ลูกชาย"สารวัตรแรมโบ้" ซิ่งบิ๊กไบค์แหกโค้งห้าแยกลาดพร้าวดับคาที่

ลูกชาย"สารวัตรแรมโบ้" ซิ่งบิ๊กไบค์แหกโค้งห้าแยกลาดพร้าวดับคาที่

ลูกชาย"สารวัตรแรมโบ้" ซิ่งบิ๊กไบค์แหกโค้งห้าแยกลาดพร้าวดับคาที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ต.ท.วิจิตร ด่านธํารงกูล พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.วิภาวดี รับแจงเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนขอบทางมีผู้เสียชีวิต บริเวณสะพานข้ามห้าแยกลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงสะพานโค้งข้ามห้าแยกลาดพร้าว ระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต มุ่งหน้าไปยังถนนพหลโยธิน พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นนินจา หมายเลขทะเบียน รษท 222 กทม. สภาพพลิกคว่ำ ได้รับความเสียหายทั้งคัน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พบศพ นายภัครพล วิเศรษฐ์ฐิติพันธ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง ภาคอินเตอร์ สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสภาพพังยับเยิน สวมเสื้อเชิ๊ตสีฟ้า กางกางเกงยีนต์ มีบาดแผลถลอกตามลําตัว บริเวณลำคอกระดูกหักเสียชีวิตคาที่

จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนมาถึงทางโค้งผู้ตายพยายามที่จะเลี้ยวแต่เนื่องจากความเร็วของรถทำให้เลี้ยวไม่ทัน จนทําให้รถชนขอบทาง จนตัวผู้ตายกระเด็นออกจากตัวรถ และกระแทกกับขอบทางจนเสียชีวิตดังกล่าว

จากการสอบสวน น.ส.ธารินีดา วิเศรษฐ์ฐิติพันธ์ อายุ 19 ปี น้องสาวของผู้ตาย ทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกของ พ.ต.ท.ไกรเดช วิเศรษฐ์ฐิติพันธ์ รอง ผกก.ปพ. บก.สส. บช.ภ.3 หรือ สารวัตรแรมโบ โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยขับรถออกจากคอนโดย่านรัชดา ซึ่งจะขับเป็นประจําแบบนี้ทุกวัน โดยผู้ตายไม่ได้เมาหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างแน่นอน

ต่อมา เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สน.วิภาวดี พ.ต.ท.ไกรเดช ได้เดินทางมาที่สน. เมื่อพบศพลูกชายก็ได้ร่ำไห้และเข้าไปกอดศพลูกชาย พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาตนถูกกลั่นแกล้งให้ย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีและอยู่ห่างไกลลูก แต่ก็คอยเตือนลูกเรื่องขับจักรยานยนต์ให้ระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย ซึ่งลูกตนเคยประสพอุบัติเหตุทางจักรยานยนตร์มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรก รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ และอีกครั้งโดนอริไล่ทำร้ายจนรถล้ม ตนจึงเตือนลูกอย่าขับจักรบายยนต์อีกไ ม่เช่นงั้นคงได้ตายจริงๆ แน่ จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งก่อนเกิดเหตุตนกำลังอยู่ระหว่างทำเรื่องขอย้ายกลับเข้ามาอยู่ กทม.เพราะว่าเป็นห่วงลูก โดยหลังจากนี้จะนำศพลูกชายไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

ขอบคุณภาพจาก thaimuslim.com

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook