"รักต้องห้าม" ครู "รักครั้งแรกของหนู"

"รักต้องห้าม" ครู "รักครั้งแรกของหนู"

"รักต้องห้าม" ครู "รักครั้งแรกของหนู"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรื่องจริงในสังคมกับคำว่า "รักต้องห้าม" ยกตัวอย่างข่าวครึกโครมที่เกิดขึ้นในจังหวัดลำปาง เมื่อครูกับลูกศิษย์ถูกจับได้ว่า มีความรักต่อกันแล้วถูกกีดกัน ฝ่ายชายถูกตั้งข้อหาอนาจารเด็ก ส่วนฝ่ายหญิงถูกผู้ปกครองสั่งให้ย้ายโรงเรียนสุดท้ายทั้งสองคน "พิสูจน์รักแท้" ด้วยการ "ฆ่าตัวตายทั้งคู่"

นี่คือตัวอย่างที่ตกเป็นข่าว แต่ในซอกหลืบสังคม "รักต้องห้าม" ยังมีอยู่ ทั้งนี้ทีมข่าว Sanook! News ขอหยิบเรื่องราวชีวิตจริงของเด็กสาวที่เธอบอกว่ารักนั้นออกแบบไม่ได้ แต่อีกหนึ่งสาวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ "คุณไม่หักห้ามใจ" หรือเปล่า??

คุณครูคือรักครั้งแรกของหนู

นางสาวเอ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ดังเล่าประสบการณ์เรื่อง "รักต้องห้าม" โดยเป็นเรื่องราวจากเพื่อนสนิทของเธอที่มีความรักกับครูในสมัยเรียนมัธยมปลาย ณ โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสงครามว่า เพื่อนเธอคนนี้ (ด.ญ.เมย์ นามสมมติ) ไม่เคยมีแฟน เป็นสาวแว่น เรียบร้อย กิริยามารยาทค่อนข้างดี มีพ่อแม่เป็นข้าราชการ มีฐานะ ที่บ้านไม่ค่อยให้ออกจากบ้าน ผิดกับพวกเธอที่จะแก่น ๆ มีแฟนกันตั้งแต่มัธยม (หัวเราะ) เวลาไปเที่ยวกันในกลุ่มจะไปเป็นคู่ ๆ บ้าง หรือเวลากลับบ้านก็แฟนก็จะไปส่งที่บ้าน แต่เมย์จะมีพ่อมารับ หรือถ้าเมย์ได้ออกมาเที่ยวกับเพื่อนบ้างก็จะอยู่โดดเดี่ยว เวลาเล่นเครื่องเล่นก็จะนั่งคนเดียว ไม่มีคู่นั่งด้วยเพราะที่เหลือต่างนั่งกับแฟนกันหมด

"แต่ไม่นานโรงเรียนก็มีครูคนใหม่ จะเรียกได้ว่าครูคนนี้ทำให้เมย์รู้จักความรักเลยก็ได้ เหตุการณ์มันเริ่มตรงที่ในชั่วโมงศิลปะซึ่งต้องย้ายห้องเรียน โดยปกติแล้วแล้วเมย์จะนั่งอยู่ตรงกลางห้อง แต่พวกหนูเริ่มสังเกตว่า เมย์จะไปนั่งอยู่ข้างหน้า แต่ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะนักเรียนบางคนก็มีที่เมื่อก่อนจากที่เคยนั่งข้างหลังก็ย้ายไปนั่งข้างหน้า เพราะครูคนใหม่อายุยังน้อย ที่สำคัญก็ค่อนข้างหล่อ พวกเด็กนักเรียนหญิงที่เกเรก็หันมาตั้งใจเรียน แต่ที่พวกหนูเริ่มผิดสังเกตเมย์ก็เพราะหลัง ๆ เมย์ไม่ค่อยมานั่งเล่นด้วยกันหลังเลิกเรียน พอสอบถามก็รู้ว่า ไปเรียนพิเศษกับครูที่มาใหม่โดยให้เหตุผลว่า จะสอบตรงเข้าคณะสถาปัตยกรรมซึ่งพวกหนูก็รู้สึกแปลกใจเพราะเมย์ค่อนข้างชัดเจนว่า อยากเป็นครูสอนสังคม" ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ดังเล่าด้วยตื่นเต้น

นางสาวเอ เล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้เห็นกับตาซึ่งเธอเน้นย้ำจำได้ดีว่า ช่วงนั้นจะมีการเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียน พวกเธอก็ต้องมาทำป้ายหาเสียงและวางแผนหลังเลิกเรียนซึ่งจะทำให้กลับบ้านค่อนข้างมืด แล้วช่วงเวลานั้นเผอิญเห็นครูสอนศิลปะกำลังขึ้นรถไปพร้อมกับเด็กหญิงเมย์ พวกเธอก็ตกใจว่า ทำไมเด็กเมย์ถึงไปขึ้นรถครูคนใหม่ แน่นอนว่าในมุมหนึ่งก็มีนักเรียนหญิงด้วยกันอิจฉาเมย์ที่สนิทกับครูศิลปะคนนี้เป็นพิเศษ(หัวเราะ)แต่อีกใจก็เป็นห่วงเพื่อนจึงขี่รถมอเตอร์ไซด์ตามไป สักพักรถของครูสอนศิลปะก็มาจอดบริเวณสวนสาธารณะประจำจังหวัด แล้วทั้งครูสอนศิลปะคนนั้นกับเมย์ก็มานั่งริมแม่น้ำแม่กลองแล้วก็จูบกัน แน่นอนว่า พวกเธอไม่ได้ไปห้ามปรามแต่อย่างใด เพียงแต่ตกใจแต่ก็เป็นสิ่งที่พอจะเข้าใจได้

"พวกหนูที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งมีอยู่ 4 คน ก็ตกลงกันว่่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร แต่ก็อยากคุยกับเมย์ในฐานะเพื่อนในกลุ่ม เพราะคนที่เห็นเหตุการณ์ว่าครูสอนศิลปะคนนี้อยู่สองต่อสองกับเมย์ค่อนข้างบ่อย หนูเลยเป็นคนไปคุยกับเมย์ เธอก็เล่าว่า พ่อแม่ยังไม่รู้เรื่องที่สวนสาธารณะ แต่พ่อแม่ไว้ใจให้อยู่กับครูศิลปะเพราะเคยบอกพ่อแม่ไปแล้วว่า อยากสอบเข้าคณะสถาปัตยกรรมซึ่งพ่อแม่ก็อยากให้เรียนด้านนี้มากกว่าเป็นครู พ่อแม่เลยเห็นดีเห็นงาม ให้เรียนพิเศษตอนเย็นแล้วครูศิลปะก็จะมาส่งที่บ้านตรงเวลาเสมอ เมย์บอกว่าครูศิลปะเป็นคนสุภาพบุรุษมาก แล้วเมย์ก็ชอบผู้ใหญ่กว่า เหมือนรู้สึกมีทั้งพี่ชายเพื่อนและคนที่เข้าใจก็เลยรู้สึกอยากใกล้ชิดอยู่กับครู ที่มาเริ่มสนิทก็ตอนขอครูเรียนพิเศษศิลปะเพิ่มเติมเพราะคะแนนไม่ดีด้วย" ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ดังกล่าวอย่างมีอารมณ์ร่วม

รักครูก็ยืนยงและบริสุทธิ์

ท้ายที่สุด นางสาวเอ เล่าให้ฟังเกี่ยวกับ "รักต้องห้าม" ของคู่รัก "ครูนักเรียน" คู่นี้ว่า หลังจากวันนั้นพวกเธอก็บอกเด็กหญิงเมย์ไม่ควรอยู่กันสองต่อสองหรือแตะเนื้อต้องตัวกันในที่สาธารณะเพราะอย่างน้อยพวกเธอก็เห็นเหตุการณ์แล้ว ไม่ควรให้คนที่ไม่รู้จักเห็นเหตุการณ์ไปด้วยอาจทำให้เสียชื่อเสียงทั้งครูสอนศิลปะและเด็กหญิงเมย์เอง ทั้งสองคนจึงเป็นครูและนักเรียนในโรงเรียน แต่ก็เป็นแฟนกันบ้างในช่วงเวลาหลังเลิกเรียนและช่วงไปส่งเด็กหญิงเมย์กลับบ้าน แล้วปัจจุบันทั้งคู่ก็ยังคบหาดูใจกันอยู่เป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว ฝ่ายชายก็เลิกเป็นครูไปประกอบอาชีพฝ่ายศิลป์ของสถานีโทรทัศน์ ส่วนฝ่ายหญิงกำลังจะจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง

อีกหนึ่งความรักที่ "ต้องห้าม" สังคมรู้ดูไม่ดี"จูบแรกมาจากครูที่รัก"

นี่คือเรื่องจริง ประสบการณ์จริงจาก เด็กหญิงตาล (นามสมมติ) ปัจจุบันเป็นนักศึกษาในจังหวัดกาฬสินธุ์ เธอยอมเปิดเผยข้อมูลเพื่อต้องการให้สังคมรับรู้และเข้าใจ "อีกมุมหนึ่ง" ของ "รักต้องห้ามระหว่างครูกับนักเรียน" ว่า ปกติแล้วนักเรียนจะพยายามตีสนิทกับครูเพื่อหวังว่า ครูจะให้คะแนนหรือยอมปล่อยเกรดเพื่อได้ผ่านตามเกณฑ์ของโรงเรียน บรรดานักเรียนที่ไม่มีความสามารถในวิชานั้น ๆ มากพอก็จะเข้าไปตีสนิทกับครูด้วยการขอช่วยครูทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือแล้วแต่ว่าครูอยากจะให้นักเรียนทำอะไรบ้าง ซึ่งเธอเองก็อ่อนวิชาฟิสิกส์จึงรวมกับเพื่อน 2-3คน เข้าไปตีสนิทกับครูวิชานั้น

"พอไปช่วยทำกิจกรรม ช่วยเหลือครูก็รู้สึกสนิมกับครูมากขึ้น แล้วก็รู้สึกว่า ครูคนนี้ให้คะแนนหนูค่อนข้างเยอะเพราะหนูทำข้อสอบไม่ได้เลย ทำให้หนูอยากช่วยเหลือครูมากขึ้นเผื่อครูจะให้เกรดวิชานี้ 4 ก็เลยถามครูอยู่เสมอว่า อยากให้ช่วยอะไรบ้าง จนครูขอจูบเธอ ซึ่งหนูก็ยินดีนะ พวกเพื่อนหนูก็มีจูบแฟนตามหลังโรงเรียน เห็นกันเป็นปกติ หนูก็เลยยอมจูบ แม้จะเป็นจูบแรกแต่หนูรู้สึกดีมาก ไม่รู้สึกแปลกหรือเขินอาย แต่พอจูบได้สักพักครูก็ผลักหนูออกแล้วก็เดินออกจากห้องพักครูไป"

"หลังจากนั้นหนูกับครูก็จูบกันเรื่อย ๆ ไม่นานก็มีเพศสัมพันธ์กัน โดยส่วนตัวหนูก็ไม่ถึงขนาดคิดจริงจังกับครูนะคะ แต่พออยู่กับครูสองต่อสองแล้วรู้สึกมีความสุข อยากมีเพศสัมพันธ์กับครูคนนี้ ใครมาจีบหนูก็ไม่สนใจเลยค่ะ มาจีบเยอะด้วยนะเพราะหนูก็หน้าตาไม่ขี้เหล่นะคะ เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย แต่หนูก็รู้สึกอยากจูบครูคนนี้คนเดียว เคยลองคยคนอื่นบ้างแต่ก็ไม่รูั้สึกอะไรเลย อาจเพราะหัวใจหนูให้ครูคนนี้หมดแล้ว"

หนูยอมเป็นน้อยเพราะรักครู

"ภายหลังหนูมารู้ว่า ครูมีภรรยาและมีลูกแล้ว เพื่อนที่สนิทซึ่งรู้เรื่องนี้ก็มาบอก แต่หนูก็ไม่เชื่อเพราะครูบอกว่ายังไม่มี จนหนูมาเห็นด้วยตาตัวเอง ตอนเห็นก็รู้สึกเจ็บปวดนะคะ แต่ยังไม่ได้ร้องไห้โดยทันที เพราะอีกใจหนึ่งหนูก็รู้สถานะของหนูเองว่า คงจะคบกับครูแบบสามีภรรยาไม่ได้ แต่พอกลับมาถึงบ้านหนูก็นั่งอยู่ในห้อง แล้วอยู่ ๆ ก็ร้องไห้ออกมา อกหักเป็นอย่างไรหนูรู้วันนี้เลยค่ะ รู้สึกอยากฆ่าตัวตาย โดดเดี่ยวมาก หนูก็อยู่กับพ่อแก่แม่แก่ พ่อกับแม่ก็อยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่รู้จะปรึกษาหรือระบายให้ใครฟัง กลัวเพื่อนนินทาด้วยค่ะ เพราะอยู่กับครูก็พยายามอยู่ที่ลับตาคนตลอด ส่วนใหญ่ก็อยู่โรงแรม แม้จะเป็นห้องเล็ก ๆ แต่ก็เป็นห้องที่หนูมีความสุขมาก พอหนูรู้สึกว่า จะไม่มีความสุขแบบนั้นอีกแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้ แล้วหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้

"หลังจากนั้นหนูก็ไม่ไปหาครูในที่สองต่อสองอีกแล้ว ไม่นานครูก็มาคุยกับหนู ถามว่า เกิดอะไรขึ้น หนูก็เล่าว่า เห็นครูอยู่กับครอบครัว ซึ่งครูก็ยอมรับแต่โดยดีทำให้หนูก็เกิดอาการงอลน่ะค่ะ ครูก็พูดว่า น่ารักจังแล้วก็จูบหนูอีกครั้งซึ่งหนูเหมือนจะขัดขืนแต่ร่างกายมันไม่ตอบสนองน่ะค่ะ หลังจากนั้นทั้งหนูและครูก็กลับมาสู่จุดเดิม เพียงแต่มีความจริงที่ว่า ครูมีภรรยาแล้วและครูก็มีลูกสาวซึ่งอายุไล่เลี่ยกับหนู แต่ดีหน่อยตรงที่ทั้งลูกสาวและภรรยาของครูที่หนูรักอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับที่หนูเรียน"

"หนูเป็นเมียน้อยค่ะ แล้วก็เข้าใจว่า ทำไมสังคมไทยถึงมีเมียน้อยมากขึ้น เมียน้อยไม่ใช่แค่เรื่องการให้เงินและการอุปถัมภ์เพียงอย่างเดียว แต่แน่นอนว่า ครูที่หนูรักก็โอนเงินให้หนูสม่ำเสมอ ส่งค่าเล่าเรียน ให้คำมั่นว่าจะส่งจนจบมหาวิทยาลัยซึ่งหนูก็รู้สึกดีขึ้นไปอีก ตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยแล้วก็เจอกับครูอาทิตย์ล่ะครั้ง ครูก็เปิดหอพักให้หนูเพื่อครูจะได้มาหาหนูโดยสะดวกด้วย"

ถามสังคมกลับ ออกแบบความรักได้หรือไม่

"หนูไม่ได้อยากให้ชีวิตรักหนูเป็นแบบนี้หรอกค่ะ ไม่คาดหวังและไม่คิดเลยว่ามันจะมาถึงจุดนี้ได้ แต่มันก็มาถึงจุดนี้แล้ว และก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายระหว่างครูกับหนูจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้สถานะระหว่างครูกับนักเรียนระหว่างหนูกับครูคนนั้นก็จบแล้ว ครูเขาก็เป็นครู ส่วนหนูคือนักศึกษา หนูก็มองว่า เขาเป็นแฟนคนหนึ่ง ไม่ใช่ครูของหนู หนูอยากย้อนถามสังคมที่ตีตราว่านี้คือ "รักต้องห้าม" ว่า ไม่มีใครเลือกทีี่จะรักหรือไม่รักได้ พวกคุณสามารถเลือกรักหรือไม่รักใครได้หรือค่ะ มันเป็นความรู้สึก ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ใครสามารถออกแบบความรักได้ล่ะค่ะ เมื่อมันเป็นแบบนี้ทั้งครูและหนูมีความสุข ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป แต่หนูเชื่อว่า ถ้าภรรยาของเขารู้หนูก็ทำใจได้ค่ะ แต่ตราบใดที่ภรรยาของเขายังไม่รู้ ก็เป็นเมียน้อยนั้นสำหรับหนูมีความสุขมากกว่าได้เป็นเมียหลวงค่ะ"

"หนูเข้าใจว่า ทุกอาชีพย่อมมีจรรยาบรรณ อาชีพครูก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่หนูรู้สึกว่า จรรยาบรรณบางอย่างทำให้การใช้ชีวิตต้องลำบากหรือเกิดความทุกข์ไปด้วยล่ะคะ หนูรู้แต่ว่า หนูคงอยู่ได้ไม่นาน การมีความสุขกับความรักเป็นสิ่งที่หนูควรได้รับ ใช่หรือไม่คะ"

"รักต้องห้าม" นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงทั้งในสังคมโลกและสังคมไทย...ความรักเป็นสิ่งสวยงามแต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง จรรยาบรรณและจริยธรรมจะทำให้โลกดำเนินไปด้วยความสมบูรณ์และงดงาม โลกมีความเปลี่ยนแปลงเสมอ กฎเกณฑ์บางอย่างที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นมนุษย์ย่อมถูกปรับเปลี่ยน

โอกาสหน้าจะพาผู้อ่านที่เคารพไปเปิดประสบการณ์จริง ขั้นตอนสู่จริงกว่าจะมาเป็น "เซ็กซ์แลกเกรด" จะเป็นอย่างไรโปรดอย่ารอคอย ขอให้กวาดสายตาโดยไม่หยุดหายใจดีกว่า...

 

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook