ตร.กระทุ่มแบนจับกุมพ่อสุดโหด ทำร้ายลูกวัย 2 ขวบจนช้ำในตาย

ตร.กระทุ่มแบนจับกุมพ่อสุดโหด ทำร้ายลูกวัย 2 ขวบจนช้ำในตาย

ตร.กระทุ่มแบนจับกุมพ่อสุดโหด ทำร้ายลูกวัย 2 ขวบจนช้ำในตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (23 พ.ย.) พ.ต.อ.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.รัฐพัส ยางงาม รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.นิยม สุ่ยวงษ์ สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน ร.ต.อ.รณเดช บุตรศรี สารวัตรเวรฯ เจ้าของคดี และตำรวจชุดสืบสวนอีกจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันนำตัว นายสาคร คำภาชาติ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของ น้องปลายฝน อายุ 2 ขวบเศษ ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาในลักษณะผิดปกติ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้องเช่าของอาคารมันทนา ห้องที่ 11 เลขที่ 98/12 หมู่ที่ 11 ตำบลอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและเค้นสอบปากคำนายสาคร กับ นางสาวมณีนุช มณีรัตน์ แม่แท้ๆ ของน้องปลายฝน จนได้หลักฐานเป็นที่แน่ชัดแล้วว่านายสาครฯ เป็นคนที่ทำให้น้องปลายฝนถึงแก่ความตาย

ในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ภาพที่ออกมาทำให้เห็นได้ชัดเจนว่านายสาครเป็นผู้ลงมือทำร้ายลูกด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้ร่างกายของเด็กเกิดอาการบอบช้ำสะสมจนถึงขั้นรุนแรง โดยมีทั้งเตะ จับหัวโขกกับหม้อข้าว หรือแม้แต่ก่อนหน้าที่น้องปลายฝนจะเสียชีวิตเพียง 1 วันนั้น ก็ถูกนายสาครใช้เท้าเตะที่ก้นขณะกำลังนั่งดูโทรทัศน์ ส่วนในวันเกิดเหตุน้องปลายฝนได้นอนไม่สบายเพราะสภาพร่างกายที่บอบช้ำมานาน เมื่อนายสาครกลับมาจากทำงานด้วยการมึนเมาเห็นลูกนอนอยู่ก็เข้ามาเขย่าตัวลูกสาวแรง

อีกทั้งยังมีการกระแทกตัวลงกับพื้นเนื่องจากเห็นว่าลูกไม่ขับถ่าย จากนั้นก็จับลูกเอาไปใส่ในถังน้ำที่ใช้สำหรับราดสิ่งปฏิกูลในห้องส้วมแล้วก็เขย่าอย่างแรง ก่อนที่จะยกตัวออกมาเตะที่ก้นลูกอีก 1 ที แล้วก็ส่งตัวน้องปลายฝนไปให้กับนางมณีรัตน์เอาไปเลี้ยงดู ซึ่งเมื่อเด็กที่ร่างกายบอบช้ำภายในอยู่แล้วได้รับการกระทบกระเทือนซ้ำอีก จึงทำให้เกิดอาการชักเกร็ง เลือดออกในช่องท้อง และลำไส้เล็กฉีกขาด (ตามใบชันสูตรของแพทย์นิติเวช) จึงเสียชีวิตลงก่อนที่จะถึงมือแพทย์ของโรงพยาบาลกระทุ่มแบนในคืนวันที่ 22 พฤศจิกายน

ส่วนในเรื่องของร่องรอยต้องสงสัยที่เกิดตรงอวัยวะเพศของน้องปลายฝนนั้น ทางการแพทย์ก็ระบุว่า น้องปลายฝน ไม่เคยถูกล่วงละเมิดทางเพศ แต่ลักษณะผิดปกติที่พบเห็นว่าเกิดขึ้นตรงอวัยวะเพศของเด็ก ก็มาจากการที่เด็กเสียชีวิตลงแล้วทำให้รูทวารในร่างกายเปิดออก ซึ่งเป็นลักษณะปกติของผู้ที่เสียชีวิตทั่วไป

ขณะที่ นางสาวมณีนุช แม่แท้ๆ ของน้องปลายฝน ก็บอกว่า ตนเองเป็นคนคอยเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนอยู่กับห้อง ส่วนนายสาครจะเป็นคนที่หาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว โดยนายสาครนั้นมีนิสัยที่ค่อนข้างเจ้าอารมณ์และชอบทำร้ายเมียกับลูก ยิ่งถ้าดื่มสุราเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งทำให้นายสาครมีอารมณ์ที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งทุกสิ่งที่นายสาครทำกับลูกสาวหรือน้องปลายฝนนั้น ตนก็เห็นตลอดไม่ว่าจะตี-เตะลูก จับลูกกระแทกกับพื้น กับถังน้ำ หรือจับหัวลูกโขกกับหม้อข้าว ซึ่งก็ได้พยายามเข้าไปห้ามทุกครั้งจนมีปากเสียงกันและตนเองก็จะถูกทำร้ายร่างกายไปด้วย โดยทั้งนี้หลังจากที่เกิดเหตุจนลูกสาวเสียชีวิตลงนั้น เมื่อทางตำรวจสอบปากคำในครั้งแรก ตนเองไม่กล้าพูดเพราะกลัวว่าเมื่อกลับมาถึงห้องพักก็จะถูกทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรงอีก

ด้าน น้องโบตั๋น อายุ 3 ขวบ พี่สาวของน้องปลายฝน บอกเล่ากับสื่อมวลชนว่า เคยถูกพ่อทำร้ายเช่นกัน โดยน้องโบตั๋นก็พูดตามประสาเด็กว่า "พ่อใช้ตีนถีบ" ก่อนจะไม่กล้าเล่าเหตุการณ์ต่อว่าถูกทำร้ายอย่างไร

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายสาคร ผู้ต้องหารายนี้ไปดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ขณะที่ตัวนายสาครเอง ก็พยายามที่จะให้ภรรยาติดต่อทางพ่อและแม่ของนายสาคร เพื่อหาทนายมาสู้คดี

สำหรับศพน้องปลายฝนนั้น ทางครอบครัวได้รับกลับมาจากสถาบันนิติเวชแล้ว พร้อมกับใบชันสูตรจากแพทย์ว่า สาเหตุที่ทำให้น้องปลายฝนเสียชีวิต ก็เนื่องจากมีเลือดออกในช่องท้อง ลำไส้เล็กเป็นแผลฉีกขาดออกจากกัน โดยทางแม่ของน้องปลายฝนได้นำศพน้องปลายฝนกลับไปสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดในจังหวัดศรีษะเกษต่อไป

ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายสาคร ขึ้นรถเพื่อกลับไปคุมขังที่โรงพัก และฝากขังยังศาลจังหวัดสมุทรสาครต่อไปนั้น นายสาคร ได้พูดทิ้งท้ายสั้นๆ ว่า "หากการที่ลูกตายเป็นเพราะพ่อ พ่อก็ขอโทษลูกด้วย..."

ขอบคุณข่าวจาก ข่าวสด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook