จับได้คาผ้าเหลือง เปิดปาก ไอ้แบงก์ ฆ่าโหดสาวพริตตี้

จับได้คาผ้าเหลือง เปิดปาก ไอ้แบงก์ ฆ่าโหดสาวพริตตี้

จับได้คาผ้าเหลือง เปิดปาก ไอ้แบงก์  ฆ่าโหดสาวพริตตี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบช.ภ.1 แถลง การจับกุมไอ้แบงค์ ฆ่าสาวพริตตี้ สารภาพ โกรธแค้น ถูกด่าแม่ และดื่มเหล้าจนขาดสติ คุมตัวทำแผน แล้ว พบมีหมายจับอีก 7 คดี

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ทางตำรวจ บก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้จับกุมตัว นายไพโรจน์ นันทตันติ อายุ 22 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ 4 /2556 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จากการฆ่าและเผา น.ส.อัจฉราณี รักเชื้อ อายุ 22 ปี อดีตพริตตี้ ได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ขณะกำลังจะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะจับกุม นายไพโรจน์ ได้บวชเป็นพระนั้น

ล่าสุด ทั้งคืนที่ผ่านมา ทาง ตร.ภ.1 ได้คุมตัวไว้ที่ บก.ภ.จว.นนทบุรี โดยดูแลอย่างหนาแน่น ห้ามไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องพบและทาง พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง ผกก.สภ.ปากเกร็ด เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ และเจ้าของคดี ได้กำลังสรุปรายงาน เพื่อแจ้งต่อผู้บังคับบัญชา ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ในวันนี้ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

ตร. นำไอ้แบงค์ขอมาศพสาวพริตตี้วันนี้

(8 ม.ค) เจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมคุมตัว นายไพโรจน์ หรือ แบงค์ นันทตันติ อายุ 22 ปี ผู้ต้องหา ก่อเหตุฆ่าโหดและเผา น.ส.อัจฉราณี รักเชื้อ อายุ 22 ปี พริตตี้ ซึ่งเป็นแฟนสาว ในคอนโดฯ ย่าน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่าน มาแถลงข่าวที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

ซึ่งภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัว นายไพโรจน์ ได้ ขณะสวมใส่ผ้าเหลืองของพระภิกษุ เตรียมที่จะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านทาง อ.แม่อาย ตะเข็บชายแดน จ.เชียงใหม่ - พม่า แล้ว ได้คุมตัวมาสอบ
สวนที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนจะส่งตัวต่อมายัง สภ.ปากเกร็ด และให้ผู้ต้องหาทำพิธีขอขมาผู้ตาย

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาสารภาพว่า วันเกิดเหตุได้ดื่มเหล้าเมาจนขาดสติ ประกอบกับถูกผู้ต้องหาด่าบุพการี ทำให้เกิดความโมโห จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าวขึ้น หลังจากนั้นได้เผาคอนโดฯ เพื่ออำพรางคดี ก่อนจะหนีไปบวชเพราะเกิดภาพหลอนจนอยู่ไม่ได้

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายไพโรจน์ มีหมายจับอีก 7 คดี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ครอบครองอาวุธปืน โดยคดีที่ดังที่สุด คือ ร่วมกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ยักยอกเงินของธนาคารกรุงไทย จำนวน 21 ล้านบาท เมื่อปี 2552 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook