มติครม.ย่อยประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง22-30พ.ย.3เขต กทม.

มติครม.ย่อยประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง22-30พ.ย.3เขต กทม.

มติครม.ย่อยประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคง22-30พ.ย.3เขต กทม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุม มีมติประกาศใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง ตั้งแต่วันที่ 22 - 30 พฤศจิกายนนี้ บริเวณพื้นที่เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เพื่อดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม โดยหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์เรื่องอื่นๆ กับผู้สื่อข่าว ด้าน พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเย็นวันนี้ นายกรัฐมนตรี จะมีการเรียกประชุมหน่วยงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาญาจักร หรือ กอ.รมน. เพื่อตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ เพื่อปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ด้วย   นายกฯออกทีวีแจงใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงค่ำนี้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีย่อย เพื่อติดตามสถานการณ์การชุมนุม ของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนั้น ที่ประชุมเห็นชอบ ใช้พระราชบัญญัติรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง ในวันที่ 22-30 พ.ย. ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ เนื่องจากหน่วยงานความมั่นคงและทางการข่าวรายงานชัดเจนว่า จะมีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง ในการชุมนุมครั้งนี้จริง โดย นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ชี้แจงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในช่วงค่ำวันนี้ ภายหลัง กอ.รมน. แต่งตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ เพื่อปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง ในช่วงบ่าย ทั้งนี้ ยืนยันว่า กฎหมายดังกล่าว จะไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน รวมถึงไม่กระทบการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านด้วย โดยจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลัก และหากสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ ก็พร้อมยกเลิกใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ทันที โดยไม่ต้องรอให้ครบกำหนด อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี คำนึงถึงและมีความห่วงใย การใช้สิทธิ์เสรีภาพการชุมนุม ให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย อพส. ย้ำ ไม่คิดแช่แข็งประเทศ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม หรือ อพส. แถลงชี้แจงถึงจุดยืนในการเคลื่อนไหวของ อพส. โดยปฏิเสธว่า ไม่ได้ต้องการแช่แข็งประเทศแต่อย่างใด และไม่มีแนวคิดหยุดการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย เพียงแต่ต้องการหยุดนักการเมือง และพรรคการเมืองที่ทุจริต คอร์รัปชั่น ในด้านการกระทำผิดการเลือกตั้ง ที่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง เป็นการทุจริตซึ่งได้มาของอำนาจรัฐ เกิดการทุจริตถึงนโยบาย พร้อมปล่อยให้มีการทุจริตอย่างกว้างขวาง ซึ่งต้องการให้เกิดความโปร่งใส ต้องการนักการเมืองที่มีความเสียสละ มาร่วมหาทางออกให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า ขณะที่ ใกล้จะถึงวันชุมนุม ได้มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุม จากต่างจังหวัดแล้ว และพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านสกัดอยู่หลายจุด อาทิ บริเวณ จ.นครราชสีมา และ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จึงได้ตั้งศูนย์รับร้องทุกข์ในการเดินทาง เพื่อรับแจ้งการสกัดกั้นขัดขวางการเดินทางมาร่วมชุมนุม  สตช.แจงใช้พ.ร.บ.มั่นคงเหตุม็อบอาจยกระดับ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ควบคุมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ว่า สาเหตุที่ต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เนื่องจากการข่าวพบว่า แกนนำบางส่วนจะใช้ผู้ชุมนุมเป็นเครื่องมือในการยกระดับการชุมนุมและสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้น โดยในเบื้องต้น รัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ควบคุมในพื้นที่ 3 เขต เช่น เขตดุสิต เขตพระนคร และเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 พ.ย. รวมเวลา 9 วัน ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นหลัก และมุ่งเน้นในการรักษาสถานที่ราชการ รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ แต่หากสถานการณ์คลี่คลายก่อนกำหนด ก็จะมีการเสนอให้ยกเลิกการใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว พร้อมกันนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังกล่าวอีกว่า  นอกจากจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักในการปฏิบัติแล้ว ก็จะมีการบูรณาการกำลังจากทุกภาคส่วนในการเข้ามารักษาความสงบเรียบร้อยของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎการใช้กำลังตามหลักสหประชาชาติในการควบคุม ทั้งนี้ยืนยันว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง จะไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไป และผู้ชุมนุมมีสิทธิ์ในการชุมนุมได้ตามปกติ แต่หากผู้ชุมนุมมีการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็จะมีโทษตามกฎหมาย  สุกำพลย้ำทหารไม่ร่วมม็อบโยนถามเฉลิมปมยิงM79 พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมสภากลาโหม ว่า ความจำเป็นในการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาควบคุมการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ต้องทำการหารือกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะตำรวจ ว่ามีความจำเป็นต้องใช้หรือไม่ และการหารือในทุกวันนี้เป็นแต่การเตรียมการประกาศใช้ เมื่อมีสถานการณ์ความรุนแรงเท่านั้น ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จะมีมือที่ 3 ยิงระเบิดเอ็ม 79 เพื่อสร้างสถานการณ์นั้น ต้องไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมย้ำว่าข่าวด้านความมั่นคงนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกัน พร้อมกันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า แผนก่อความรุนแรง 4 ขั้น เพื่อเป็นเงื่อนไขไปสู่การล้มรัฐบาลนั้น ต้องไปถามกลุ่ม นปช. แต่ส่วนตัวคาดว่าเป็นการสร้างสมมุติฐานและคาดการณ์กันเอง  พล.อ.อ.สุกำพล ยังย้ำด้วยว่า ไม่มีทหารออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมกับองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เพราะทหารมีความหนักแน่นมั่นคง แต่ที่มีความเคลื่อนไหวมากในช่วงนี้ เนื่องจากมีการซ้อมสวนสนามในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน วันที่ 5 ธันวาคม พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้สร้างภาพให้การชุมนุมดูมีความรุนแรงแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน พล.อ.อ.สุกำพล เปิดเผยว่า การชุมนุมดังกล่าว มีการเกณฑ์ลูกหลานของกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย มาเข้าร่วมการชุมนุมด้วย จึงอยากเรียกร้องให้ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเดินทางไปศาลปกครอง เพื่อชี้แจงการปลด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากราชการ และดำเนินการถอดยศ ว่า มีความเรียบร้อย และเป็นที่น่าพอใจ ส่วนกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ ไม่ส่งหนังสือชี้แจงที่กระทรวงกลาโหมนั้น เป็นเรื่องของ นายอภิสิทธิ์ ดังนั้น ต้องไปสู้กันด้วยพยานหลักฐานในชั้นศาลต่อไป รอง ผบช.น.สั่งเพิ่มรปภ.บ้าน 'เสธ.อ้าย' -บุคคลสำคัญพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ทาง บช.น. ได้สั่งการให้ ตร.ท้องที่ ที่มีบ้านของบุคคลสำคัญ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อม กับการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. นี้ โดยให้เพิ่มกำลังการดูแลเพื่อป้องกันการสร้างสถาการณ์ของมือที่ 3 อย่างเข้มงวด อาทิ บ้าน พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 330 ซ.สุขุมวิท 54 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. ซึ่งเคยถูกปาประทัดยักษ์ป่วนมาก่อนหน้านี้เป็นพิเศษ รวมถึงบ้านพักของ นายกรัฐมนตรี และบุคคลอื่นๆ รวมถึงสถานที่สำคัญเชิงสัญลักษณ์ด้วย และในวันนี้ ทาง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. จะประชุมตำรวจ บช.น. เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลการชุมนุมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ผบ.ตร.ยันพ.ร.บ.มั่นคงไม่กระทบปชช.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ภายหลัง นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอยหมายให้ตนเองดูแลความสงบเรียบร้อยของผู้ชุมนุม โดยยืนยัน พ.ร.บ.ดังกล่าว จะไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน เนื่องจากเป็นกฎหมายเบื้องต้นในการดูแลความเรียบร้อย อีกทั้ง เป็นกฎหมายรองรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีการควบคุมพื้นที่จำกัดอาวุธดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุม และสถานที่ราชการสำคัญ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่โดยยึดหลักกฎหมายเป็นหลักทั้งนี้ ยอมรับ มีการข่าวพบว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามจะใช้ความรุนแรง ดังนั้น จึงต้องใช้กำลังตำรวจประมาณ 50,000 นาย โดยเบื้องต้น จะใช้กำลังตำรวจจำนวน 100 กองร้อย หรือ 15,000 นาย ในการควบคุมการชุมนุม จากนั้น จะประเมินตามสถานการณ์ และในช่วงเย็นวันนี้ นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เพื่อหารือในรายละเอียดโครงสร้างการปฏิบัติงานตาม พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจขึ้นมา ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการจับตัว นายกรัฐมนตรีนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุเพียงว่าเป็นเพียงการคาดการณ์ทางการข่าวเท่านั้น ประสิทธิ์ปูดพล.อ.อักษรอ.อยู่เบื้องหลังล้มรบ. จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เปิดเผยว่า ในการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 - 25 พฤศจิกายน จะมีกลุ่มบุคคลสร้างสถานการณ์ความรุนแรงจนนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อปูทางให้ทหารกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นคนใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก นำโดย พลเอก อักษรย่อ อ. ดำเนินการตามคำสั่งของผู้มีอำนาจในบ้านเมือง เมื่อดำเนินการล้มรัฐบาลสำเร็จก็จะแต่งตั้งอดีตรัฐมนตรี อักษรย่อ ส. ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ทราบว่าเรื่องดังกล่าว ผู้บัญชาการทหารบก ทราบหรือไม่ เพราะบุคคลเหล่านี้ ไม่ต้องการมีรัฐบาลที่เป็นเครือญาติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ได้ขอเรียกร้องให้ประชาชนอย่ามาร่วมชุมนุม เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย โดยยืนยันว่า การออกมาให้ข่าวของรัฐบาล หน่วยงานความมั่นคง และแกนนำ นปช. ไม่ได้เป็นการรับลูกเพื่อปฏิบัติการทางจิตวิทยาในการสกัดมวลชนเข้าร่วมชุมนุม พันธมิตรฯสตูลกว่า100คนร่วมม็อบเสธ.อ้ายนางอุดมศรี จันทรัศมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จ.สตูล ได้นำแกนนำของพันธมิตรฯ จ.สตูล รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่เข้าร่วมเดินทางจำนวนกว่า 100 คน เพื่อเดินทางไปร่วมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม มาประชุมร่วมกับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ที่กรุงเทพมหานคร โดยจัดรถตู้และรถทัวร์ไปจำนวน 2 คัน อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าว นางอุดมศรี กล่าวว่า ตนเองไปเรียกร้องและร่วมกันเดินขบวนเพื่อให้รัฐบาลยุติการบริหารประเทศ และได้ร่วมเดินทางไปพร้อมกัน โดยบางคนไม่ไปรถส่วนตัว เนื่องจาก เกรงว่า ทางราชการจะมีการสกัดกั้นไม่ให้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร ขณะเดียวกัน ในการเดินทางในครั้งนี้ มวลชนในพื้นที่ จ.สตูล ก็ยินดีจะร่วมกับชุมนุมและจะรับมติทุกอย่างที่ เสธ.อ้าย ประกาศในการเผชิญหน้าดังกล่าวให้ยุติ คืนประเทศไทยให้กับประเทศชาติต่อไป ทนายเสธ.อ้ายยังไม่มีแผนสำรองห้ามชุมนุมนายประยงค์ ไชยศรี ทนายความตัวแทน พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวปฏิเสธว่า เสธ.อ้าย ไม่เคยพูดหรือประกาศจะแช่แข็งประเทศไทย แต่ได้ประกาศจะแช่แข็งนักการเมืองชั่วเท่านั้น พร้อมยืนยัน ไม่มีการปลุกระดมม็อบ และไม่มีมือที่มองไม่เห็นมาชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ส่วนเหตุผลที่ เสธ.อ้าย ไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงด้วยตนเองได้ ก็เป็นเพราะติดภารกิจจำนวนมาก ทั้งนี้ นายประยงค์ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนสำรอง และไม่สามารถบอกได้ว่า จะดำเนินการต่อไปอย่างไร หากศาลรัฐธรรมนูญ มีมติรับคำร้องและสั่งให้ยุติการชุมนุม ในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook