พธม.ประณามนปช. ปลุกมวลชน-แดงไป ปชป.ซัดบงการม็อบ

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 7 ประณามการยั่วยุคุกคาม โดยคนเสื้อแดงและตำรวจ ที่มีเจตนาต้องการสร้างความรุนแรง โดยมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดการเผชิญหน้า ระหว่างคนเสื้อเหลืองและคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา พร้อมทั้งประณามรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ที่แสดงท่าทีส่งเสริมการใช้ความรุนแรง โดยขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ ในการดำเนินคดีกับกลุ่มชายชุดดำ ที่เข้ามาทำร้ายคนเสื้อเหลือง และขอแสดงความเสียใจกับประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สำหรับวันที่ 29 ตุลาคม ที่กองปราบปราม นัด น.ส.มนัสนันท์ หนูคำ ไปรับทราบข้อกล่าวหานั้น พันธมิตรฯ ยืนยันเจตนาเดิม โดยรอการติดต่อว่าต้องการความช่วยเหลือจากพันธมิตรฯ หรือไม่ ส่วนการเดินทางไปให้กำลังใจของคนเสื้อเหลืองนั้น เป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่จะเดินทางไปให้กำลังใจได้  เสื้อแดงไปปชป.อีกซัดบงการม็อบปะทะ พ.ต.อ.สุนทร คงกล่ำ ผกก.สน.บางซื่อ เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มวลชนคนเสื้อแดง จาก จ.ปทุมธานี ประมาณ 20 - 30 คน เดินทางมายังหน้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือประท้วง ส่วนรายละเอียดนั้น ตนเองยังไม่ทราบว่าเรื่องอะไร โดยขณะนี้ ยังไม่มีใครออกมารับหนังสือดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจ สน.บางซื่อ ได้ส่งกำลังตำรวจปราบจลาจล จำนวน 3 หมวด 150 นาย ประจำการดูแลความเรียบร้อยอยู่ เนื่องจากทราบข่าวมาอีกว่า ทางกลุ่มคนเสื้อเหลืองจะเดินทางมาเพื่อสังเกตการณ์อีกด้วย ดังนั้น ทางตรวจจึงต้องเข้มงวดในการดูแลไม่ให้กลุ่มมวลชนกระทบกระทั่งกันอีก โดยมี พ.ต.ท.อำนาจ หาญชนะ รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ เป็นผู้คุมกำลัง "เทพไท" ชี้ แดงบุกหน้า ปชป. จี้รับผิดชอบรถยนต์พังนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า กรณีกลุ่มคนเสื้อแดง มาเรียกร้องหน้าพรรคในวันนี้นั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบเนื้อหาในหนังสือที่มายื่น ทราบเพียงว่ากลุ่มคนดังกล่าวมายื่นหนังสือ จำนวน 30 คน เพื่อเรียกร้องให้ทางพรรครับผิดชอบรถยนต์ที่พังในเหตุการณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง และเสื้อเหลืองปะทะกัน หน้ากองปราบปราม เมื่อวันก่อน อีกทั้งกลุ่มคนดังกล่าวยังอ้างว่า ทางพรรคเป็นผู้อยู่เบื้องหลังให้ม็อบ 2 สี ทะเลาะกัน ซึ่งในวันนี้ ทางพรรคจะไม่มีการส่งตัวแทนเพื่อเข้ารับหนังสือแต่อย่างใด "ยุทธศักดิ์" ไม่อยากให้ เสื้อแดง-เหลือง ทะเลาะกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ปะทะกันนั้น ส่วนตัวไม่อยากให้เกิด เพราะไม่เป็นผลดีต่อประเทศ และไม่สวยงามในสายตาของต่างชาติด้วย ทั้งนี้ ในฐานะที่ดูแลหน่วยงานความมั่นคง ก็ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและยืนยันการข่าวว่า ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ขณะที่ ต้องการเห็นความปรองดอง และความร่วมมือกัน นอกจากนี้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเหตุการณ์ระเบิดรถนักเรียน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และยังไม่ได้รับรายงาน ด้านการข่าวเหตุรุนแรง แต่สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านและสับกำลังเจ้าหน้าที่ จึงกำชับให้ผู้ปฏิปัติงานมีการปรับตัวกับคนในพื้นที่ ซึ่งวันนี้ จะมีการประชุมวางแผนในพื้นที่ โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมกับ กอ.รมน., ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการประสานงานรณรงค์เพื่อแก้ปัญหาทางสันติ 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยมีหน้าที่หลักในการปฏิบัติงานในพื้นที่ รวมถึงพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ด้วย บก.น.2ตั้งพงส.คดีแดงปะทะเหลืองพ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า กรณีเกิดเหตุทำร้ายกันระหว่างกลุ่มคนเสื้อเหลืองกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มาติดตามคดีอดีตครูโรงเรียนนานาชาติ ถูก นางดารุณี กฤตบุญญาลัย แนวร่วม นปช. แจ้งความเอาผิดฐานหมิ่นประมาท กรณีถูกตะโกนต่อว่ากลางห้างดัง ในกรุงเทพมหานคร ว่า กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 มีคำสั่งแต่งตั้งทีมพนักงานสอบสวน มี พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2 เป็นหัวหน้าชุด มีพนักงานสอบสวนรวม 6 นาย ร่วมสอบปากคำสรุปคดีที่เกี่ยวข้องกับการปะทะในเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งความ สำหรับผู้เสียหายไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด โดยจะทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนระยะเวลาการสรุปคดีนั้น ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ด้าน พ.ต.ท.กมล สายโอให้ รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน กล่าวว่า ขณะนี้มีคดีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมด 12 คดี แบ่งเป็นคดีทำร้ายร่างกาย 10 คดี มีผู้แจ้งความเป็นผู้ชุมนุมเสื้อแดงจำนวน 6 ราย เป็นผู้ชุมนุมเสื้อเหลือง 3 ราย เป็นตำรวจจากกองบังคับการควบคุมฝูงชนอีก 1 ราย เป็นคดีทำร้ายทรัพย์สินอีก 2 ราย โดยจะสอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป