำถามตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบันคำตอบก็เหมือนเดิม โอเคไปวิจารณ์ในอินเทอร์เน็ตผมไม่ว่า แต่ถ้ามันปรากฏในสื่อสิ่งพิมพ์นั่นหมายถึงว่ามันมาจากมือนักข่าว ทำไมเราถึงไม่มีจรรยาบรรณ ทำไมต้องทำให้วงการเราเสื่อมเสีย"

ได้โทรไปคุยกับทางหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นหรือไม่
"ไม่ครับ นิ่งเฉยๆ ทำอะไรไม่ได้"

หลังจากมีข่าวออกมาคนรอบข้างว่าอย่างไรบ้าง
"คนรอบข้างไม่ค่อยถาม เพื่อนสนิทรู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันกระทบกับอาชีพผม ผมเป็นผู้ประกาศข่าว ผมเล่าความจริง ฉะนั้นการออกข่าวในทำนองนี้มันทำให้รู้สึกว่าสิ่งผมพูดไปมันไม่ใช่ความจริง มันมีผลต่อความน่าเชื่อถือในอาชีพของผม"

"อยากฝากบอกว่ากรณีผมกับหมอโอ๊คให้จบได้แล้ว มันเป็นข่าวที่ยาวนาน เมื่อก่อนผมเชื่อว่าข่าวที่ปรากฏออกมา ไม่มีมูลหมาไม่ขี้หรอก พอมาถึงวันนี้มันไม่มีมูลแต่มันก็ออกมาเป็นก้อนขี้ได้"