ราคาน้ำมันลดลงพรุ่งนี้ 30-50 สต. ดีเซลเหลือ 30.83 บาทต่อลิตร

ราคาน้ำมันลดลงพรุ่งนี้ 30-50 สต. ดีเซลเหลือ 30.83 บาทต่อลิตร

ราคาน้ำมันลดลงพรุ่งนี้ 30-50 สต. ดีเซลเหลือ 30.83 บาทต่อลิตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรุงเทพฯ 8 พ.ค. -ราคาน้ำมันลดลงพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) ทั้งเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซล 50 สต. อี 85 ลดลง 30 สต. โดย ปตท.ประกาศเป็นรายแรกตามด้วยบางจาก คาดรายอื่นจะทยอยปรับลดตาม โดยราคาใหม่ เป็นดังนี้ เบนซิน 91  อยู่ที่  42.45 บาท/ลิตร  อี 85  อยู่ที่  23.18 บาท/ลิตร   อี 20  อยู่ที่  36.28 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์  95  อยู่ที่  39.03 บาท/ลิตร  แก๊สโซฮอล์  91  อยู่ที่  37.28 บาท/ลิตร  และดีเซลหมุนเร็ว 30.83 บาท/ลิตร 

นายสรัญ รังคศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน  บมจ.ปตท.กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้สั่งการให้ลดราคาน้ำมัน เพราะถูกโจมตีว่าราคาพลังงานเป็นต้นเหตุของราคาสินค้าแพง  แต่ ปตท. ปรับลดลง     เนื่องจากภาวะราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงอย่างรุนแรงตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ และเป็นการบรรเทาผลกระทบของประชาชนจึงเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องหลังจากลดราคาไปแล้วเมื่อวันเสาร์กลุ่มเบนซิน 50 สต. และดีเซล 30 สต. รวม 5 วันลดลงกลุ่มเบนซินลดลง 1 บาท และดีเซล ลดลง 60 สต./ลิตร

ทั้งนี้ ค่าการตลาดน้ำมันก่อนที่จะประกาศลดราคาลงในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) อยู่ที่กว่า 2 บาท/ลิตร เนื่องจากราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงมากโดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสของสหรัฐต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปิดตลาดวานนี้ (7 พ.ค.) ที่ 98.13 ดอลลาร์/บาร์เรล  เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและปัญหาวิกฤติหนี้ในยุโรป ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาปะทุขึ้นอีกหลังรับทราบผลการเลือกตั้งในฝรั่งเศส และกรีซ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของความต้องการใช้น้ำมันของโลก ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบโลกปรับเพิ่มขึ้น และทำให้ราคาน้ำมันสิงคโปร์ที่ไทยใช้อ้างอิงลดลงตามราคาปิดวานนี้ น้ำมันดิบดูไบ ลดลง 3.75 ดอลลาร์/บาร์เรลปิดที่ 109.17 ดอลลาร์/บาร์เรล เบนซิน 95 ลดลง 1.59 ดอลลาร์ ปิด 125.91 ดอลลาร์/บาร์เรล และดีเซลลดลง 2.92 ดอลลาร์ ปิด 125.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งหากราคาน้ำมันลดลงอีก ทาง ปตท.ก็พร้อมจะลดราคาขายปลีกลงตาม

ด้าน บมจ.ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 110-117 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวที่กรอบ 97-105 เหรียญ โดยในส่วนของราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงยังมีผลมาจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปก 12 ประเทศ ในเดือนเมษายนปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี มาอยู่ที่ 31.75 ล้านบาร์เรล เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่ 31.32 ล้านบาร์เรล เนื่องจากกำลังการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก อิรัก ซาอุดีอาระเบีย และลิเบีย ช่วยคลายความกังวลในเรื่องอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวจากปริมาณน้ำมันดิบอิหร่านที่ขาดหายไปจากตลาด เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก นอกจากนั้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศว่าการสร้างท่อขนส่งน้ำมันที่จะใช้เป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันดิบโดยไม่ผ่านช่องแคบฮอร์มุซได้แล้วเสร็จ สามารถที่จะใช้การได้ภายใน 3 เดือนข้างหน้า โดยสามารถลำเลียงน้ำมันดิบได้ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยลดความกังวลต่อปัญหาในการขนส่งน้ำมันดิบหากอิหร่านปิดช่องแคบฮอร์มุซ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook