รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

รอบด้านตลาดหุ้น - บล.บัวหลวง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปภาพตลาด เรามาดูกันว่าดัชนีตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นมาส่งสัญญาณเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาขึ้นหรือแค่รีบาวด์ระยะสั้น เริ่มแรกเราใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ที่เราใช้ได้ง่ายแต่ได้ผลลัพธ์ออกมาดีแม่นยำคือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 10&25 พร้อมกับเครื่องมือ MACD พบว่าตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐถึงแม้จะดีดตัวขึ้นแต่ยังไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น สอดคล้องกับเครื่องมือ MACD ตัดขึ้นเป็นบวกแต่ยังอยู่ต่ำกว่าเส้น 0 หมายความว่าตลาดรีบาวด์ระยะสั้นแต่ยังไม่เปลี่ยนเป็นรอบขาขึ้น เรายังคงจับตาดูเรื่องของกระแสเงินลงทุนต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วหลังจากค่าเงินเยนยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเริ่มเห็นทิศทางวกกลับมาเป็นอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินดออลาร์สหรัฐ รวมทั้งค่าเงินบาทและเงินสกุลเอเชียเช้านี้มีทิศทางแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกัน สรุปแนวโน้มค่าเงินที่ปรับตัวขึ้นจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงกระแสเงินลงทุนที่ไหลเข้า อย่างไรก็ตามต่างชาติกลับออกหน้าขายติดต่อกัน 3 วันมียอดขายสุทธิรวมทั้งสิ้น 5 พันล้านบาท มาดูตลาดหุ้นเอเชียดีดขึ้น แต่เป็นการขึ้นที่ยังไม่ผ่านเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นเหมือนกับตลาดหุ้นฝั่งยุโรปและสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นบ้านเราก็ถูกกดโดยเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นที่ 1180 จุดเช่นกัน มาดูอีกเครื่องมือที่บอกแนวโน้มตลาดได้ดีคือ Bollinger Band ปัจจุบันดัชนี SET ทะลุลงมาเล่นกรอบล่างหมายถึงแนวโน้มขาลง   สรุป: คำแนะนำเชิงเทคนิคยังมองตลาดรีบาวด์ระยะสั้นยังไม่เปลี่ยนรอบเป็นขึ้นโดยมีแนวต้านที่ 1180 จุดดังเช่นเดิม   ธนรัตน์ อิศรกุล Tel. (662) 618-1334   ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาด   สเปน และฝรั่งเศสจะเปิดประมูลพันธบัตรวันนี้ สเปนวางแผนจะขายพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปีวงเงิน 2.5 พันล้านยูโร และ ฝรั่งเศสจะขายพันธบัตร inflation link ครบกำหนดปี 2017 และ 2018 วงเงิน 1.1 หมื่นล้านยูโร ที่ผ่านมาธนาคารกลางยุโรปได้อัดฉีดเงินผ่านโครงการ Long-term Refinancing Operation (LTRO) ไปแล้ว 1 ล้านล้านยูโร ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจมากนักว่าทั้งสองประเทศจะสามารถขายพันธบัตรได้หมด หากผลการขายพันธบัตรดีเกินคาดจะทำให้นักลงทุนมั่นใจมากขึ้น และหากผลการขายได้น้อยจะสะท้อนว่าตลาดตราสารหนี้เริ่มขาดความมั่นใจต่อการลงทุนในพันธบัตรกลุ่มประเทศยุโรป ปัจจุบันผลตอบแทนพันธบัตรสเปนได้ปรับตัวสูงกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ และผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสได้ปรับขึ้นด้วยเช่นกัน ภายหลังรัฐบาลสเปนได้พยายามอย่างยิ่งยวดจัดการลดขาดดุลงบประมาณเพื่อสร้างเสถียนรภาพต่อเศรษฐกิจในระยะยาว (Bloomberg)   จีนอัตฉีดสภาพคล่องการเงินผ่าน window ทางการจีนได้อัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติมผ่านตลาดรับซื้อคืนพันธบัตร แต่ยังไม่พิจารณาลดสัดส่วนเงินสดธนาคารพาณิชย์ และ อัตราดอกเบี้ย โดยทางการจีนกล่าวว่าจะปรับลดสัดส่วนเงินสดสำรองฯ และ อัตราดอกเบี้ยเมื่อสถานการณ์เหมาะสมในอนาคต อุปทานเงินในตลาดการเงินจีนเพิ่มขึ้นสูงสุดในเดือนมีนาคม 13.4 เปอร์เซ็นต์มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 12.9 เปอร์เซ็นต์ จากการเปิดเผยของนายธนาคารจีนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ทางการจีนจะอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มขึ้นอีกราว 8 แสนล้านหยวนในช่วงไตรมาสสองนี้ (CNBC)   กองทุนฟื้นฟูปิ๊งขายหุ้นกรุงไทยใช้หนี้ นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะกรรมการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกล่าวถึง แนวคิดการขายหุ้นธนาคารกรุงไทย ที่กองทุนฟื้นฟูฯถืออยู่ออกมาประมาณ 5%ว่า ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลและกองทุนฟื้นฟูฯ ได้มีการหารือเรื่องการถือหุ้นและการขายหุ้นธนาคารกรุงไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมองไปในทิศทางที่ว่า ธนาคารกรุงไทยควรจะเป็นรัฐวิสาหกิจต่อไป หรือควรจะลดการถือหุ้นกรุงไทยของกองทุนฟื้นฟูฯ ลงให้กลายเป็นธนาคารเอกชนที่รัฐถือหุ้นใหญ่ "แนวคิดที่จะขายหุ้นออกไปประมาณ 5% เพื่อให้กรุงไทยเป็นธนาคารเอกชนที่รัฐถือหุ้นใหญ่นั้น  ความจริงมีแนวคิดที่จะขายหุ้นมาต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่ยังรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม เพราะมีทั้งคนที่ได้ประโยชน์จากการเป็นธนาคารเอกชนของกรุงไทย และมีคนเสียประโยชน์" (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   โครงการพักหนี้จ่อเข้า ครม. คลังให้ตัวเลือกพักเงินต้นหรือดอกเบี้ยต่ำ 3 ปี นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 เม.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอโครงการพักหนี้ให้แก่ลูกหนี้ดีที่มีมูลหนี้อยู่ในธนาคารเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย หาก ครม.อนุมัติจะเปิดให้ลงทะเบียนเป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.นี้เป็นต้นไป สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าโครงการพักหนี้นี้จะพุ่งเป้าไปที่ลูกหนี้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ส่วนลูกหนี้ที่มีปัญหาหนี้เสียนั้น ทางกระทรวงการคลังได้เข้าไปช่วยเหลือ ในแนวทางเดียวกันไปก่อนหน้านี้แล้วในโครงการพักหนี้ ซึ่งขณะนี้มีลูกหนี้ที่มีปัญหาเข้าโครงการประมาณ 50% จากเป้าหมาย 700,000 ราย (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)   สรรพากรเบ่งภาษีครึ่งปี 6 แสนล. กรมสรรพากรโชว์ผลงานรีดภาษีครึ่งปีได้ 6 แสนล้านบาท เชื่อทั้งปีไม่พลาดเป็ 1.3 ล้านล้านบาท นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า การเก็บภาษีของกรม 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2555 ได้ทั้งหมด 6.01 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 5.49 หมื่นล้านบาท หรือ 10.06% และสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 1.88 หมื่นล้านบาทหรือ 3.22% ถือว่าน่าพอใจ เพราะที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรุนแรง และมีมาตรการลดหย่อนภาษีจำนวนมากสำหรับเป้าหมายการเก็บภาษีทั้งปี 1.3 ล้านล้านบาท จะทำได้ตามเป้า (หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์)   ชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ Tel. (662) 618-1330-1   รายงานวันนี้ หุ้น: KBANK          คำแนะนำ: ซื้อ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 173.00 รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/55 เพิ่มขึ้น 47% YoY และ 196% QoQ สูงกว่าที่เราคาด 12% และสูงกว่าที่ตลาดคาด 17% สินเชื่อขยายตัว 0.8% QoQ และ 12.7% YoY เราคาดว่าธนาคารจะรายงานสินเชื่อขยายตัวดีในไตรมาส 2/55 เรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2555 และ 2556 ที่ 30.8 พันล้านบาทและ 39.3 พันล้านบาทตามลำดับ   นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม Tel. (662) 618-1341   กลุ่ม: การแพทย์          คำแนะนำ: NEUTRAL          ราคาเป้าหมาย (บาท): - เหมาะสุดในรอบปีที่จะสะสมหุ้นช่วงไตรมาส2/2555 เพื่อรอราคาหุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ครึ่งปีหลังนี้จากปัจจัยบวกกระตุ้นหลายประการ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิสำหรับ BGH (เพิ่ม 5% ในปี 2555 และ 6% ในปี 2556) และ BH (เพิ่ม 3% ในปี 2555 และ 4% ในปี 2556) คาดกำไรหลักจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 1/55 และ 3/55 ตามลำดับ เป็นกลุ่มที่ดีสำหรับป้องกันความเสี่ยงทางด้านเงินเฟ้อในครึ่งปีหลัง 2555 มีแนวโน้มกำไรสุทธิมากกว่าประมาณการจากการซื้อกิจการเพิ่มเติม   นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร Tel. (662) 618-1345   หุ้น: PTTEP          คำแนะนำ: ถือ          ราคาเป้าหมาย (บาท): 170.00 เราคาดว่ากำไรสุทธิจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาส 1/55 แต่แนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรสุทธิในไตรมาส 2/55 ความล่าช้าของการเริ่มดำเนินการผลิตของโครงการมอนทาราและการตัดจำหน่ายหลุมแห้งมากขึ้นจะเป็นปัจจัยกดดันกำไรสุทธิในครึ่งหลังของปีนี้   นักวิเคราะห์: ธนัทเทพ จันทรกานต์ Tel. (662) 618-1340   หมายเหตุ: รายงานดังกล่าวเป็นเพียงเนื้อหาโดยสรุป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็ม   Technical Analysis   Security: PTT Position: ขายที่แนวต้าน 345-350 Reason: แม้ราคาหุ้นปิดบวกและรีบาวด์ขึ้นแต่คาดว่าเป็นเพียงสัญญาณรีบาวด์หลังจากปรับลงแรง และมองเป็นโอกาสในการลดพอร์ตในช่วงที่ราคาหุ้นปรับขึ้น   Security: KBANK Position: ขายที่แนวต้าน 154-156 Reason: อยู่ในข่ายที่ต้องระวังเนื่องจากโมเมนตัมลดลงและเริ่มส่งสัญญาณอ่อนกว่าตลาด ขณะที่ราคาหุ้นหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน   Security: SCC Position: ขายที่แนวต้าน Reason: หุ้นขนาดใหญ่ Blue-chipหลายตัวหลุดแนวรับส่งผลให้ราคาหุ้นปรับลงแรง และมีแนวโน้มเปลี่ยนรูปแบบเป็นลง แม้ราคาหุ้น SCC รีบาวด์และปิดบวก แต่มองลักษณะแนวโน้มรีบาวด์เพื่อลงต่อ   Security: GLOW Position: ซื้อ เป้าหมาย : 65/68 Stop loss < 60.5 Reason: : เป็นหุ้นที่น่าสนใจ เนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นส่งสัญญาณแข็งแกร่งมากกว่าตลาด ปัจจุบันราคาหุ้นดีดตัวขึ้นบนเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 60 บ.และมีลุ้นทำจุดสูงสุดใหม่   Security: ROJNA Position: ซื้อ เป้าหมาย : 8.2/8.5 Stop loss < 7.4 Reason: ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นมาได้ส่งผลให้วอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคำ เกิดสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มระยะกลาง   Security: SPCG Position: ซื้อ เป้าหมาย : 117/17.5 Stop loss < 15.2 Reason: ฟื้นตัวเมื่อลงทดสอบแนวรับเดิม 14 บ. ขณะที่สัญญาณทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นพร้อมกับภาพ Bullish divergence น่าจะส่งผลให้หุ้นดีดขึ้นไปแรง   โดย บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง ประจำวันที่ 19 เม.ย. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook