ประชัน"ขุนพล"องอาจ-ภูมิธรรม วางกลยุทธสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม.

ประชัน"ขุนพล"องอาจ-ภูมิธรรม วางกลยุทธสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม.

ประชัน"ขุนพล"องอาจ-ภูมิธรรม วางกลยุทธสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การแข่งขันชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ผ่านโค้งแรกมาอย่างดุเดือด ผู้สมัครต่างเดินสายหาเสียงกันเต็มที่

แม้ สถานการณ์ล่าสุด พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย จะเป็นต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ อยู่นิดหน่อย แต่แชมป์เก่าก็สู้ยิบตา

ในส่วนยุทธศาสตร์การต่อสู้ของ 2 พรรคใหญ่ จำเป็นต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างหรือไม่ เพื่อให้ถึงเป้าหมายชัยชนะ





องอาจ คล้ามไพบูลย์

ผอ.เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. พรรคประชาธิปัตย์



ยุทธศาสตร์หาเสียงโค้งสองไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมาก ยังเน้นการนำเสนอสิ่งที่ทำมาตลอด 4 ปี ทั้งมาตรการเร่งด่วน 10 ด้าน และนโยบายหลัก 6 ด้าน ถือเป็น 16 งานที่ต้องทำเมื่อเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม.



รวมทั้งให้ผู้สมัครออกไปแสดงวิสัยทัศน์พบปะพี่น้องกลุ่มต่างๆ และพยายามชี้ให้เห็นความตั้งใจจริงของผู้สมัครว่าพูดจริงทำจริง เป็นของจริง มีความรู้ความสามารถรอบด้าน สามารถทำงานได้ต่อไปในอีก 4 ปีข้างหน้า



ในส่วนนโยบายก็ไม่ต้องปรับ เพราะเป็นนโยบายจากประชาชน และจากที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ทำงานมา 4 ปี ถือเป็นนโยบายที่ทำได้จริง ไม่เพ้อฝัน อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งเราคำนึงถึงงบประมาณ ที่จะใช้ด้วย



เช่นเดียวกับตัวผู้สมัครก็คงไม่ต้องปรับ เราเน้นความเป็นตัวตนที่แท้จริง ของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์อยู่แล้ว ส่วนจุดอ่อนคงไม่ต้องพูดถึงเพราะฝ่ายตรงข้ามก็ด่าอยู่แล้ว เรามีหน้าที่บอกจุดดีมากกว่า



แต่ส่วนที่จะเพิ่มเติมเข้ามา คือแผนการและกำลังของพรรค ไม่ว่าส.ส.ภาคกลาง เหนือ อีสาน และใต้ ก็จะระดมกำลังกันเข้ามาช่วยในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับส.ส.กทม. ส.ก. และส.ข. โดยใช้วิธีเจาะพื้นที่ทุกตารางนิ้วทั่วกทม.



จากการลงพื้นที่พบว่าเสียงสะท้อนค่อนข้างดี อาจมีคำถามบ้างบางเรื่องแต่ไม่มาก เพราะผู้สมัครของเรามีโอกาสออกสื่ออธิบายจนประชาชนเข้าใจและเกิดความมั่นใจ



บางพื้นที่ที่เราไม่มี ส.ส. ส.ก. ส.ข. จะระดมบุคลากรของพรรค ทั้งสมาชิก สาขาพรรค รวมทั้งส.ส. เช่น กรณีเขตตะวันออกหรือเหนือของกทม. จะมีส.ส.เหนือและใต้ไปช่วย



จากนี้ไปส.ส.พรรคจะลงพื้นที่มาก ขึ้น ช่วยกันทำงานทุกรูปแบบเพื่อเข้าถึงประชาชน อธิบายปัญหาต่างๆ ให้มากขึ้น รวมทั้งจัดปราศรัยใหญ่และปราศรัยย่อยในพื้นที่ต่างๆ ด้วย



สำหรับ การหาเสียงผ่านโซเชี่ยลมีเดียถือว่าได้ผล คนจำนวนมากในกทม.ติดต่อสื่อสารกันทางนี้ คนกลุ่มนี้จึงได้รับข้อมูลข่าวสารจากเราเต็มที่ และข้อมูลข่าวสารที่เสนอไปก็เป็นข้อมูลที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนในเวลาปกติ



เช่น ผลงานที่ประสบความสำเร็จในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา และสิ่งที่เราจะทำต่อไปใน 4 ปีข้างหน้า เชื่อว่าถ้าเขาได้รับข้อมูลจะสนับสนุนม.ร.ว.สุขุมพันธุ์



ส่วนผลโพลที่ระบุว่าผู้สมัครของเราเป็นฝ่ายตามนั้น พรรคไม่มีการทำโพล แต่จะดูจากสำนักต่างๆ ที่รายงานเข้ามา ซึ่งต้องติดตามว่ายุทธศาสตร์ที่ออกมาจะทำให้ผลสำรวจช่วงโค้งสอง กลับมานำคู่แข่งได้หรือไม่



แต่เชื่อว่าเรามาถูกทางแล้ว ทั้งนโยบายที่ชัดเจนไม่เพ้อฝัน ผู้สมัครก็เป็นคนสร้างงานไม่สร้างภาพ ในส่วนของพรรคก็รวมพลังและตั้งใจสนับสนุนผู้สมัคร ทุกคนรับรู้รับทราบเหมือนกันหมด จึงเดินไปแนวทางเดียวกัน



การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่กังวลเราทำเลือกตั้งมาเยอะ แต่หนักใจที่พรรครัฐบาลระดมสรรพกำลังเต็มที่ โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในรัฐบาล แสดงความมั่นอกมั่นใจมากถึงขนาดบอกส่งเสาไฟฟ้าลงก็ได้



ล่าสุดยังสไกป์มาที่คนเสื้อแดงบอกว่าต้องการยึดกทม.ให้ได้แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงหลังจากยึดรัฐบาลได้แล้ว ตรงนี้ทำให้เราหนักใจ



หากเป็นการหาเสียงที่ตรงไปตรงมา เราจะไม่หนักใจเลย แต่คำประกาศหลายครั้งของพ.ต.ท.ทักษิณว่าแพ้ไม่ได้ มั่นใจชัยชนะจะยึดกทม.แบบเบ็ดเสร็จ อาจทำให้ดำเนินการอะไรบางอย่าง เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อคะแนนนิยมของเรา



ส่วนปัญหาการใช้อำนาจรัฐนั้นตอนนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน อาจมีรายงานเข้ามาบ้างเกี่ยวกับตำรวจในบางพื้นที่ เพราะพล.ต.อ.พงศพัศเป็นตำรวจ อาจมีความผูกพันกัน แต่ยังไม่ใช่จุดที่เราหนักใจ



เราเพียงแต่ดูว่ามีการช่วยเหลือกันเป็นพิเศษทำอะไรเกินอำนาจหน้าที่ หรือใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ ถ้าถึงจุดที่ใช้อำนาจไม่ถูกต้อง คงต้องมีมาตรการดำเนินการบางอย่างออกมา





ภูมิธรรม เวชยชัย

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย

ผอ.ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.



ลงพื้ที่หาเสียงช่วงโค้งแรก พรรคนำเสนอยุทธศาสตร์ 8 เรื่องหลักในกรอบแนวคิด "ไร้รอยต่อ" ในการทำงานร่วมกับรัฐบาล



เน้นทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน โดยใช้ทรัพยากรของพรรคที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์กับคนกทม.มากที่สุด โดยเฉพาะการประสานนโยบายระหว่างกทม.กับรัฐบาล ให้เห็นว่ากทม.สามารถสนับสนุนโครงการของรัฐบาลให้เห็นผลได้รวดเร็วและไม่ สะดุด



และเผยบทบาทของผู้ว่าฯกทม.ว่า ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้



ซึ่ง 8 เรื่องหลักที่นำเสนอไปแล้ว อาทิ การแก้ปัญหาอาชญากรรม ขจัดยาเสพติด, การแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน, การแก้ปัญหาน้ำท่วม, การวางโครงสร้างจราจร ฯลฯ



จากนี้ไปเมื่อเข้าสู่การหาเสียงที่เข้มข้นขึ้นจะนำเสนอนโยบายใหญ่ โดยเราจะจัด อีเวนต์นำเสนอให้ประชาชนรับทราบต่อไปเป็นระยะ



พรรคยังไม่ได้ประเมินยุทธศาสตร์และตัวผู้สมัครว่ามีจุดอ่อนจุดแข็งที่ต้องปรับ ปรุงอะไร ยังไม่ได้มองถึงตรงนั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ ให้เขาตอบรับในสิ่งที่เราเสนอก่อน



จากการประเมินในช่วงลงพื้นที่พบว่า คนส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยน แปลงในกทม.บ้าง จึงอยากขอโอกาสนี้จากคนกรุงให้กับพล.ต.อ.พงศพัศ เพื่อให้คนกรุงเทพฯได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ



กับพรรคประชาธิปัตย์เราไม่ได้ประเมิน แต่ประเมินตัวเราเองเป็นหลัก จึงไม่มีหมัดเด็ดอะไรในโค้งสุดท้ายที่จะไปล้มเขา มีแต่ความจริงใจที่จะทำงาน



ตอนนี้จึงเป็นเรื่องนำเสนอนโยบายล้วนๆ ไม่ได้คิดหรือใส่ใจว่าอะไรคือจุดแข็งที่จะไปโค่นคนเก่า เพราะยุทธศาสตร์ใหญ่ของเราคือ กทม.กับรัฐบาลต้องทำงานเสริมกัน จากนั้นจะทำงานกระจายตัวเพื่อตอบรับความต้องการคนกรุง



เพราะแต่ละพื้นที่ของกทม. ประชาชนมีความต้องการไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะใช้สิ่งที่พรรคมีคือส.ส.และสมาชิกไปช่วยชี้แจงว่า เราสามารถทำได้จริงอย่างที่หาเสียง



คู่ขนานไปกับตัว พล.ต.อ.พงศพัศที่แม้จะเป็นหน้าใหม่ แต่ลงพื้นที่มาระยะหนึ่ง สามารถเข้าถึงทุกปัญหา มีแนวคิดที่จะทำงานเพื่อคนกรุงเทพฯ ซึ่งจะต้องเสนอให้ประชาชนได้เห็นจุดนี้ด้วย



ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำ 2 เรื่องใหญ่ คือ 1.การบริหารจัดการน้ำ ถ้าต้นน้ำกลางน้ำทำมาดีแล้ว แต่กทม.ทำงานไม่สอดคล้องหรือไม่ตอบสนอง จะทำให้การแก้ปัญหาสะดุด



2.โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 3 สาย คือ กรุงเทพฯ-หัวหิน, กรุงเทพฯ-พิษณุโลก และกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ทั้งยังปรับระบบโลจิสติกส์และการขนส่งเพื่อแก้ปัญหาจราจรทั้งระบบในกรุงเทพฯ ด้วย



ดังนั้นผู้ที่จะมาช่วยงานก็ควรตอบสนองการทำงานกับรัฐบาลได้ด้วย



สำหรับผลโพลที่ระบุว่าผู้สมัครของพรรคมีคะแนนดีขึ้นเรื่อยๆ นั้น ไม่ได้กดดันการทำงานของเรา อย่างที่บอกว่าจะเน้นเข้าหาประชาชนเพื่อชี้แจงนโยบายไปพร้อมๆ กับการเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้เขามีตัวเลือกมากที่สุด



ส่วนจะตรงกับโพลพรรคหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ พรรคยังไม่ได้เริ่มทำโพล เนื่องจากเพิ่งลงพื้นที่หาเสียงได้ไม่กี่วัน ต้องรอช่วงใกล้โค้งสุดท้าย ซึ่งเราก็ต้องการให้สุดท้ายเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น



ความ มั่นใจนั้น เวลาทำงานต้องมั่นใจว่าจะเดินหน้าชี้แจงสิ่งที่เราทำให้ประชาชนมากที่สุด ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับประชาชนจะให้โอกาสพล.ต.อ.พงศพัศ และพรรคเพื่อไทยมากน้อยแค่ไหน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook