พิธีรดน้ำศพครูบ้านบองอ ถูกยิงวานนี้สุดเศร้า

เมื่อเวลา 13.40น.วันที่ 2ตุลาคม 55 ที่วัดบางนรา พ.ต.อ.ทวี  สอดส่อง เลขา ศอ.บต. ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพและวางพวงหรีดหน้าศพ นายคมสันต์  โฉมยงค์ อายุ 40 ปี ครูโรงเรียนบ้านบองอ หมู่4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต บริเวณหน้ามัสยิดบ้านบองอ ขณะกลับจากโรงเรียนมุ่งหน้าบ้านพักในตลาดตันหยงมัส เมื่อวานที่ผ่านมา  โดยมีนายอภินันท์  ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เข้าร่วม พร้อมทั้งมอบเงินเยียวยา จำนวน 500,000 บาท ให้กับนางสาวถนอมสิน  โฉมยงค์ พี่สาวนายคมสันต์  โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งมีข้าราชการครูและเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่ายเข้าร่วมรดน้ำศพเป็นจำนวนมาก โดยประวัติของ นายคมสันต์  โฉมยงค์  ภูมิลำเนา อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู๋2 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี เป็นบุตรของนายสุวรรณ์  และ นางบัวหลั่น  โฉมยงค์ มีพี่น้องรวม4คน นายคมสันต์เป็บลูกคนที่2, จบการศึกษาชั้นประถมปีที่6 ที่โรงเรียนวัดหลวง อ.บางแพ ,จบการศึกษาชั้น ม.6ที่โรงเรียนบางแพปฐมพิทยา อ.บางแพ ,จบการศึกษานักเรียนพลตำรวจ ที่โรงเรียนตำรวจภูธร7 อ.เมือง จ.นครปฐม,จบปริญญาตรี จากสถาบันราชภัฏนครปฐม,จบปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาร,เริ่มบรรจุเป็นราชการครูครั้งแรกเมื่อ วันที่ 1 กันยายน 2547 ในตำแหน่ง อาจารย์ 1โรงเรียนบ้านลูโบ๊ะดีแย อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เนื่องจากนายคมสันต์ เป็นคนที่มีอุดมการณ์และมีความมุงมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพการศึกษาของนักเรียนมนพื้นที่ทุรกันดาร จึงได้เสนอเรื่องขอย้ายตนเองไปสอนที่โรงเรียนบ้านบองอ เมื่อวันที่21ตุลาคม 2554 ซึ่งทางโรงเรียนบองอมีระยะทางไกลกว่าโรงเรียนเดิมและเป็นเส้นทางที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากโรงเรียนบองออยู่ในพื้นที่สีแดง แต่ด้วยใจรักในพื้นที่จึงขอทำหน้าที่ของความเป็นครูต่อ เพื่อต้องการให้นักเรียนได้มีการศึกษาที่ดีแต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิตลง ทางด้านนางสาวถนอมสิน พี่สาว ซึ่งเดินทางมารับศพ น้องชายกล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า เคยเตือนน้องชายหลายครั้งถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น แต่น้องชายยังรักพื้นที่ อ.ระแงะ และอยากสอนนักเรียนที่นี่ เนื่องจากผูกพัน ถึงแม้จะรู้ว่ามีอันตรายกับชีวิตก็ตาม คนเราไม่ว่าจะอยู่ไหนก็ตาย ถ้าถึงที่แล้ว  ตนก็เลยไม่ห้าม ให้สอนต่อไป ทางด้านนางสาวถนอมสิน ยังกล่าวด้วยว่า น้องชายเป็นคนดี รักพ่อ รักแม่มาก ซึ่งจะเป็นคนส่งเงินให้กับพ่อแม่ เนื่องจากพ่อล้มป่วยเป็นอัมพาต แม่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และโรคหัวใจ ซึ่งทางครอบครัว มีนายคมสันต์ น้องชายรับราชการเพียงคนเดียว และเป็นเสาหลักในการเลี้ยงดูพ่อกับแม่ที่ป่วย อยู่  พอทราบข่าวว่าน้องชายเสียชีวิต พ่อเสียใจมาก หลังพิธีรดน้ำศพเสร็จก็จะพาเดินทางกลับบ้านที่ จ.ราชบุรี ทันทีสำหรับบรรยากาศภายในโรงเรียนบ้านพองอเป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังทางโรงเรียนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากครูเสียขัวญเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะครูไทยพุทธ ที่กำลังตกเป็นเป้าการทำร้ายของกลุ่มก่อเหตุรุนแรง ทำให้เด็กนักเรียนซึ่งกำลังสอบปิดภาคเรียนต้องหยุดซะงัก ถึงแม้จะเริ่มสอบได้เพียง 1 วัน ก็ตาม ยังเหลืออีก 4วัน ก็จะสอบเสร็จแต่ต้องมาเกิดเหตุเสียก่อน