เผยนาทีระทึกอุ้มหลาน รองนายกฯ กิตติรัตน์ อ้างนายสั่งมาอุ้ม

เผยนาทีระทึกอุ้มหลาน รองนายกฯ กิตติรัตน์ อ้างนายสั่งมาอุ้ม

เผยนาทีระทึกอุ้มหลาน รองนายกฯ กิตติรัตน์ อ้างนายสั่งมาอุ้ม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลานชายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เผยนาทีถูกอุ้ม โดนปืนจี้คลุมโม่งถึงหน้าบ้าน โดนยัดข้อหาค้ายา ด้านว่าที่ ร.ท. ผู้ก่อเหตุ อ้างนายสั่งมาอุ้ม

(21 พ.ย.) เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ สน.ลำผักชี นายฤทธิ์ โรจนกิจ ณ ระนอง หลานชายนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่ถูกแก๊งคนร้ายอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ่

โดยนายฤทธิ์ ให้การว่า ในวันเกิดเหตุตนเดินทางไปหาพ่อที่บ้านพักย่านวังหิน เพื่อเตรียมเอกสารที่จะนำไปใช้ในการเดินทางไปต่างประเทศ โดยจอดรถไว้หน้าบ้าน แต่ระหว่างนั้นลืมกระเป๋าสตางค์เลยเดินออกมาที่รถ เป็นจังหวะเดียวกับที่กลุ่มคนร้ายได้ปรี่เข้ามาใช้อาวุธปืนจี้ ก่อนจะบังคับให้เดินไปขึ้นรถอีกคันแล้วขับออกไปทันที จากนั้นได้ใช้หมวกไหมพรมคลุมที่ศีรษะแล้วขับรถออกไป ส่วนรถของตนคนร้ายก็ได้ขับออกไปด้วยเช่นกัน 

ระหว่างอยู่บนรถคนร้ายได้ข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกายตน พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ไปด้วย อีกทั้งยังอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด และกล่าวหาว่าตนค้ายา ซึ่งตนได้ปฏิเสธไปว่าไม่เกี่ยวข้อง จนกระทั่งผ่านไปนานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลำผักชี จึงมาพบและเข้าช่วยเหลือไว้ได้

ทั้งนี้หลังเกิดเหตุอยากวิงวอนกับทางสื่อมวลชนว่า แม้ว่าตนจะเป็นหลานนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ซึ่งตามศักดิ์เป็นลุงหลานกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นญาติสนิทแต่อย่างใด เนื่องจากนามสกุล ณ ระนอง เป็นนามสกุลใหญ่ มีเครือญาติหลายสาย และขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นตนเกรงว่าจะทำให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียง

ด้านความคืบหน้าด้านคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวว่าที่ ร.ท.ศุภกฤษณ์ และว่าที่ ร.ท.นันทวุฒิ ไปฝากขังต่อศาลจังหวัดมีนบุรี ถ.สีหบุรานุกิจ แขวงและเขตมีนบุรี กทม. โดยผู้สื่อข่าวถามว่าเพราะสาเหตุใดจึงเลือกลงมืออุ้มเหยื่อในครั้งนี้ ทางด้านว่าที่ ร.ท.ศุภกฤษณ์ ได้กล่าวเพียงสั้นๆว่า "ตัวเองนั้นช่วยราชการอยู่กองปราบปราม และนายเป็นคนสั่งมา" เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามถามว่านายเป็นใคร ทางผู้ต้องหาก็ไม่ยอมพูด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวขึ้นรถออกไป

ส่วนรถยนต์ของผู้เสียหาย หลังจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้แล้ว ยังมีเพื่อนของผู้เสียหายโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่า รถยนต์ของผู้เสียหายจอดอยู่ในมหาวิทยาลัยรังสิต เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต จึงไปตรวจสอบพบรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมขอตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 3 คน ทั้งหมดสวมเสื้อสีชมพู ซึ่งเป็นแบบฟอร์มของพนักงานเคเบิลในมหาวิทยาลัยรังสิต โดยทั้งสามคนอ้างว่าเพื่อนของผู้เสียหายนำมาจำนำในราคา 1 แสนบาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook