''ฟลอเรนซ์'' อินบทดราม่าสุดหิน ใน ''เดอะ อีเลฟเฟ่น คิง''

''ฟลอเรนซ์'' อินบทดราม่าสุดหิน ใน ''เดอะ อีเลฟเฟ่น คิง''

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
เข้ามาเล่นหนังเรื่องนี้ได้อย่างไร

ทอม เดอร์เวอเรน วอลเลอร์ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ฝ่ายไทยของหนังเรื่องนี้ เขาติดต่อมาที่นิวยอร์ก เขาก็บอกให้เราไปแคสติ้ง เพราะโปรดิวเซอร์ฝ่ายนิวยอร์ก เขาเคยไปทำแคสติ้งที่เมืองไทย แต่ไม่ถูกใจใครสักที จนเขาไปเปิดแม็กกาซีนเล่มหนึ่ง แล้วฟลอเรนซ์อยู่บนปกนั้นพอดี แล้วเขาก็ติดต่อมาให้ไปแคสติ้ง แล้วก็ได้มาเล่นเลย คือ ฟลอเรนซ์ได้มานั่งคุยกับผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ก่อนด้วย

// //

เขาให้ทำอะไรบ้างตอนแคสติ้ง

เขาก็ให้เรากลับไปอ่านบทแล้วให้ไปแคสติ้ง แล้วฟลอเรนซ์ก็ชอบบทมาก ตอนไปแคสติ้งก็ไปแคสติ้งกับแคสติ้ง ไดเรกเตอร์เลย เขาให้เราร้องไห้ตอนฉากที่เราบอกเลิกโอลิเวอร์

เคยถามไหมว่าทำไมเขาเลือกเรา

เขาบอกว่าเราดูเป็นธรรมชาติ ชอบตอนเรายิ้ม เห็นเราบนปกแฟชั่น แล้วยิ้มแบบจริงใจ แล้วจำได้เลย ว่าปกหนังสือเล่มนั้น ฟลอเรนซ์ยิ้มไม่หุบเลย

ส่วนใหญ่คนที่ไปแคสติ้งเป็นคนชาติไหน

จะเป็นสาวผมบลอนด์ ตาสีฟ้า ซึ่งมันผิดต่างจากที่เขาอยากได้เลย

เล่าถึงความแตกต่างระหว่างการแคสติ้งของไทยและเมืองนอก

บอกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะฟลอเรนซ์ไม่ได้แคสหนังไทยเยอะเท่าไหร่ แต่มีล่าสุดก็เป็นเรื่อง Coffin ที่เพิ่งจะเข้าฉายไป มี ทวิภพ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แล้วก็มา The Elephant King คือ ที่นิวยอร์กมันจะยากกว่า ตรงที่ว่าเวลาเรามาแคส เราจะแคส กับแคสติ้ง ไดเรกเตอร์เลย เขาจะให้เราเข้าไปในห้อง และให้เราแคสต่อหน้ากล้อง แสดงที่เราไปทำการบ้านมา คือจะให้โอกาส 2-3 ครั้ง เสร็จปุ๊บ ออกจากห้องเลย ไม่ใช่แบบว่ามีมานั่งคุย ทำความรู้จักกันก่อน มันอยู่ที่ความสามารถอย่างเดียว ถึงเขาจะพยายามช่วยให้เราได้อารมณ์ให้ถึงบทละครนั้นๆ แต่บางครั้งในสายตาของเขา คาแรกเตอร์ของคนคนนั้น บางทีอาจจะไม่ใช่ตามที่ผู้กำกับขอมาก็ได้ ซึ่งต่างจากประสบการณ์ที่ฟลอเรนซ์แคสติ้งที่ไทย คือ เราจะได้คุยกับผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ก่อน แล้วทำความเข้าใจว่าเขาต้องการอะไร

คาแรกเตอร์เรื่องนี้เป็นอย่างไร

เรื่องนี้ฟลอ์เล่นเป็น เล็ก เขาจะดูเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง โตมาไม่มีพ่อ เพราะคุณพ่อทิ้งไปตอนยังเด็ก เล็กจะต้องดูแลทุกอย่างในบ้าน ต้องเข้มแข็งเพื่อแม่ แล้วแม่ก็ไม่สบายอีก เล็กก็ต้องเข้มแข็งกว่าเดิม ต้องทำงานตอนกลางคืนเพื่อที่จะเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่ เป็นคนที่โตมาก็เจอชาวต่างชาติ เจอคนไทยที่กินเหล้า เขาก็เลยต้องเข้มแข็งไว้เพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายต่างๆ กลัวคนเอาเปรียบ

แล้วคาแรกเตอร์ของเล็กแตกต่างจากฟลอเรนซ์ไหม

จริงๆ ก็ไม่ต่างจากฟลอเรนซ์เท่าไหร่นะ เราถึงอยากเล่นบทนี้มาก ตอนเด็กๆฟลอเรนซ์จะเป็นคนที่เปิดใจกว้างรับคนอื่น แต่พอเวลาฟลอเรนซ์ย้ายไปอยู่นิวยอร์ก ถึงรู้ว่าคนที่นั่นเขาค่อนข้างก้าวร้าว เราถึงได้รู้ว่าบางทีเราไม่ควรจะเปิดรับใครมาก บางทีฟลอเรนซ์ก็รำคาญนะ ขณะเดินอยู่ริมถนน จะชอบมีคนมาพูดคุยด้วย เราจะไม่คุยเลยกับคนแปลกหน้า ซึ่งต่างจากเมื่อก่อน เพราะเราก็ต้องสร้างกำแพงนิดหนึ่งเพื่อป้องกันตัวเอง

แล้วยากไหม

ก็ยากนะ คือในบท คาแรกเตอร์ของเราจะเป็นลูกครึ่ง แต่จะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่ง ก็อึดอัดนิดหนึ่ง ซึ่งตอนเด็กๆ แม่ฟลอเรนซ์จะส่งเราไปเรียนโรงเรียนนานาชาติ แม่ยังแซวเลย ว่าส่งเราไปเรียนเพื่อไม่ให้เราพูดภาษาอังกฤษแบบนี้นะ การถ่ายทำสนุกสุดๆ คือเรื่องนี้เป็นหนังอินดี้ ถ่ายทำที่เมืองไทย 80% อีก 20% ถ่ายที่นิวยอร์ก ซึ่งจะมีฉากของ เอลเลน เบอร์สไตน์ ที่เขาเล่นเป็นแม่ของพระเอกทั้ง 2 คน นักแสดงคนนี้ได้รางวัลของฮอลลีวู้ดมาเยอะมาก แล้วหนังเรื่องนี้ฉากสวยมาก

มีซีนไหนที่ประทับใจบ้าง

มีหลายฉาก ฉากที่เล็กเจอกับโอลิเวอร์ครั้งแรกที่บาร์เบียร์ ซีนนั้นสวยมาก ดูอ่อนโยน ซีนนั่งอยู่บนรถ 2 แถว ชิลมาก นั่งมองวิวข้างทาง และเพลงในหนังก็ทำให้ซึ้งด้วย ซีนที่มีหมา 3 ขา ซีนที่โอลิเวอร์อกหัก แล้วเห็นพระเดินบิณฑบาตตอนเช้ามืด มีเด็กกระโดดลงคลอง ซึ่งซีนนั้นมีความเป็นไทยเยอะมาก ประทับใจหนังมากๆ เห็นเขาตัดต่อหนังหลายครั้งเหมือนกัน สุดท้ายก็ออกมาเยี่ยมมาก

ตอนไปฉายที่ Film Festival

เสียงตอบรับดีมาก คนชมเยอะ คือ ก่อ้านี้หนังเรื่องนี้เคยไปพรีเมียมที่แอลเอ เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ที่นั่นคนแก่ค่อนข้างไปดูหนังเยอะเหมือนกันอายุ 50-60 ปี ซึ่งเราก็งงมาก แปลกใจเหมือนกันไม่คิดว่าคนแก่จะมาดูหนังเรา เพราะว่าพระเอกและนางเอกก็เด็ก

ทำงานที่นิวยอร์กเป็นหลักเป็นอย่างไรบ้าง

ใช่...การแข่งขันสูงมาก ซึ่งเราจะประสบความสำเร็จที่นั่น มันยากมาก ตอนนี้ฟลอเรนซ์ก็เรียนแอ็กติ้งที่นิวยอร์กไปเรื่อยๆ

คาดหวังไหมว่าเราเล่นหนังต่างประเทศแล้ว คนจะได้รู้จักเราซึ่งเป็นคนไทยมากขึ้น

ไม่คาดหวังมาก เพราะฟลอเรนซ์จะบอกกับตัวเองก่อนเลย ว่าเวลาไปแคสติ้งบางทีเราก็ถูกปฏิเสธ ถึงเราจะสวย เก่ง แต่บางครั้งเราอาจจะไม่ใช่คนที่เขาต้องการก็ได้ อย่างน้อยเราไปแคสติ้งกับแคสติ้ง ไดเรกเตอร์ คนที่ดังๆ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีของเราแล้ว ถือเป็นการฝึกซ้อมไปในตัว พอเราแคสติ้งเยอะๆ ก็จะชินเข้าถึงได้ทุกบทบาท อย่างน้อยเราก็มีทักษะมากขึ้น อย่างบางทีบทที่เราชอบมากๆ ตอนแคสแรกๆ ก็ตื่นเต้น พูดไม่ออกเลยก็มี แรกๆ ก็เกร็ง ตัวสั่น พอมากขึ้นก็ชิน

งานเบื้องหลังสนใจทำไหม

อยากทำ ชอบ อยากเล่าเรื่องให้คนดูบ้าง อยากทำหนังเพื่อให้คนดูทั่วโลก

เสียงเล็กๆ นวันเด็กขอนายกฯช่วยคนไทยรักกัน

วันเด็กแห่งชาติปีนี้...ผู้ปกครองต่างพาบุตรหลานไปเที่ยวชมตามสถานที่ต่างๆ ที่เปิดเป็นพื้นที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะ ทำเนียบรัฐบาล ที่เคยโอ่อ่ากว้างใหญ่ กลับแคบลงไปถนัดตา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook