ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 10.75 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.)ปรับตัวลง 10.75 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 13,268.57 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 3.51 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 1,402.31 จุด และดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้น 9.41 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 3,059.85 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากมีรายงานว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีผันผวนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 – 177,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลง 1.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์การขนส่ง ซึ่งรวมถึงเครื่องบิน ดิ่งลงอย่างหนัก ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดทำให้นักลงทุนมีความระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัว 8.2% ด้านนักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 1/2555, กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย. ส่วนวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.
