นายกฯยึดประโยชน์ชาติชงสภาถกนาซาใช้อู่ตะเภา

นายกฯยึดประโยชน์ชาติชงสภาถกนาซาใช้อู่ตะเภา

นายกฯยึดประโยชน์ชาติชงสภาถกนาซาใช้อู่ตะเภา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำกรณีองค์การนาซาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาเข้าหารือและตรวจสอบผ่านกลไกสภา ในมาตรา 179 เพื่อให้มีการอภิปรายโดยไม่ลงมติ หากได้ข้อสรุปออกมาอย่างไร ฝ่ายค้านจะรับผิดชอบหรือไม่ ให้เป็นการพิจารณาตัดสินใจของประชาชนเอง ขณะที่การจะขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ก็ไม่ทันตามระยะเวลาที่สหรัฐกำหนดไว้ โดยสามารถรอได้ถึงสิ้นเดือนนี้เท่านั้น ทั้งนี้หากการสำรวจล่าช้า และจะทำให้นาซายกเลิกโครงการ ก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียใจและน่าเสียดาย ที่ไทยจะมีข้อมูลที่แม่นยำ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันว่า ให้ความสำคัญกับการศึกษาวิจัย โดยจะหาแนวทางในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ให้มีความแม่นยำอย่างเต็มที่ และดำเนินการโดยยึดหลักการรักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก นายกฯ ยึดประโยชน์ชาติชงสภาถกนาซาใช้อู่ตะเภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า กรณีองค์การนาซาของสหรัฐ ขอเข้าใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อสำรวจชั้นบรรยากาศ เป็นโครงการที่สืบเนื่องมาจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ได้ลงนามกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2553 ซึ่งโครงการนี้ถือเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ใช้ประกอบการพยากรณ์อากาศ รองรับการประเมินสถานการณ์เรื่องภัยธรรมชาติ โดยวันนี้ คณะรัฐมนตรี ยังไม่มีมติใด ขณะที่ คณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันว่า ไม่เข้าข่ายผิดมาตรา 190 วรรค 2 อีกทั้ง คณะรัฐมนตรี เห็นว่า มีข้อทักท้วงและกล่าวหาอย่างรุนแรงจากหลายฝ่าย จึงมีมติให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อชี้แจงตรวจสอบความโปร่งใสข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้ทราบ  โดยรัฐบาลยืนยันว่า ยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก โดยมองบหมายให้กับกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงกับสหรัฐอเมริกา และหวังว่า สหรัฐจะเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของไทย  'สุรพงษ์'แถลงนาซาศึกษาไม่ทันปีนี้นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า กรณีที่องค์การนาซา ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เพื่อบินสำรวจชั้นบรรยากาศ เหตุผลที่คณะรัฐมนตรีนำเรื่องเข้าสู่รัฐสภา เนื่องจากต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด ให้สังคมเข้าใจ เพราะฝ่ายค้าน ได้กล่าวหาว่า คณะรัฐมนตรีไม่ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง ดังนั้น จึงเห็นควรให้รัฐสภาเห็นชอบร่วมกัน อีกทั้งไม่อยากให้สาธารณะชนเข้าใจผิดในประเด็นดังกล่าว และหากไม่นำเรื่องเข้าสู่สภา อาจมีบุคคลบางกลุ่มนำไปยื่นให้ศาลตีความได้ ส่วนข้อกังวลของฝ่ายค้านเรื่องการบินผ่านประเทศเพื่อนบ้านนั้น ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะก่อนหน้านี้ องค์การนาซา เคยบินสำรวจที่ประเทศเพื่อนบ้านมาแล้ว อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวอาจไม่สามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้ เพราะต้องรอกระบวนการทางรัฐสภาก่อน ซึ่งคณะรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ตนเองชี้แจงกับสหรัฐอเมริกาต่อไป "ยุทธศักดิ์" ลั่น ไม่ยอมถูกแทรกแซงอธิปไตยพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ จะพิจารณากรณีที่ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซ่า ขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อบินสำรวชั้นบรรยากาศ ซึ่งวาระนี้จะเข้าที่ประชุมในวาระปกติ ส่วนการประชุมจะออกมาอย่างไรให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสิน ยืนยัน จะไม่ยอมให้มาเอาเปรียบ หรือ แทรกแซงอธิปไตยและความมั่นคงของไทย อย่างแน่นอน ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหม ได้มีการส่งความเห็นว่า ไม่กระทบต่อความมั่นคงและกองทัพเรือ ในฐานะเจ้าของพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ก็พร้อมดูแลสถานที่ ขณะที่ กองทัพอากาศ ก็พร้อมดูแลในเรื่องของอากาศยานและเส้นทางการบิน เสธ.ทร. ยัน อุปกรณ์นาซา ยังไม่ถึงอู่ตะเภาพล.ร.อ.ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ เสนาธิการทหารเรือ เปิดเผยว่า ขณะนี้ อุปกรณ์ต่างๆ ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ นาซา ยังไม่ถึงสนามบินอู่ตะเภา แต่จากเอกสารที่มีการเปิดเผย ระบุว่าอุปกรณ์ดังกล่าวได้ออกจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะถึงประเทศไทยเมื่อใด และหากรัฐบาลอนุมัติโครงการให้นาซา ใช้สนามบินอู่ตะเภา ทางกองบัญชาการกองทัพไทย โดยเจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และเจ้ากรมยุทธการกองอื่นๆ แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาติดตามโครงการดังกล่าว ว่าจะกระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ และสิ่งที่ห่วงใย คือ จะมีการเบี่ยงเบนประเด็ดดังกล่าว ทั้งนี้ กองทัพเรือ จะไม่ดำเนินการใดๆ จนกว่ารัฐบาลจะอนุมัติโครงการนี้ และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล เพราะเชื่อว่ารัฐบาลใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐอเมริกา จำเป็นต้องแจ้งมายังทางการไทย ว่าจะนำอุปกรณ์ใดๆ เข้ามายังประเทศไทยบ้าง และหากมีความสงสัย สามารถตรวจสอบได้ เลขากฤษฎีกายันนาซาขอใช้อู่ตะเภาไม่ต้องเข้าสภา นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยว่า จากที่ได้พิจารณาเอกสารบันทึกข้อตกลง ระหว่างสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA และองค์การนาซา เรื่องการขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อบินสำรวจชั้นบรรยากาศนั้น กรณีดังกล่าว ไม่เข้าข่ายมาตรา 190 วรรค 2 ที่จะต้องนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา ส่วนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้ารัฐสภาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ หนังสือจากสถานทูตสหรัฐอเมริกา ชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวเป็นการวิจัยสภาอากาศที่ใช้เวลาศึกษา 2 เดือน ซึ่งจะต้องทำตามข้อตกลงของฝ่ายความมั่นคง เช่น เรื่องเส้นทางการบิน "มัลลิกา" จี้ นายกฯ ตอบปมนาซาน.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ว่า ต้องการให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกมาตอบคำถามว่า เหตุใดจึงให้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นคนนำเรื่องขององค์การนาซา ข้อใช้สนามบินอู่ตะเภา เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้งที่ความจริงแล้ว ควรจะเป็นหน้าที่ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมกันนี้ ยังมีข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีบริษัทพลังน้ำมัน เข้ามาอยู่ในแผนดังกล่าวด้วย โดยอยากให้มีการให้ความกระจ่างว่า เรื่องนี้เข้ามาได้อย่างไร และนักวิทยาศาสตร์รู้เรื่องหรือไม่ โดย น.ส.มัลลิกา ยังกล่าวอีกว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของไทย สหรัฐฯ และประเทศเพื่อนบ้าน อย่างปฏิเสธไม่ได้ และถึงแม้ว่า สหรัฐน จะยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรแล้วว่า จะดำเนินการตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด ผอ.GISTDAชี้นาซาตั้งฐานดีกับไทย-อาเซียน นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รักษาการ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิศาสตร์สาระสนเทศ หรือ  GISTDA กล่าวว่า การที่ องค์การนาซา จัดตั้งศูนย์ศึกษาชั้นบรรยากาศที่สนามบินอู่ตะเภา จะส่งผลดีทางด้านวิชาการ เพราะประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ยังขาดข้อมูลและยังไม่มีเครื่องมือที่มีศักยภาพระดับสูงที่จะเก็บตัวอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องดีที่นักวิทยาศาสตร์ไทย จะได้ร่วมทำงานกับนักวิชาการนานาชาติ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การเข้ามาขององค์การนาซาครั้งนี้ ไม่มีการนำอาวุธเข้ามาด้วย เพราะการขึ้นไปสำรวจทุกครั้ง จะต้องมีการตรวจสอบจากหน่วยงานความมั่นคง และนาซาต้องทำรายงานให้ประเทศไทยทราบทุกครั้ง "ชวนนท์" ตั้งปม มีเรื่องอื่นนอกเหนือสัญญานาซานายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัย กรณีองค์การนาซา ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา นั้น ความจริงก็เปิดเผยออกมาเรื่อยๆ ทั้งนี้ หลังจาก นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ออกมายอมรับเรื่องดังกล่าวว่า เข้าข่ายมาตรา 190 (2) แสดงให้เห็นว่า นายสุรพงษ์ เริ่มที่จะบอกความจริงกับประชาชนบ้างแล้ว นอกจากนี้ นายชวนนท์ ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้มีความชัดเจนว่า เรื่องนี้มีการตกลงกันมานานแล้ว เพราะทราบดีว่า หากจะเกิดโครงการดังกล่าวในเดือนสิงหาคม ได้ จะต้องใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ในการขนถ่ายอุปกรณ์มายังเมืองไทย จึงตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดสหรัฐฯ จึงมั่นใจในโครงการนี้มาก มีการตกลงสัญญาอะไรนอกเหนือจากนั้นหรือไม่ ดังนั้น จึงอยากให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ให้ดี   'นพดล' ฉะ คนขวางนาซาตั้งฐานอู่ตะเภา นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัว ระบุว่า เรื่องนาซาขอใช้อู่ตะเภา เพื่อการสำรวจสภาพอากาศนั้น ไทยจะได้ประโยชน์แน่นอน แต่นักการเมืองและคนค้าน พยายามโยงว่าจะมีการขนเครื่องบินรบเข้ามา และอาจทำให้เสียดินแดน ส่วนตัวเห็นว่า คนพวกนี้จะไม่ได้แกล้งโง่ แต่มองคนอื่นไม่ดีไปหมด คิดว่าไม่รักชาติ รวมทั้ง ยังต้องการจุดประเด็นเรื่องนี้ เหมือนกรณีปราสาทพระวิหาร เพื่อล้มรัฐบาล อย่างไรก็ตาม จะไม่ยอมให้คนพวกนี้ชงเรื่องให้มีการตัดสินว่าผิด มาตรา 190 เด็ดขาด ส่วนถ้า นาซา ไม่ได้ใช้อู่ตะเภาและเกิดความเสียหาย ต้องไปต่อว่าคนพวกนี้นอกจากนี้ นายนพดล ยังโพสต์ถึงความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยว่า หลังจากออกจากมาเลเซีย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็บินไปรับประทานอาหารกลางวันกับประธานาธิบดีศรีลังกา ก่อนที่จะกลับดูไบ รองโฆษก ทบ. ยัน ฐานนาซา เป็นประโยชน์ พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวยืนยันว่า การขอใช้สนามบินอู่ตะเภา ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (นาซา) มีภารกิจ 2 เรื่อง คือ ภารกิจการศึกษาวิจัยชั้นบรรยากาศ และภารกิจบรรเทาสาธารณภัยในภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นประโยชน์กับประชาชนในภูมิภาค และการประชุมด้านความมั่นคงในวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีความเห็นตรงกันที่จะตั้งคณะทำงาน เพื่อติดตามการดำเนินการของทางสหรัฐฯ ในการร่างข้อตกลงร่วมกัน และต้องมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ทั้งนักบิน นักวิชาการ ร่วมติดตามการทำงาน และชี้แจงให้สารธาณชนรับทราบ โดยย้ำว่า กองทัพบก ในฐานะหน่วยงานดูแลความมั่นคง ไม่เพิกเฉยในการติดตามเรื่องนี้อย่างแน่นอน "ยุทธศักดิ์" ลั่น ไม่ยอมถูกแทรกแซงอธิปไตยพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ด้านความมั่นคง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ จะพิจารณากรณีที่ องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซ่า ขอใช้พื้นที่สนามบินอู่ตะเภา เพื่อบินสำรวชั้นบรรยากาศ ซึ่งวาระนี้จะเข้าที่ประชุมในวาระปกติ ส่วนการประชุมจะออกมาอย่างไรให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสิน ยืนยัน จะไม่ยอมให้มาเอาเปรียบ หรือ แทรกแซงอธิปไตยและความมั่นคงของไทย อย่างแน่นอน ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหม ได้มีการส่งความเห็นว่า ไม่กระทบต่อความมั่นคงและกองทัพเรือ ในฐานะเจ้าของพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ก็พร้อมดูแลสถานที่ ขณะที่ กองทัพอากาศ ก็พร้อมดูแลในเรื่องของอากาศยานและเส้นทางการบิน ผบ.ทบ.โยนถามทร.ปมอู่ตะเภาย้ำยึดโปร่งใสพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า กรณีองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา ต้องถามกองทัพเรือ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ และการตั้งคณะทำงาน 3 เหล่าทัพ เป็นของกระทรวงกลาโหม ที่กองทัพบกเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ทั้งนี้กองทัพเป็นหน่วยงานความมั่นคงที่ไม่สามารถเข้าข้างฝ่ายใดได้ และการทำข้อตกลงกับต่างชาติ ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส ซึ่งจะต้องดำเนินการตามข้อตกลงที่มีร่วมกันอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้หากโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่มีประโยชน์จริง ต้องทำให้ดี หาวิธีที่จะปฏิบัติให้ได้ มิฉะนั้นจะล่าช้า อีกทั้งต้องตอบคำถามสังคมได้ พร้อมทั้งมองว่า ทุกฝ่ายต่างหวังดีกับประเทศชาติ และต้องนำความคิดที่ฝ่ายต่างๆ แสดงออก มาลั่นกรองว่าประเทศชาติจะได้อะไร และเชื่อว่ารัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook