"โอปอล์" โวคบ "หมอโอ๊ค" ยังหวานอยู่ มีแพลนเที่ยวด้วยกันไม่หวั่นกระแสแอนตี้

หลังจากเปิดตัวคบกันได้พักใหญ่ๆ แล้ว สำหรับคู่รัก "โอปอล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ" และ "หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล" ที่หลาย ๆ คนก่อนหน้านี้คิดว่าทั้งคู่นั้นเป็นรักโปรโมท ซึ่งทั้งสองคนเคยออกมาแก้ข่าวว่าไม่เป็นความจริงนั้น ดูเหมือนว่าทั้งคู่ได้พิสูจน์ให้หลายๆ คนได้รู้แล้วเพราะเวลายิ่งผ่านไปความรักของทั้งคู่ก็ยิ่งเหนียวแน่นมากกว่าเดิม ถึงแม้ทั้งคู่งานรัดตัวจนแทบไม่มีเวลาให้กันแต่ก็ยังเทคแคร์กันอย่างดี แถมทั้งสองคนยังมีแพลนเที่ยวด้วยกันหลังสาว "โอปอล์" เสร็จแสดง "ลำซิ่งซิงเกอร์" อีกด้วย เมื่อได้เจอสาว "โอปอล์" ในงานซ้อมแสดง "ลำซิ่งซิงเกอร์" โดยสาว "โอปอล์" ได้ให้สัมภาษณ์ว่า "ปีใหม่นี้ไม่มีแพลนไปไหนเลย เพราะว่าติด "ลำซิ่งซิงเกอร์" ค่ะ มันจะพักแค่ประมาณสองวัน ก็คงนอนอยู่บ้านที่รามอินทรากับแม่ค่ะ แต่ปีนี้กรุงเทพฯรถน่าจะน้อยนะ ถ้าใครอยู่กรุงเทพฯได้ก็อยู่กันนะคะ"

กับหมอโอ๊คจะมีโอกาสเคาท์ดาวน์ไหม
"ก็น่าจะเจอแต่คงไม่รู้เรื่องเคาท์ดาวน์ น่าจะแพลนอยู่กับครอบครัวค่ะ(ยิ้ม)"

เตรียมของขวัญอะไรไหม
"ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรเลยค่ะ"

ตอนนี้ขอแค่เวลาอยู่ด้วยกันใช่ไหม
"ก็ส่วนใหญ่เราจะอยู่ "ลำซิ่งซิงเกอร์" แต่ว่าเขาจะนัดซ้อมเย็น ก็ยังมีเวลาทานข้าวเที่ยงกันนะ มันก็ไมได้เศร้าสลดอะไรขนาดนั้นค่ะ ยังได้อยู่ เขาก็ยังส่งข้าวส่งน้ำดูแลกันดีค่ะ"

เขาไม่น้อยใจเหรอเพราะไม่มีของขวัญ
"ไม่นะ เพราะว่าโตๆ กันแล้ว มันก็เลยไม่ได้แบบต้องให้ของขวัญในทุกๆ เทศกาล ว่าเอาเงินเก็บเพื่อชีวิตอนาคตกันดีกว่า เราก็เลยไม่ได้มีของขวัญค่ะ"

หลังจากปีใหม่มีแพลนไหม
"เราว่าต้นปีนี้เราทำ "โอปอล์ ออน สเตจ" มาหกเดือนใช่ไหมคะ พอหลังจาก "โอปอล์ ออน สเตจ" เราก็ทำ "ลำซิ่งซิงเกอร์" เลย ถ้าจบ "ลำซิ่งซิงเกอร์" เราก็มีแพลนเที่ยวยาวเหมือนกัน เราจะเที่ยวในเมืองไทยแต่ไปที่ไหนยังไม่รู้เหมือนกัน (ยิ้ม)"

จะหวานไหมเพราะอัพรูปตลอดเวลา
"ตอนแรกเราก็คิดอยู่ในใจสมมุติว่าอยู่กับพี่โอ๊คแล้วอัพรูปจะมีคนด่าไหม เราก็รู้สึกว่าอัพก็ด่าไม่อัพก็ด่าแล้วนี่มันชีวิตเรา เราอัพดีกว่า คือมันชีวิตเรา พอเราบอกว่าเราคบแล้ว ใครจะว่ายังไงก็เป็นเรื่องของเขาแล้วหละ เพราะเราถือว่าเราบอกแล้ว ทีนี้เราจะทำอะไรในชีวิตของผู้หญิงวัยสามสิบเราก็จะทำนะ ตราบใดที่มันไม่ได้ผิดศิลธรรมอะไร"

คบกันมากี่เดือนแล้ว
"ไม่ใช่หลักเดือนแล้วมั้งคะ เป็นปีแล้วค่ะ นานแล้วค่ะ ตั้งแต่ก่อนเป็นข่าวนานเหมือนกัน"

มีวางแพลนถึงอนาคตไว้ไหม
"มันก็มีคุยไว้เหมือนกัน แต่ว่าเราโตแล้วค่ะ อย่างเราเปิดร้านชานมด้วยกัน เราเปิดบริษัทด้วยกัน เราทำอะไรเพื่ออนาคตกันมาเป็นปีแล้วค่ะ ดังนั้นมันไมคบกันสั้นๆ คบกันเล่นๆ คบกันกินข้าวหรือซื้อของขวัญให้กันค่ะ"

เปิดบริษัทด้วยกันคือยังไง
"ก็มีเปิดบริษัทด้วยกันและก็ผลิตรายการโทรทัศน์ด้วยกัน และก็ทำโปรดังชั่นเฮ้าส์ด้วยกันมาเป็นปีแล้วค่ะ ชื่อบริษัทนางแมวป่านะคะ ทำอีเว้นท์ทำทุกสิ่งมาเป็นปีแล้ว และก็มีธุรกิจใด ๆ คิดๆ ตามกันมาอยู่ค่ะ"

ทำธุรกิจร่วมกันแบบนี้ไม่กลัวเขาโกงบ้างเหรอ
"ปอล์รู้จักพี่โอ๊คมานานมากแล้วจริงๆ ค่ะ นานแบบห้าหกปีแล้ว เรารู้จักกันดีพอที่จะรู้ว่าคนนี้ดีมากแค่ไหน ดังนั้นในการทำธุรกิจนี้ไม่กลัวค่ะ พี่โอ๊คน่าจะกลัวปอล์โกงมากกว่า ปอล์ไม่กลัวพี่โอ๊คเพราะสันดานปอล์จะโกงกว่านิดหนึ่ง แต่ว่าเขาน่าจะกลัว อยากให้เขากลัวแค่เขาก็ไม่กลัว ส่วนเราไม่ค่ะ เรารู้จักเขาดี"

วางแผนเปิดอะไรร่วมกัน
"วางแผนเปิดร้านชานมนะคะ ชื่อ "ชานมไข่มุกมงคล" ค่ะ เปิดที่โรงพยาบาลกรุงเทพตอนมกราฯ นี้ค่ะ ตอนแรกเราเปิดกาแฟมงคล แล้วพอมีพี่โอ๊คเลยกลายเป็นชานมมงคล เราดึงเขามาหุ้นกันค่ะ(ยิ้ม)"

ตอนแรกที่คบกันม่คนด่าเยอะมากแล้วตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
"เราว่าตอนแรกเราโดนด่าหนักมาก เราก็ตั้งหลักเพราะเราไม่รู้ เราคุยกับพี่นักข่าวที่สนิท ๆ ว่าทำยังไงดี เขาด่าปอล์ทำไม เราไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดจริง ๆ เราเลยนิ่งไปก่อน เราว่าตอนนี้คนก็ยังด่าอยู่ อีกสิบปีต่อให้เราคบกันคนก็ยังจะด่าอยู่ ซึ่งเราไม่สนจริงๆ เพราะว่าเราไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิดมาด่าเราทำไม แต่เราไมได้โกหก เราไม่เคยรับงานคู่ เราไม่รับงานคู่ เราแค่ใช้ชีวิตของเรา เจอคนที่เรารัก แค่นั้นเองค่ะ เคยมีคนบอกนะว่าเวลาจะพิสูจน์เอง แต่ปอล์รู้สึกว่าจะพิสูจน์อะไร พิสูจน์กับใคร มันเรื่องเรานะ ทำไมเราต้องพิสูจน์ให้ใครรู้ ดังนั้นบอกเลยว่าไม่สนจริงๆ มันจะมีทั้งคนเข้ามาด่าทั้งเข้ามาชมอะไรแบบนี้ เราเฉยค่ะ"

รู้สึกตอนนี้มีคนชมมากกว่าด่า
"เราไม่รู้จริง ๆ คนด่าอาจจะไม่แสดงตัว แต่ตอนแรกด่าเราจนเราแบบอะไรว๊า แต่ตอนนี้เฉยๆ แล้วค่ะ"