รมว.กห.เผยเตรียมถกกัมพูชาล้ำเขตแดนMOU

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง ความคืบหน้าหลังจากการปรับกำลังทหาร บนพื้นที่เข้าพระวิหารของไทยและกัมพูชา เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ถือเป็นขั้นแรกที่ไทยและกัมพูชา ได้กระทำการร่วมกัน ปฏิบัติตามคำสั่งศาลโลก ทั้งนี้ มองว่าทั้ง 2 ฝ่าย ต้องเร่งดำเนินการในขั้นต่อไป ส่วนการเก็บกู้วัตถุระเบิดนั้น เป็นข้อตกลงของคณะทำงานร่วมไทย - กัมพูชา ที่ต้องร่วมกันหารือในขั้นต่อไป  ทั้งนี้ พล.อ.อ.สุกำพล  กล่าวถึงการต่อสู้คดีต่อศาลโลกว่า เรื่องนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนตัวทราบว่า มีการยื่นหลักฐานเอกสารเพิ่มเติม ประมาณ 3 ครั้ง และประมาณเดือนเมษายน ในปีหน้า จะมีการไต่สวนด้วยคำพูด พร้อมกันนี้ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวถึง ประเด็นที่ชุมชนของกัมพูชา ลุกล้ำพื้นที่ ที่มีการลงนาม MOU 43 ว่า ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่แต่อย่างใด ทั้งนี้ ต้องมีการหารือกับทางการกัมพูชาต่อไป รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกล่าวถึง การตรวจสอบ การจัดซื้อเครื่อง GT200 ของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นั้น  เครื่องดังกล่าว กองทัพอากาศ เป็นผู้ทดลองใช้ และเมื่อได้ผลจึงจัดซื้อเข้ามา ขณะที่ ผู้นำเครื่องดังกล่าวไปใช้ปฏิบัติงานมีความพึงพอใจ และสามารถตรวจสอบวัตถุระเบิดได้จริง แต่เมื่อมีการระบุจากประเทศอังกฤษว่า เครื่องดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้จริงจึงหยุดใช้ ทั้งนี้ ตนเองยังคงเสาะหาอุปกรณ์ตรวจสอบวัตถุระเบิดมาใช้งานเพิ่มเติม ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องใช้ GT200 นั้น ต้องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้ดำเนินการ