เว็บกต.แจงปมพระวิหารแพร่หนังสือ 50 ปี

เว็บกต.แจงปมพระวิหารแพร่หนังสือ 50 ปี

เว็บกต.แจงปมพระวิหารแพร่หนังสือ 50 ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ ได้เผยแพร่ หนังสือ 50 ปี 50 ประเด็นถามตอบ กรณีปราสาทพระวิหาร โดยเป็นการชี้ว่าที่ผ่านมา ในปี 2505 ศาลโลกตัดสินคดีดังกล่าวว่าอย่างไร และไทยปฏิบัติตามอย่างไร พร้อมทั้งชี้แจงว่าในครั้งนั้นศาลโลกได้ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา นอกจากนี้ ไทยและกัมพูชา ยังไม่สามารถหยิบยกกรณีดังกล่าวขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้ เพราะเลยกำหนดเวลา 10 ปี ในการยื่นขอให้ศาลโลกแก้ไขคำตัดสินแล้ว แต่การขอให้ตีความคำวินิจฉัยสามารถทำเมื่อไหร่ก็ได้นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงถึงประเด็นที่มีการนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลโลกอีกครั้ง และระบุด้วยว่า รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ได้ต่อสู้ในการที่กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยขอให้เหลือเฉพาะเพียงตัวปราสาท อย่างไรก็ตาม มีการระบุด้วยว่าไทยไม่ควรถอนตัวออกจากอนุสัญญามรดกโลก เพราะถือเป็นการเปิดโอกาสให้เรามีสิทธิ์คัดค้าน จากนั้นได้ชี้แจงเรื่องกระบวนการสู้คดีว่าได้ทำอย่างไรบ้าง รวมถึงชี้แจงว่าไทยต้องปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลโลก เพราะมิเช่นนั้นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อาจจะมีมาตรการอื่นตามมาในหนังสือยังได้คาดการณ์แนวทางคำตัดสินของศาลโลกเป็น 4 แนวคือ (1) ศาลโลกตัดสินว่า กัมพูชาไม่มีอำนาจฟ้องและศาลโลกไม่มีอำนาจพิจารณา พร้อมทั้งจำหน่ายคดี (2) ศาลโลกรับตีความคำพิพากษา โดยกำหนดขอบเขต พื้นที่ปราสาทพระวิหารสอดคล้องกับแนวทางของไทย กล่าวคือ ขอบเขตพื้นที่ปราสาทฯ เป็นไปตามเส้นมติคณะรัฐมนตรีปี 2505 (3) ศาลโลกรับตีความคำพิพากษา โดยกำหนดขอบเขต พื้นที่ปราสาทพระวิหารสอดคล้องกับแนวทางของกัมพูชา กล่าวคือ ขอบเขตพื้นที่ปราสาทฯ เป็นไปตามเส้นแผนที่ ภาคผนวก 1 (แผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 ระวางดงรัก) (4) ศาลโลกรับตีความคำพิพากษา โดยกำหนดขอบเขตพื้นที่ปราสาทพระวิหารตามแนวทางอื่นที่ศาลโลกเห็นว่าสมควร พร้อมทั้งระบุว่าไทยต้องทำตามคำพิพากษา แม้ศาลโลกจะไม่สามารถมีคำสั่งให้ปฏิบัติตาม แต่ไทยหรือกัมพูชา อาจะมีคำร้องขอให้ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ออกมาตรการใดๆ ที่เห็นสมควรและไม่ขัดกฎบัตรสหประชาชาติ เพื่อบังคับคดีได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook