โวยผู้รับเหมาชุ่ย ทิ้งวัตถุโบราณวัดลังกาอายุ 100 ปี กองทิ้งปนเศษอิฐ
ชาวกรุงเก่าโวยผู้รับเหมาสุดชุ่ย ทิ้งวัตถุโบราณวัดลังกาอายุกว่า 100 ปี กองทิ้งปนเศษอิฐ เจ้าหน้าที่เล็งหามาตรการลงโทษ
(23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวข่าวสด ได้รับแจ้งการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยว พบว่ามีวัตถุโบราณซึ่งปกติจะอยู่ที่วัดลังกา ใกล้กับสี่แยกเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ติดกับคลองมะขามเรียงด้านทิศตะวันออก ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกนำทิ้งอยู่กับเศษอิฐ ริมถนนด้านหลังสวนสมเด็จ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกองเศษอิฐจำนวนมากปะปนกับเศษปูนไม่พบชิ้นส่วนวัตถุโบราณแต่อย่างใด
ส่วนที่วัดลังกาพบว่าอยู่ระหว่างการบูรณะบริเวณโดยรอบของพระปรางค์ เนื่องจากได้รับความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปี 2554 ส่วนการบูรณะพระปรางค์เกือบจะสมบูรณ์ จึงได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา พบว่าปูนปั้นกรอบหน้าบันพระปรางค์ เก็บรักษาเอาไว้ ขนาดความกว้างประมาณ 50 ซม. ยาวประมาณ 70 ซม. น้ำหนักประมาณ 60 ก.ก.
นายภัทรพงษ์ เก่าเงิน นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า งานบูรณะวัดลังกาแห่งนี้ ใช้งบประมาณ 1 ล้านบาทในการบูรณะหลังจากที่ถูกน้ำท่วมผู้รับจ้างได้ก่ออิฐบูรณะในส่วนของฐานพระปรางค์ผิดไปจากรูปแบบ ผู้ควบคุมงานจึงได้แจ้งให้ผู้รับเหมาทราบ และให้มีการเปลี่ยนรูปแบบจึงได้รื้ออิฐในส่วนที่ก่อผิดออกไปจากรูปแบบออก และสั่งให้นำวัสดุที่รื้อ (อิฐปูน) ไปทิ้ง ส่วนปูนปั้นชิ้นดังกล่าว หลังจากการขุดแต่งได้มีการนำมาวางไว้ใกล้กับองค์พระปรางค์ และคนงานของผู้รับจ้างได้มีการนำชิ้นส่วนปูนปั้นชิ้นนี้ติดไปกับเศษอิฐเศษวัสดุที่รื้อออก และนำไปกองไว้ในส่วนสมเด็จ
ต่อมาผู้ควบคุมงานได้ไปตรวจการทำงานพบว่าปูนปั้นหายไป จึงได้สอบถามผู้รับเหมา จนทราบว่าคนงานได้นำไปทิ้งกองรวมเอาไว้ ขณะนี้ทางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาได้นำปูนปั้นชิ้นดังกล่าวมาเก็บไว้ ที่สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ความผิดพลาดดังกล่าวเกิดขึ้นจากการควบคุมดูแลที่ไม่รัดกุมดีพอ ทั้งฝ่ายผู้รับจ้างและผู้ควบคุมงาน ขอขอบคุณผู้ที่พบเห็นและขอโทษต่อประชาชน ที่มีความห่วงใยต่อโบราณสถาน ซึ่งต่อไปทางอุทยานจะปรับปรุงการดำเนินงานให้รอบคอบรัดกุมมากยิ่งขึ้น และจะดำเนินการหามาตรการลงโทษสำหรับผู้รับจ้างที่ดำเนินการก่อให้เกิดความเสียหาย
สำหรับวัดลังกาเป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นจนถึงขณะนี้อายุประมาณ 100 ปี ปูนปั้นที่นำไปทิ้งนั้นเป็นส่วนที่ประดิษฐานอยู่บนกรอบหน้าบันของวัดศรีลังกา ซึ่งมีจำนวนหลายชิ้น บางส่วนแตกเสียหายเป็นเศษหิน ส่วนชิ้นที่มีปัญหาตกลงมาหลายปีแล้ว ได้มีการเก็บรักษาเอาไว้ในบริเวณใกล้เคียงกับวัด เนื่องจากมีขนาดใหญ่จึงยังไม่ได้มีการเคลื่อนย้าย อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ศึกษาว่าจะสามารถนำไปประกอบในจุดเดิมได้หรือไม่ หากไม่สามารถนำไปไว้ในรูปแบบเดิมได้จะเก็บปูนปั้นชิ้นนี้ไว้ในพิพิธภัณฑ์ต่อไป