นายกฯ บอก ไม่รู้ ทักษิณ ทาบ ชวลิต ดูความมั่นคง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธไม่ทราบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีการทาบทาม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ มาช่วยดูแลงานฝ่ายความมั่นคง ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีแนวทางว่าจะปรับคณะทำงาน หรือ เสริมทัพแต่อย่างใด แต่ต้องมีการบูรณาการในการทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ได้มองว่า พล.อ.ชวลิต เป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์ ในการทำงานด้านความมั่นคง และมีความน่าเชื่อถือ โดยหากจะปรับต้องคำนึงถึงจังหวะและความเหมาะสม โดยจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า กรณีการทุจริตสร้างโรงพักนั้น ไม่มีการกลั่นแกล้ง พรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างใด โดยให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ซึ่งปัญหาดังกล่าวเชื่อ จะไม่กระทบต่อการให้บริการประชาชน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่า กรณีการจัดทำโครงการสร้างโรงพักนั้น เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย ซึ่งก็ให้มีการตรวจสอบตามขั้นตอน โดยส่วนตัวมองว่า ไม่ควรใช้การเมืองมาเกี่ยวข้อง ในการดิสเครดิตผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. นายกฯสั่งสตช.เร่งแก้ปมโครงการสร้างโรงพักทดแทน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) ว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งรัดแก้ไขปัญหาสร้างโรงพักทดแทน จำนวน 396 แห่งทั่วประเทศ พร้อมทั้ง ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อเตรียมศึกษาสัญญาฉบับใหม่ หากมีการยกเลิกสัญญาฉบับเก่า ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะเรียกผู้กำกับสถานีตำรวจ ทั้ง 396 สถานี มารับฟังนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาต่อไปนอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งให้มีการบูรณาการติดตั้งกล้องวงจรปิดให้ได้ทั่วประเทศ โดยให้ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร บก.02  เป็นศูนย์กลางดูแลกล้องวงจรปิดในกรุงเทพมหานคร และให้ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้เป็นศูนย์กลางดูแลกล้องวงจรปิด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม การประชุม ก.ต.ช. ในครั้งนี้ไม่มีการหารือเรื่องประกาศเคอร์ฟิวในภาคใต้แต่อย่างใด ปชป. พร้อมให้ความร่วมมือตรวจสอบก่อสร้างสถานีตำรวจนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวย้ำว่า การก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน และอาคารที่พัก โดยพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมให้ความร่วมมือตรวจสอบเรื่องนี้ แต่เกรงว่าจะถูกตัดตอนโดยผู้ที่เกี่ยวข้องในรัฐบาลปัจจุบัน พยายามผลักความรับผิดชอบ ให้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ทั้ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการอนุมัติทำสัญญา ซึ่งอยู่ในสมัย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. โดย สตช. เห็นว่า ควรประมูลในคราวเดียว อีกทั้ง ผู้ที่ทำทีโออาร์ เรื่องนี้ในภายหลัง คือ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นผู้ลงนามในรายละเอียดการสร้างสถานีทดแทนในขณะนั้น ซึ่งน่าแปลกใจที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กลับไม่เรียก พล.ต.อ.พงศพัศ มาชี้แจงเพื่อสร้างความกระจ่าง อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาระบุว่ามีการทุจริต จึงขอท้าให้ตรวจสอบเรื่องนี้ และรับผิดชอบคำพูดของตนว่าบริษัทที่ประมูลได้ เกี่ยวโยงกับพ่อตาของใคร เพื่อความชัดเจน