"โสภณ เบอร์ 4" เสนอแผนแก้ปัญหาจราจรใจกลางเมือง

"โสภณ เบอร์ 4" เสนอแผนแก้ปัญหาจราจรใจกลางเมือง

"โสภณ เบอร์ 4" เสนอแผนแก้ปัญหาจราจรใจกลางเมือง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โสภณ เบอร์ 4 ผู้สมัครชิงผู้ว่าฯ กทม. เสนอแผนแก้ไขปัญหาปัญหาจราจรใจกลางเมืองหลวง ทำระบบขนส่งมวลขระดับย่อมในพื้นที่ปิดล้อม ยานนาวา สาทร เน้นสร้างกรุงเทพฯ เป็นเมืองจักรยาน พัฒนาที่ดินใจกลางเมืองเพื่อประโยชน์ของประชาชน

วันนี้ (28 ม.ค.) นายโสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 4 เดินทางไปหาเสียงบริเวณสะพานลอยเชื่อมสถานีช่องนนทรีของรถไฟฟ้าเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบพระชนมพรรษา สาย 2 (BTS) กับสถานีสาทร ของรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) ซึ่งได้แจกเอกสารแนะนำผู้สมัคร รวมทั้งการปราศรัยย่อย
  

สำหรับประเด็นสำคัญในการนำเสนอในวันนี้ก็คือ การส่งเสริมการสร้างรถไฟฟ้ามวลเบา บริเวณถนนเจริญกรุง (ถนนตก) ถนนจันทน์ ถนนเซ็นต์หลุยส์ ถนนนราธิวาส ถนนนางลิ้นจี่ ถนนงามดูพลี ออกถนนพระรามที่ 4 ซึ่งเป็นการเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าหลักสาทร สุรศักดิ์ และสถานีลุมพินีของรถไฟฟ้ามหานครสายเฉลิมรัชมงคล (MRT)


เมื่อสามารถก่อสร้างได้สำเร็จ จะเป็นการทะลวงพื้นที่ปิดล้อม และสร้างโอกาสในการพัฒนาที่ดินใจกลางเมืองซึ่งถือเป็นการฟื้นนครหรือการพัฒนาพื้นที่ใจกลางเมืองขึ้นใหม่ (Redevelopment) ทำให้มีโอกาสการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนมากขึ้น โดยในปัจจุบันที่มีเส้นทางรถไฟฟ้าจำกัด ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองกระจุกตัว  ทำให้ราคาแพงมาก โดยราคาห้องชุดที่แพงที่สุดจากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส สูงถึง 340,000 บาทต่อตารางเมตร หรือเท่ากับต้องนำธนบัตรใบละ 1,000 บาทปูถึง 4 ชั้น


การพัฒนารถไฟฟ้ามวลเบาเช่นนี้ ยังสามารถดำเนินการในพื้นที่อื่นได้อีก เช่น ประดิพัทธ์-ซอยอารี ประดิพัทธ์-วิภาวดีรังสิต, อินทามระ-ห้วยขวาง, พระรามที่ 1-บรรทัดทอง-พระรามที่1, คลองเตย-พระรามที่ 4-พระโขนง ฯลฯ ซึ่งจะทำให้เปิดทำเลใหม่ๆ ในการพัฒนาเมือง  นอกจากนั้นยังควรสร้างรถไฟฟ้าแบบ BTS บนเกาะกลางถนนของถนนอีกหลายสายในเขตกรุงเทพมหานคร เช่น ถนนลาดพร้าว ถนนสามเสน และอื่นๆ เป็นต้น


นายโสภณกล่าวให้เห็นถึงความจำเป็นและความเป็นไปได้ในการยกระดับรถ BRT ให้เป็นรถไฟฟ้ามวลเบา หรือกระทั่งรถไฟฟ้าทั่วไปเช่น BTS เพราะตลอดแนวถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และถนนพระรามที่ 3 มีคลองอยู่ตรงกลาง สามารถนำมาพัฒนาเป็นรางรถไฟฟ้าโดยไม่ต้องเวนคืน หรือเวนคืนแต่น้อยในบางบริเวณเท่านั้น


"ระบบรถ BRT เป็นเพียงการบริการชั่วคราวที่ไม่ยั่งยืน แม้จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนบ้าง ก็เฉพาะในเวลาเร่งด่วน แต่บางครั้งก็ไม่อาจใช้งานได้ เพราะติดขัดการจราจรในช่วงทางแยก ทางเชื่อมเช่นกัน  ยิ่งกว่านั้นยังมีผลเสียที่ทำให้ช่องทางการจราจรหายไปรวม 2 ช่องทาง ในขณะที่คลองไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์เท่าที่ควร  แนวคิดในการขยายเส้นทางไปในพื้นที่อื่น ย่อมจะยิ่งสร้างปัญหาเพิ่มเติม  จากประสบการณ์การเป็นที่ปรึกษาในโครงการของกระทรวงการคลัง อินโดนีเซีย ธนาคารโลกและหน่วยงานอื่นในกรุงจาการ์ตา ซึ่งมีระบบรถ BRT มาตั้งแต่ พ.ศ. 2547 พบว่า ระบบนี้ไม่อาจแก้ไขปัญหาการจราจรได้จริงและด้วยสภาพการจราจรในเขตใจกลางเมืองถนนสีลม สาทร นราธิวาสราชนครินทร์ และพระรามที่ 4" นายโสภณกล่าวและว่า หากกรุงเทพมหานครจัดทำระบบจักรยานให้เช่าขี่ไปทำงาน และส่งเสริมให้ประชาชนในเขตใจกลางเมืองทั้งหลายขี่รถจักรยานให้เช่าเป็นกลุ่มแรก ก็จะทำให้เมืองสะอาดขึ้นทันที
           

"โดยในทางปฏิบัติจัดให้มีจุดเช่า/คืนจักรยาน 1,000 จุด  แต่ละจุดมีจักรยานให้เช่า 40 คัน รวม 40,000 คัน  หากคันหนึ่งมีราคา 4,000 บาท ก็เป็นเงินเพียง 160 ล้านบาท  ค่าสถานที่และจัดการอีก 1 เท่าตัว  โครงการนี้ก็สำเร็จได้ด้วยเงินเพียงไม่เกิน 400 ล้านบาท  ค่าเช่าจักรยานในแต่ละวัน อาจเป็นเงินเพียง 20 บาท โดยมีกำไรสุทธิ 20% หรือเพียง 4 บาท  เมื่อโครงการอยู่ตัวแล้วในแต่ละวันอาจมีผู้เช่า 30% ของรถทั้งหมด คือมีผู้เช่า 12,000 คันจากทั้งหมด 40,000 คัน ในปีหนึ่งก็จะมีรายได้สุทธิ  17.52 ล้านบาท หรือมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 4.4% ซึ่งแม้จะไม่สูงนัก แต่ก็ไม่ขาดทุน" ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook