รถพ่วง18ล้อเสียหลักชนเสาไฟฟ้าไร้เจ็บตาย

ร.ต.ต.ทศพล กิตติลาภ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุมีรถพ่วง 18 ล้อ เสียหลัก ท้ายปัดป้ายกลับรถและเสาไฟกลางถนน หักล้มกลางถนนพหลโยธิน ขาออก กม.42 / 600 ม.10 ต.คลองหลวงหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พบ รถพ่วงตัวแม่ หมายเลขทะเบียน 81-5318 เพชรบูรณ์ ตัวพ่วง หมายเลขทะเบียน 81-5319 เพชรบูรณ์ ได้หลุดออกจากตัวแม่ ตกลงร่องกลางไปชนเสาไฟส่งสว่าง ล้มลงขวางทางด่วนทั้ง 3 เลน ทำให้รถที่จะวิ่งออกต่างจังหวัด จะต้องเบี่ยงออกทางขนาน ทำให้การจราจรติดขัดเป็นทางยาว จากการสอบ นายชาตรี ภูพินิจ อายุ 31 ปี เป็นคนรถพ่วงไม่ได้รับบาดเจ็บ ได้แจ้งว่าได้ขับรถบรรทุกหินจากจังหวัดสระบุรี ไปส่งที่แถวพระรามเก้า กรุงเทพ  ขากลับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงลูกพ่วงดังขึ้น และตัวพ่วงได้หลุดออกจากตัวแม่ปัดตกร่องกลางไปทับเสาไฟฟ้าส่องสว่างร่องกลาง ทำให้เสาไฟหักล้มทับกลางถนนช่องทางด่วน และป้ายกลับรถเอียงไปข้างหนึ่งแต่ไม่ล้มลง โชคดี ที่เป็นเวลาดึกไม่มีรถวิ่งตามมาพอดีจึงไม่มีรถเกิดอุบัติเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อหา นายชาตรี ภูพินิจ ขับรถโดยประมาท และได้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบมายกป้ายบอกทางและเสาไฟส่องสว่างพร้อมทั้งตัวพ่วงรถสิบล้อออกจากพื้นที่การจราจร  ซึ่งทำให้รถติดเป็นทางยาวหลายกิโล จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดการจราจรได้