ป่าเถื่อน! เด็กช่างบุกถิ่น ดักสาดกระสุนใส่คู่อริ

ป่าเถื่อน! เด็กช่างบุกถิ่น ดักสาดกระสุนใส่คู่อริ

ป่าเถื่อน! เด็กช่างบุกถิ่น ดักสาดกระสุนใส่คู่อริ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(10 ส.ค.) เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเหตุคนยิงกันตายและมีการจุดไฟเผารถจักรยานยนต์ ใกล้กับทางเข้าหมู่บ้านเมฆฟ้าวิลล์ ถนนสุขุมวิท จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าโกดังโรงตากหนังสัตว์ ถนนสุขุมวิท กิโลเมตรที่ 32 เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์วิบาก คาวาซากิ สีดำ-แดง กำลังมีเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ใกล้กันพบกระป๋องสีสเปรย์ตกอยู่ ฝั่งตรงกันข้ามพบปลอกกระสุนตกอยู่จำนวนหลายนัดหลายขนาด และพบระเบิดปิงปองอีก 2 ลูก จึงเก็บเอาไว้ตรวจสอบ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบศพนักศึกษาเสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายระพีภัทร์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 2 แผนกช่างกล(ภาคค่ำ) โรงเรียนชำนิเทคโนโลยี ตรวจสอบสภาพศพ พบถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่กลางหลัง 1 นัด กระสุนทะลุหน้าอก และพบผู้ได้รับาดเจ็บถูกยิงอีก 3 ราย เป็นนักศึกษาโรงเรียนชำนิเทคโนโลยีทั้งหมด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที

จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. มีชายวัยรุ่นประมาณ 20 คน ขับรถกระบะไม่ทราบยี่ห้อ มาช่วยกันพ่นฉีดสเปรย์สีแดงเป็นข้อความบนกำแพงโกดังโรงตากหนังสัตว์ ซึ่งต่อมามีกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์อีกประมาณ 20 คนมาร่วมสมทบ ก่อนทั้งหมดจะแยกย้ายกันไป

จนกระทั่งสักพักกลุ่มผู้เสียชีวิตได้ขี่รถจักรยานยนต์กันมา 6 คน และจอดที่จุดเกิดเหตุและด่าทอที่เห็นข้อความ "10 ส.ค. วันหมาอยากตาย(ตายหมู่)" ทับโลโก้สถาบัน จึงได้หยิบเอาสีสเปรย์ที่กลุ่มคนร้ายทิ้งเอาไว้มาพ่นทับ แต่ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่งดักซุ่มอยู่ฝั่งตรงกันข้าม ได้เปิดฉากกราดยิงปืนใส่กลุ่มผู้เสียชีวิตจำนวนหลาย 10 นัด ก่อนจะมีกลุ่มคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามมาสมทบอีกและกราดยิงใส่อีกหลายนัดอย่างอุอาจ ก่อนจะลากรถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้เสียชีวิตไปจุดไฟเผากลางถนนและแยกย้ายกันหลบหนีไป

ด้านหนึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิตให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักศึกษาได้ตั้งวงดื่มเหล้ากันที่บ้านย่านบางปู จนกระทั่งมีรุ่นน้องโทรศัพท์มาแจ้งว่า นักเรียนกรุงเทพช่าง มาฉีดสีสเปรย์ทับโลโก้สถาบัน บริเวณจุดทีเกิดเหตุ จึงได้รวมตัวกันมาเพื่อจะทำลายข้อความนั้น ไม่คิดว่าเป็นหลุมพราง จนกระทั่งถูกดักซุ่มยิงดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook