ก.ล.ต.ส่งฟันแก๊งสมพงษ์

ก.ล.ต.ส่งฟันแก๊งสมพงษ์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้ดำเนินการกล่าวโทษ นายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ ประธานกรรมการ บริษัท เอส.อี.ซี.ออโต้เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส (เอสอีซีซี) น.ส.นิภาพร คมกล้า นายกฤช เอกมงคลการ บริษัท แอปเปิล กรุ๊ป และบริษัทคิว อาร์ ออโต้ คาร์ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้วเมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากปรากฏข่าวรถยนต์ของบริษัทหายไปจากบัญชีจำนวนมาก และตัวนายสมพงษ์ได้หลบหนีไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้ ก.ล.ต.ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของเอสอีซีซี รวมถึงสินค้าคงคลังของบริษัท ปรากฏว่า ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2551 มีรถยนต์คงเหลืออยู่ในบัญชีสินค้าคงเหลือ 501 คัน รวมมูลค่ากว่า 1.4 พันล้านบาท แต่รถยนต์จำนวน 493 คัน มูลค่าประมาณ 1,409 ล้านบาท ไม่สามารถระบุได้ว่าอยู่ที่ใด และน่าเชื่อว่าไม่มีอยู่จริง

การตรวจสอบดังกล่าว พบการกระทำผิดในหลายลักษณะ ก.ล.ต.จึงได้ดำเนินการกล่าวโทษกรรมการและผู้บริหารของบริษัทเอสอีซีซี 2 ราย เนื่องจากมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า มีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกอบด้วย นายสมพงษ์ ในฐานะที่รับผิดชอบการดำเนินงานและได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของบริษัท ได้เบียดบัง ยักยอกเงินของบริษัทด้วยการจัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายกว่า 597 ล้านบาท จำนวนรถยนต์ 196 คัน โดยมี น.ส.นิภาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงินเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน และยังมีนายกฤช เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดแห่ง พ.ร.บ.ฉบับเดียวกัน

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า กรณีเอสอีซีซี เป็นเรื่องที่ผู้ลงทุนและลูกค้าของบริษัทได้รับผลกระทบมาก สำนักงาน ก.ล.ต. ไม่ได้นิ่งนอนใจจึงเร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาผู้กระทำผิด ซึ่งในชั้นนี้พบว่ามีบุคคลและนิติบุคคลที่เข้าข่ายกระทำผิดรวม 5 ราย และยังพบว่าอาจมีผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีนี้เข้าลักษณะกระทำผิดในเรื่องอื่นๆ อีก ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงเพิ่มเติมและจะเร่งดำเนินการต่อไป

// //

ตะลุยข่าว - 388 ศพสึนามิ...ยังไม่ได้กลับบ้าน

แม้พิบัติภัยสึนามิจะผ่านพ้นไปแล้ว 4 ปี ทว่าภาพความเสียหาย การล้มตาย และสูญหายไปของคนอันเป็นที่รัก ยังคงติดตรึงอยู่ในใจเหมือนภาพฝันร้ายในคืนที่แสนยุ่งเหยิง หลายครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับมหันตภัยที่เกิดขึ้นกับตนเอง ครอบครัว และธุรกิจ เสียงหวีดร้องโหยหวนและร่ำไห้เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ยังคงก้องอยู่ในมโนสำนึก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook