Daily View - บล.กสิกรไทย

Daily View - บล.กสิกรไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาจมีปรับฐานช่วงสั้น แต่ไม่น่ากลัว   แนวโน้มตลาด: ในช่วงสั้นหุ้นน่าจะมีนีแรงขายทำกำไรหลังผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ออกมาไม่ได้สร้างความตื่นเต้นให้กับตลาด โดยประกาศขยายเวลาและวงเงินสำหรับมาตรการ Operation Twist ไปจนสิ้นปี 2555 (จากที่จะหมดใน มิ.ย.นี้) โดยจะเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 6 ปีขึ้นไปและขายพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 3 ปี ในวงเงินเท่ากันที่ 2.67 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังได้แรงกดดันจากการที่ Fed ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจลงเหลือขยายตัว 1.9-2.4% (ลดลงจาก เม.ย.ที่ 2.4-2.9%) และอัตราว่างงานที่ 8.0-8.2% (เพิ่มขึ้นจาก 7.8-8.0%) ผลกระทบระยะสั้นคือทำให้ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งขึ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง อย่างไรก็ตามคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) รายงานว่า กองทุนเฮดจ์ฟันด์เพิ่มปริมาณเงินลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ในสัปดาห์ล่าสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์(หลังในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนหน้าลดลงถึง 40%) ซึ่งเรามองว่าเป็นสัญญาณว่าdownside น่าจะอยู่ในระดับที่จำกัด ปัจจัยภายในประเทศที่เด่นวันนี้ ได้แก่ ยอดการผลิตรถยนต์ที่ดีเป็นประวัติการณ์ (ดีกับ SAT IHL AH APCS) กลยุทธ์การลงทุน: คงมุมมองว่า SET Index อยู่ในกรอบ 1150-1200 โดยยังให้น้ำหนักกับการแกว่งตัวเพื่อขึ้น กลยุทธ์ยังคงเป็นทยอยสะสม และเน้นเลือกหุ้นรายตัว หุ้นแนะนำวันนี้ SAMART PF SAT IHL (หุ้นวันก่อนที่ยังน่าสนใจ TOG) สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10% เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downside ของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS   หุ้นแนะนำวันนี้ - SAMART (ปิด 9.10 เป้าระยะสั้น 9.70-9.80 ขายเมื่อหลุด 8.70) แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/55 ยังค่อนข้างแข็งแกร่งและน่าจะยังมีกำไรเพิ่มไปจน 3Q55 เป็นอย่างน้อย + ลุ้นได้งานตรวจผู้โดยสารอัตโนมัติของ AOT ซึ่งจะทำให้มีกำไรแบบมั่นคง + ราคายังถูกคิดเป็น PER เพียง 9 เท่า - PF (ปิด 1.16 เป้าระยะสั้น 1.24-1.28 ขายเมื่อหลุด 1.08) เปิดโครงการคอนโดใหม่ 4 โครงการ 23-24 มิ.ย. + ผู้บริหารคาดเป้าหมายรายได้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 70% (8.2 พันล้านบาท) + หากรักษา net margin ได้ที่ 6% จะมีกำไรต่อหุ้นที่ 0.18 บาท คิดเป็น PER เพียง 5.9 เท่า - SAT (ปิด 28.25 เป้าระยะสั้น 30-32 ขายเมื่อหลุด 26.50) ยอดผลิตรถยนต์พ.ค.ดีสุดเป็นประวัติการณ์ (ในรอบ 50 ปี) + กำไรปีนี้ฟื้นตัวขึ้น 119% YoY มี PER ปัจจุบันที่ 10.6x + หุ้นมีโอกาสถูกปรับประมาณการขึ้น - IHL (ปิด 7.05 เป้าระยะสั้น 7.40-7.80 ขายเมื่อหลุด 6.80) ผู้ผลิตเบาะหนังถึง 80% ของยานยนต์ + กำไรจะฟื้นต่อเนื่องจากปีก่อนหลังลูกค้ากลับมาเดินเครื่องเต็มที่ + ราคาปัจจุบันคิดเป็นเพียง 9.3x PER และ ROE สูงถึง 22%(น่าจะกลับขึ้นไปถึง 30%)   Today’s Best Trades   ประเด็นการลงทุนหุ้น Today’s Best Trades   HOLD TICON ราคาหุ้นในปัจจุบันเป็นโอกาสซื้อที่ดี + ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 พลิกกลับมามีกำไรจากการขายโรงงานเข้ากองทุนอสังหาสริมทรัพย์ และไตรมาส 2 จะเร่งตัวขึ้นมาก + ราคาปัจจุบัน 6.6x PER ถูกสุดกลุ่มนิคม + ผลตอบแทนเงินปันผล 9.6% สงสดในกล่มนิคม + ห้นมีโอกาสถก concensus ปรับประมาณการขึ้น HMPRO หุ้นค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ + คาดกำไร 2555 เพิ่มขึ้น 75% YoY + หุ้นค้าปลีกที่ PER 24.4 เท่าถูกสุดในกลุ่ม KTB เก็งกำไรสั้นรับการฟื้นตัวของ SET + หุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ถูกที่สุด PER เพียง 7.4 เท่า และคาดการณ์ผลตอบแทนปันผล 4.5% + เชื่อว่าราคาหุ้นถูกกดดันจากข่าวเพิ่มทุนมากเกินไป SIRI จิตวิทยาเชิงบวกจากรัฐเตรียมปรับวงเงินกู้บ้านหลังแรกขึ้นเป็น 2 ล้านบาท (จาก 1 ล้านบาท) + ผลการดำเนินงาน2555 จะดีขึ้นเป็นขั้นบันได + ราคาปัจจุบันคิดเป็นเพียง 6.3x PER และให้คาดการณ์ผลตอบแทนปันผลสูงถึง 7.4% NMG หุ้น Turnaround โดยธุรกิจฟื้นจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ และมีแนวโน้มเติบโตจากโทรทัศน์ดาวเทียม และการศึกษา +สร้างกระแสเงินสดได้สูง โดยมี FCF yield สูงถึง 15-20% ต่อปี + มีแผนล้างขาดทุนสะสม ส.ค.55 ซึ่งจะทำให้เริ่มกลับมาจ่ายปันผลได้ + คาดกำไรปี 2555-56 เพิ่มขึ้น 52% และ 61% ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.3x และ 6.4x และมี upside ต่อราคาเหมาะสมที่ 2 บาทถึง 102% TISCO ราคาหุ้นซื้อขายที่เพียง 7.8x PER + ธนาคารพาณิชย์ที่มี ROE สูงสุดที่ 20.7% และให้คาดการณ์ผลตอบแทนปันผลถึง 5.8% KSL เข้าสู่ช่วง high season ผลประกอบการไตรมาส 2 (ก.พ.-เม.ย.55) + ก.ค.เป็นเดือนที่ราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้นเฉลี่ย5-8% ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา + แม้ราคาส่งออกน้ำตาลลดลง 5% QoQ แต่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 25% QoQ และ30% YoY กำไรจึงมีแนวโน้มดีขึ้น + ราคาปัจจุบันคิดเป็น PER 10.2 เท่า ให้ผลตอบแทนปันผล 4.1% (concensus) SPCG กำไรไตรมาส 2/55 ดีขึ้นต่อเนื่องจากรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าเพิ่มเติม + growth stock ที่กำไรรายไตรมาสจะโดดเด่นขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2556 + กำไรปี 2556 จะเพิ่มขึ้น 4 เท่า PER จะลดลงจาก 17.6 เท่า เหลือเพียง 4.3 เท่า AAV หุ้นเติบโต (growth stock) ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง + ราคาปัจจุบันต่ำกว่า IPO ถึง 9% และ 16% จากราคาเปิดซื้อขาย + ราคาหุ้นยังถูกคิดเป็น PER 2555 และ 2556 เพียง 11.7 และ 8.5 เท่าเชิงกลยุทธ์ และไม่กระทบต่อพื้นฐานของห้นแต่อย่างใด   ปัจจัยที่ต้องติดตาม - 21 มิ.ย. EU: PMI Composite - 21 มิ.ย. EU: Euro-Zone Consumer Confidence (Advance) - 21 มิ.ย. US: Jobless Claims - 21 มิ.ย. US: Existing Home Sales - 21 มิ.ย. US: Philadelphia Fed Survey - 25 มิ.ย. US: New Home Sales - 25 มิ.ย. US: Dallas Fed Mfg Survey - 26 มิ.ย. US: S&P Case-Shiller HPI - 26 มิ.ย. US: Consumer Confidence - 27 มิ.ย. US: Durable Goods Orders - 27 มิ.ย. US: Pending Home Sales Index - 28 มิ.ย. EU: Euro-Zone Consumer Confidence (Final) - 28 มิ.ย. US: GDP - 28 มิ.ย. US: Jobless Claims - 29 มิ.ย. EU: Euro-Zone M3 - 29 มิ.ย. EU: Euro-Zone CPI Estimate - 29 มิ.ย. US: Personal Income and Outlays - 29 มิ.ย. US: Chicago PMI - 29 มิ.ย. US: Consumer Sentiment - 30 มิ.ย. China: PMI Manufacturing   บทวิเคราะห์วันนี้ - Take Action QH (ซื้อ, ปิด 1.66 พื้นฐาน 2.30 +38.6%) ปรับคาดการณ์กำไรขึ้น 73% จากแผนขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหา - คงคำแนะนำซื้อ ปรับคาดการกำไรปี 2555 ขึ้น 73% เราปรับคาดการกำไรปี 2555 ขึ้น 73% โดยรวมคาดการณ์กำไรที่จะเกิดจากจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาในเดือน ก.ค.55 อย่างไรก็ตาม เราคงมูลค่าปัจจัยพื้นฐาน DCF ที่ 2.30 บาท และคงคำแนะนำซื้อ ปัจจุบัน QH ซื้อขาย PE ปี 2555 ที่ 9.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 10.5 เท่า - คาดทำกำไร 1 พันล้านบาท จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหา ในวันที่ 2 กรกฎาคม QH จะขายสินทรัพย์ 3 แห่งเข้ากองทุนอสังหา QHPF ได้แก่ Centre Point Petchaburi, Centre Point Sukhumvit และ Centre Point Langsuan (2 แห่งแรกเป็น freehold แต่แห่งสุดท้ายเป็น leasehold) โดยมีพื้นที่เช่ารวมกว่า 43,456 ตรม. โดยเราคาดจะบันทึกกำไร 1 – 1.1 พันล้านบาท ใน 3Q55 จากสมมติฐาน 1) มูลค่ากองทุน 3.4 พันล้านบาท; 2) มูลค่า book value ของทั้ง 3 แห่ง 1.3 พันล้านบาท; 3) special business tax ที่ 3.3%; 4)อัตราภาษีนิติบุคคล 23%; และ 5) ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 8-12% - อัตราส่วนหนี้สินจะลดลงเป็น 1.3 ถึง 1.4 เท่า เงินจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาจำนวน 3.4 พันล้านบาท จะถูกนำไปใช้หนี้ 2 พันล้านบาท ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ratio) ลดลงจาก 1.6 เท่าใน 1Q55 เป็น 1.3 ถึง 1.4 เท่า - ยอด presales เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน ยอด presales ของ QH เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้น โดยโครงการ Q. Langsuan condo และ Casa Condo Ratcha-Ratchapruk มียอด presales ที่ 56% และ 65% ตามลำดับ ทำให้ยอด presales ณ ต้นเดือนมิถุนาอยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท (ประมาณการรายได้ทั้งปี คือ 1.3 หมื่นล้านบาท สำหรับปี 2555)   ข่าวที่มีผลกระทบต่อตลาด   ข่าวบริษัท - BAY (ถือ ปิด 29.25 พื้นฐาน 28.50 -2.6%) สินเชื่อ พ.ค. -0.5% MoM; TMB (ปิด 1.55 Bloomberg consensus 1.59 +2.4%) สินเชื่อเพิ่มในอัตราที่ลดลง - BAY สินเชื่อ พ.ค. 55 เพิ่ม -0.5% MoM ชะลอตัวลงจากเม.ย. ที่ +2.6% MoM สินเชื่อ 5M55 เพิ่ม 4.8% ใกล้เคียงเป้าธนาคาร แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ทั้งปีของเราที่ 14.4% - TMB สินเชื่อ พ.ค. 55 เพิ่ม 0.5% MoM เพิ่มน้อยลงกว่าเม.ย. ที่ +2.2% MoM สินเชื่อ 5M55 เพิ่ม 3.7% ต่ำกว่าเป้าธนาคารที่ต้องการโตสินเชื่อดี (performing loans) 15% - TISCO ยังคงเป็นหุ้นเด่นในหมวด โดยสินเชื่อ พ.ค. 55 เพิ่ม 3.0% สูงที่สุดใน 4 ธนาคารที่ประกาศตัวเลขสินเชื่อ นอกจากนี้ข่าวที่อาจมีการยืดระยะเวลาคุ้มครองเงินฝากเป็นบวกต่อธนาคาร นอกจากนี้แม้เราแนะนำถือ TCAP แต่นักกลยุทธ์แนะนำในระยะสั้น และเราชอบ KK เช่นกัน - AH (ปิด 14.30, Bloomberg consensus 15.81 +10.6%), STANLY (ปิด 198,Bloomberg consensus 230.01 +16.2%) ยอดผลิตรถยนต์ พ.ค.55 เพิ่ม 105% YoY, 43% MoM - ไทยผลิตรถยนต์ ทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)เผิดเผยเดือน พ.ค. ไทย สามารถผลิตรถยนต์ได้รวม 2.02 แสนคัน +105% YoY, +43% MoM ทำสถิติสูงสุดในรอบ 50 ปี ทั้งนี้กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์คาดว่า การผลิตโดยรวมในปีนี้จะทำได้ ประมาณ 2.2 ล้านคัน มากกว่าปีที่แล้ว 51% - ยอดส่งออกเติบโตกว่า 122% YoY รวมทั้งสิ้น 8.59 หมื่นคัน +55% +122% YoY คิดเป็นมูลค่าการส่งออกก 4.14 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% YoY โดยการขายรถยนต์ภายในประเทศได้ทำสถิติสูงสุด 1.15แสนคัน เติบโต 107% YoY - เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้ง AH, STANLEY โดยได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากการขยายตัวของอุตสาหกรรม (ประเด็นข่าวจากกรุงเทพธุรกิจ) - TMB (Unrated, ปิด 1.55, Bloomberg Consensus 1.59 +2.5%) ลงนามแต่งตั้ง BCEL เป็นสถาบันการเงินตัวแทนในลาว - ลงนามแต่งตั้งสถาบันการเงินตัวแทน (Banking Agent) กับธนาคารการค้าต่างประเทศ ลาว (BCEL) เพื่อเพิ่มและขยายช่องทางทางการเงินให้แก่ลูกค้าที่เข้าไปทำธุรกิจในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยทาง BCEL เป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดใน สปป.ลาว มี สาขาทั่วประเทศ การลงนามครั้งนี้จะทำให้ BCEL สามารถให้บริการครอบคลุมถึงระบบ Cash Management Service และ Trade Finance - เป็นปัจจัยบวกต่อ TMB ในอนาคต แต่คาดว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานในระยะสั้น (ประเด็นข่าวจากกรุงเทพธุรกิจ)   สรุปภาวะตลาด - DJIA ปิด 12,824.39 จุด -12.94 จุด (-0.1%) S&P500 ปิด 1,355.69 จุด -2.29 จุด(-0.17%) NASDAQ ปิด 2,930.45 จุด +0.69 จุด (+0.02%) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากได้คาดหวังก่อนหน้านี้ว่า FED จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิง ปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 แต่ FED กลับตัดสินใจเพียงแค่ ขยายระยะเวลาการใช้มาตรการOperation Twist ออกไปเท่านั้น ประกอบกับ FED ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ลงด้วย - NYMEX ส่งมอบ ก.ค. อยู่ที่ USD81.75/bbl -2.28/bbl (-2.7%) สัญญาทองคำ COMEX ส่งมอบ ส.ค. อยู่ที่ USD1,615.8/ounce -7.4(-0.5%) สัญญาราคาน้ำมันดิบและสัญญาราคาทองคำปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังจากการที่ FED ตัดสินใจใช้ มาตรการ Operation Twist แทนการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3 ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้   สรุปข่าวประจำวัน   ต่างประเทศ - FED ประกาศขยายเวลาการใช้มาตรการ Operation Twist ไปจนถึงสิ้นปี 2555 โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ปรับตัวลดลง เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจและการจ้างงาน โดย FED จะเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลสหรัฐที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ในวงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์ และขายพันธบัตรระยะสั้นประเภทที่มีอายุไม่เกิน 3 ปีในวงเงินเท่ากัน นอกจากนี้ FED ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25 % อย่างไรก็ตาม FED ยืนยันว่า เมื่อพิจารณาจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานที่อ่อนแอลงแล้ว FED จึงเตรียมความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น และหนุนตลาดแรงงานให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างยั่งยืน โดยจะพิจารณาถึงเสถียรภาพด้านราคาด้วย (อินโฟเควสท์) - FED ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 1.9-2.4% ในปี 2555 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่2.4-2.9% พร้อมกับคาดการณ์ว่า อัตราว่างงานจะยืนอยู่ที่ 8-8.2% ในปี 2555 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเม.ย.ที่ระดับ 7.8-8% (อินโฟเควสท์)   ข่าวบริษัท - KBS ตั้งงบลงทุน 1.64 พันล้านบาท เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ซึ่งใช้ชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงขนาด 35 เมกะวัตต์ (MW) เพื่อขยายธุรกิจโรงไ ฟฟ้า โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนม.ค.57 ทั้งนี้ KBS จะทำการเพิ่มทุนในบริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด (KPP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จำนวน 300 ล้านบาท และเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินประมาณ 70% ของโครงการซึ่งจะไม่กระทบต่อเงินปันผล (ปัจจบัน KBS มีธุรกิจโรงไฟฟ้าขนาด 15 MW) (รอยเตอร์) - MALEEจ่ายปันผลปีนี้ กำไรพุ่ง560ล้านบาท ออเดอร์ล้นผลิตเกิน 100% MALEE ล้างขาดทุนสะสม 840 ล้านบาทเกลี้ยง หลังลดพาร์ไม่กระทบหุ้น เล็งปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ “ฉัตรชัย” มั่นใจปีนี้กำไรโตกระฉูด หลังกำลังผลิตเกิน 100% รับอานิสงส์ออเดอร์ล้น ไปถึงไตรมาส 3-4 (ข่าวหุ้น) - 2 กองทุนใหญ่ไล่เก็บหุ้น HEMRAJ-PFเนื้อหอม 2 กองทุนใหญ่ ไล่เก็บหุ้นหลัง ตลท.จับเข้าไปอยู่ใน SET50 กับSET100 นำโดย FRANKLIN TEMPLETON INVESTMENT FUNDS กองทุนสัญชาติฮ่องกง ไล่ซื้อหุ้น HEMRAJ ส่วน PERFECT SIAM LIMITED กองทุนไทย ดอด เก็บหุ้น PF รวม 7.41% จับตาตัวอื่นที่เหลือจะกลายเป็นเป้าซื้อของกองทุน (ข่าวหุ้น) - SPCG ตั้งกองทุนเดือนนี้ รายได้ไตรมาส2เด้ง! SPCG แย้มตั้งกองทุนสาธารณูปโภคฯชัดเจนในเดือนนี้ งบ Q2/55 รายได้พุ่ง พร้อมย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 100% หลังรับรู้รายได้จากโซลาร์ฟาร์มสิ้นปี 20 โครงการ ล่าสุดร่วมทุนพันธมิตร 3 พันล้านบาท (ข่าวหุ้น) - รื้อสัญญา3จี"TRUE-กสทฯ"ขัดพรบ.กสทช. บอร์ดกทค.มีมติสัญญา 3 จี "กสทฯ-TRUE"ขัดมาตรา 46 พ.ร.บ.กสทช.จริง เตรียมทำหนังสือสั่งกสทฯแก้ไขสัญญาให้ถูกต้องภายใน 30 วัน ส่วนราคาประมูลไลเซนส์ 3 จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ กำหนดเคาะอีกครั้งวันที่ 25 มิ.ย.นี้ (ข่าวหุ้น) - QH ตั้งกองทุนเสร็จก.ค. บันทึกกำไร1.15พันล้าน QH เล็งตั้งกองทุนอสังหาฯ 3.34 พันล้านเสร็จก.ค.นี้ คาดไตรมาส 3/55 บันทึกกำไรพิเศษ 1.15 พันล้าน จากการขายสินทรัพย์ 3โครงการเข้ากองทุนฯ หนุนกำไรปีนี้โตกระฉูด พร้อมกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นปลายเดือนนี้   (ข่าวหุ้น) - อมตะบีกริมเพาเวอร์ เล็งลงทุน7หมื่นล้าน สร้างโรงไฟฟ้า13แห่ง อมตะ บี.กริม เพาเวอร์เดินหน้าแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 13 แห่ง วงเงินลงทุน 7 หมื่นล้านบาท ชี้ช่วยหนุนให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าก้าวกระโดดถึง 2 พันเมกะวัตต์ รองรับลูกค้าได้มากถึง 800 ราย (ข่าวหุ้น) - STEC ใจป้ำหั่นสายสีแดงสัญญา1 เหลือ 2.98 หมื่นล้าน พร้อมชงครม.สัปดาห์หน้า STEC ใจป้ำหั่นราคาสัญญา 1 โครงการก่อสร้างระบบรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต กว่า1.3 พันล้านบาทเหลือ 2.98 หมื่นล้านบาท พร้อมชง ครม.สัปดาห์หน้า (ข่าวหุ้น) - LALIN ลั่นผลงานไตรมาส2แจ่ม ครึ่งหลังลุยเปิด6โครงการใหม่ LALIN แย้มผลงานไตรมาส 2 สูงกว่าไตรมาส 1/55 หลังความต้องการฟื้นตัว คงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 15% แตะ 2,150 ล้านบาท เตรียมปรับขึ้นราคาขายเพิ่ม 3-7% ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่วนครึ่งปีหลังเล็งเปิดอีก 6 โครงการ ใหม่มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท (ข่าวหุ้น) - BH ลุ้นQ2กำไรพุ่ง20% ผู้ป่วยใช้บริการมากขึ้น BH ไตรมาส 2 รายได้โต 15% พร้อมฟันกำไรเพิ่ม 20% จากปีที่แล้ว เหตุผู้ป่วยใช้บริการมากขึ้นหนุนรายได้เพิ่มขึ้น จากต้นปีมีชาวต่างชาติใช้บริการเพิ่มจากปีที่แล้ว 10% เตรียมขยายพื้นที่รองรับผู้ป่วยเพิ่ม 1,500 ราย คาด ทั้งปีรายได้โตขึ้น 15-16% (ข่าวหุ้น) - "อภิชัย"เผยลูกชายซื้อหุ้นยาย แค่ปรับโครงสร้างกลุ่ม TFD ไม่ได้ขายพาร์ตเนอร์“อภิชัย เตชะอุบล” ปัดขายหุ้นบิ๊กล็อต TFD จำนวน 165 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 22% ในราคา1.98 บาท ให้พาร์ตเนอร์ธุรกิจอสังหาฯในตลาด อ้างลูกชาย "โชติวิทย์ เตชะอุบล" ซื้อต่อจาก ยาย “สุวรรณี ไพโรจน์กิจจา” พร้อมแจงการซื้อขายหุ้นดังกล่าวเป็นการปรับโครงสร้างในกลุ่มของผู้ถือหุ้นรายใหญ่เท่านั้น (ข่าวหุ้น) - 'TGPRO' แถลงข่าวใหญ่ออเดอร์ล้น-Q2 บุ๊กกำไรอื้อ TGPRO เตรียมแถลงข่าวดีเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่และโฉมหน้าผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลังปรับโครงสร้างหนี้ฉลุย 26 มิถุนายนนี้ ด้านแกนนำ "รชต ลีลาประชากุล" เดินหน้าผลักดันธุรกิจเติบโตยั่งยืน รองรับ AEC พร้อมประกาศลั่น ออเดอร์เต็มมือ ส่วนไตรมาส 2/2555 ผลงานสนั่นบุ๊กกำไรปรับหนี้ 44 ล้านบาท (ทันหุ้น) - 'JMART' สมาร์ทโฟน-แท็บเลตพุ่งจับตากำไร-รายได้ Q2โตเกิน 50% JMART กำไรไตรมาส 2/2555 โตแรงกว่าไตรมาสแรกที่ทำได้ 51.36 ล้านบาทหลังยอดขายสมาร์ทโฟน-แท็บเลตขยายตัว บริษัทลูกธุรกิจทวงหนี้หนุนเพิ่ม (ทันหุ้น) - SAMART เดือนนี้ข่าวดีเพียบลุ้นคว้างานใหม่ SAMART สัญญาณฟื้น รับข่าวจ่อเซ็นสัญญางาน APPS และการโอนหุ้น Portal Net ในเดือนมิถุนายนนี้ ผู้บริหาร "วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์"มั่นใจผลงานเข้าเป้า 2.7 หมื่นล้านบาท (ทันหุ้น)   ข่าวเศรษฐกิจ / อุตสาหกรรม - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ค.อยู่ที่ 106.0 จาก 104.0 ในเดือนเม.ย. นับเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 และเป็นการปรับขึ้นเกินระดับ 100 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 สะท้อนความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่มีเศรษฐกิจไทยว่า ยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี ขณะที่สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 111.1 ลดลงจากระดับ 112.6 ในเดือนเม.ย. โดยค่าดัชนีที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบด้านยอดคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ยอดขายในต่างประเทศ ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ (รอยเตอร์) - คลังเผย ยอดหนี้สาธารณะ สิ้น เม.ย.อยู่ที่ 42.40% ของ GDP กระทรวงการคลังเผย ยอดหนี้สาธารณะคงค้างของไทย ณ สิ้นเดือน เม.ย.55 อยู่ที่ 4.615 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 42.40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เทียบกับยอดหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน มี.ค. อยู่ที่ 4.473 ล้านล้านบาท หรือ คิดเป็น 41.42% ของจีดีพี (รอยเตอร์) - ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์ พ.ค.ที่ 2.03 แสนคัน คาดทั้งปีโตกว่า 50% ที่ 2.2 ล้านคันส่งออก 5 เดือนโตกว่า 11% คาดทั้งปี 1 ล้านคัน ยอดขายมิ.ย.โตต่อเนื่องตามเป้าปี1.2 ล้านคัน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยยอดผลิตรถยนต์เดือนพ.ค.เติบโต 105.29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2.03 แสนคัน นับเป็นครั้งแรก ที่ผลิตรถยนต์ได้มากกว่าสองแสนคันและเป็นสถิติสูงสุดรอบ 50 ปี ด้วยยอดขายในประเทศ 115,943 คัน เพิ่มขึ้น 107.6% ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปมีจำนวน 85,988 คัน เพิ่มขึ้น 122.44% (ข่าวหุ้น) - นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวภายหลังเปิดงานสัมมนาเรื่อง "Euromoney Conferences Greater Mekong Investment Forum" ว่า กระทรวงการ คลังมีความพร้อมที่จัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น ล่าสุดได้หารือกับบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งมีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ ซึ่งหากตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติยุโรป มีเงินไหลออกจะสามารถจัดตั้งกองทุนได้ทันที แต่ขณะนี้เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับผลกระทบได้ (ไทยโพสต์) - คลายเกณฑ์โฮลดิ้งถือหุ้น เลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่าคณะกรรมการกำกับตลาดทุนเห็นชอบแก้ไขหลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนของบริษัทมหาชนจำกัดที่ประกอบธุรกิจหลัก โดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (โฮลดิ้ง คัมพานี) โดยแก้ไขให้โฮลดิ้ง คัมพานีต้องถือหุ้นในบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลัก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่จัดตั้งในประเทศหรือต่างประเทศในสัดส่วนมากกว่า 50% ของหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทย่อยนั้น และอาจไดรั้บการผ่อนปรนกรณีที่มีอำนาจควบคุมกิจการตามมาตรฐานบัญชี หรือกรณีที่ติดข้อจำกัดของกฎหมายหรือการร่วมทุนกับภาครัฐ ในขณะที่หลักเกณฑ์เดิมต้องถือไม่น้อยกว่า 75% เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจและการร่วมทุนของโฮลดิ้ง คัมพานี (เดลินิวส์) - กลุ่ม ICT: เงื้อง่าไม่เคาะราคา 3G พ.อ.เศรษฐพงศ์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) และประธานคณะอนุกรรมการร่างหลักเกณฑ์การประมูลใบอนุญาต (ไลเซ่นส์) 3 จี 2.1 กิกะเฮิรตซ์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม กทค.ไม่มีข้อสรุปเรื่องราคาเริ่มต้นการประมูล 3 จี เนื่องจากคณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอพิจารณารายละเอียดของการกำหนดราคาอีกครั้งและจะสรุปพร้อมนำเสนอบอร์ดกทค.พิจารณาในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ และมั่นใจว่าจะสามารถสรุปราคาเริ่มต้นประมูล 3 จีได้อย่างแน่นอน "ขอยืนยันการเปิดประมูล 3 จี จะเกิดขึ้นในเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้แน่ แม้บอร์ดกทค.จะเลื่อนการพิจารณาราคาเริ่มต้นประมูล แต่รายละเอียดอื่นๆ อาทิ การใช้โครงสร้างพื้นฐานสถานีฐาน เสาโทรคมนาคมร่วมกัน เงื่อนไขอื่นๆ อาทิ จำนวนใบอนุญาต ก็เคาะแล้ว 9 ใบ ใบละ5 เมกะเฮิรตซ์ ผู้เข้าร่วมประมูลสามารถยื่นประมูลได้สูงสุดไม่เกิน 20 เมกะเฮิรตซ์ ระยะเวลา อนุญาต 15 ปี การชำระเงินเมื่อประมูลเสร็จสิ้นปีแรก 50% ปีที่2 สัดส่วน 25% และปีที่ 3 สัดส่วน 25% ของราคาที่ชนะประมูล เป็นต้น ดังนั้นรายละเอียดทั้งหมดจะนำมาเปิดเวทีรับฟังความเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) ในเดือน ก.ค.นี้ และคาดว่าภายในเดือน ส.ค.จะประกาศบังคับใช้ได้" (ไทยรัฐ) - กลุ่มเกษตร: ส่งออกยางพาราไปอียู 4 เดือนทิ้งดิ่ง 33% หวั่นวิกฤติลามจีดีพีเกษตรไทยโตแค่ 2.5% นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ติดตามสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจสหภาพยุโรป (อียู) ที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังอียูแล้วพบว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.55 หรือ 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยส่งออกสินค้าเกษตรหมวดอาหารไปอียูรวม 35,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่สินค้าที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก คือ ยางพารา มูลค่าการส่งออกไปยังอียูลดลงถึง 33% จาก25,700 ล้านบาท เหลือเพียง 17,125 ล้านบาทเท่านั้น จึงเป็นสินค้าที่ส่งสัญญาณว่าได้รับ ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจของกลุ่มอียูอย่างชัดเจน (ไทยรัฐ)   กิจพล ไพรไพศาลกิจ Kitpon.p@kasikornsecurities.com +662 696-0057 ปณิธิ จิตรีโภชน์ Paniti.j@kasikornsecurities.com, +662 696-0053   โดย บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ประจำวันที่ 21 มิ.ย. 2555

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook