เมื่อ "ทมยันตี" วิจารณ์คู่กรรมเวอร์ชั่น 2556

เมื่อ "ทมยันตี" วิจารณ์คู่กรรมเวอร์ชั่น 2556

เมื่อ "ทมยันตี" วิจารณ์คู่กรรมเวอร์ชั่น 2556
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บทประพันธ์ในเวอร์ชั่นนี้ ประทับใจยังไงบ้าง

คุณทมยันตี : ถ้าสำนวน ดิฉันบอกคุณบอย ไปว่า มันสะใจ คือแทนที่จะพูดว่าได้ดั่งใจ สะใจดีกว่า เพราะคนทำบทเก่งมาก ที่รักษาเค้าโครงไว้ได้เกือบ 100 % เค้าเอามาดัดแปลง ไม่เหมือนบางเวอร์ชั่นที่เปลี่ยนแปลงเลย ซึ่งเจ้าของก็จำไม่ได้ เป็นครั้งแรกของดิฉันที่ดูละครตัวเอง โดยปกติแล้วไม่ค่อยดู บางเรื่องก็ไม่เคยดูเลย สาเหตุที่ได้ดูก็เนื่องจากว่า ดิฉันออกจากโรงพยาบาลนอนวัดความดันโลหิตอยู่หน้าทีวี ลูกชายคนที่ 2 (คุณแก้ว) ไม่เคยดูละครเรื่องใดเลยก็นั่งอยู่หน้าดิฉัน แล้วก็บอก "แม่ดูละครเรื่องนี้หน่อย เค้าติดกันทั้งเมือง" ฉันก็ยังงง "เอ๊ะ !!! เจ้าแก้วไม่เคยดูละครทีวีเลย" เค้าบอกดูเรื่องนี้ แล้วก็เปิดให้ดู แล้วมอง ๆ ฮ่ะ !!! คู่กรรมนี่หน่าพูดกับลูกชาย

ตั้งแต่นั้นมาก็เลยต้องตามดูว่ารักษาบทประพันธ์ไว้ได้โดยเฉพาะสำนวน คุณอย่านึกนะว่าเรื่องนี้จะไม่มีคนจำสำนวนได้ เพื่อนเล่าให้ฟังน้องสาวนั่งดูอยู่ด้วยกันพอคุณบี้พูดเท่านั้นแหละ มันท่องบท ฮ่ะ !!! บทพูดตามได้เลยและมากกว่าและพอเราต้องตัดและนั่นท่องได้จนจบเลย มีนิยาย 2 เรื่อง ที่มีคนท่องได้ ซึ่งเจ้าของบทประพันธ์ท่องไม่ได้ คือเรื่องในฝันกับคู่กรรมนะคะ เค้าท่องกันได้ ดิฉันบอกดิฉันเขียนจบแล้วก็ไม่เคยท่องบทประพันธ์ของตัวเอง เค้าอ่านคนละหลาย ๆ รอบ ดิฉันไม่ได้อ่านถึงขนาดนั้นเลิกแล้วเลิกกันแล้วก็เปลี่ยนไปเขียนเรื่องใหม่

มีส่วนไหนที่เปลี่ยนแปลงไปจากบทประพันธ์เดิม
คุณทมยันตี : จับไม่ได้ ถ้าคนนอกจับไม่ได้ แต่เจ้าของบทประพันธ์จับได้แต่มันยาว เราจะให้เค้ารักษาความยืดยาดของบทพรรณณาไว้ไม่ได้ ต้องชมคนตัดบท เก่งมาก คือทำให้แม้แต่เจ้าของบทประพันธ์ยังหัวเราะ เก่ง !! เอาขนมผสมน้ำยาได้เก่งมาก คนนอกไม่รู้เลย

เวอร์ชั่นนี้เป็นเวอร์ชั่นที่ถูกใจคุณหญิงมากที่สุดหรือเปล่า
คุณทมยันตี : ถูกใจนะคะ ในฐานะที่ดิฉันบอกนะคะ ได้ดั่งใจ ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรให้พิจิตรพิสดาร เป็นคู่กรรมภาคพิจิตรพิสดารไป

ในแต่ละครั้งที่จะให้ลิขสิทธิ์กับผู้ผลิตละคร รู้จักอะไรเป็นหลักเกณฑ์
คุณทมยันตี : อย่างคุณบอกชอบกัน แล้วเค้าก็ ชอบไปซื้อบทประพันธ์เรื่องนู้น เรื่องนี้ เรื่องนั้น ตอนไปซื้อคู่กรรม ดิฉันบอก " บอย...ป้าอี๊ดจะไม่เอาค่าลิขสิทธิ์นะ แล้วคุณบอยก็ทำหน้า แล้วป้าอี๊ดจะแถมเงินให้บอยด้วย แต่มันมีเงื่อนไขอยู่เงื่อนไขเดียวแหละลูก ให้ป้าอี๊ดเป็นอังศุมาลินสักทีได้มั้ย บอยคิดไม่ถึงวินาที ตอบว่า ป้าผมจ่ายค่าลิขสิทธิ์ดีกว่า" ก็หัวเราะกันนะคะ ดิฉันก็นั่งดู
แล้วกับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ ที่กำลังจะเป็นหนัง

คุณทมยันตี : ทราบแต่ว่า ณเดชน์ หล่อมาก แต่เค้าปกปิดเป็นความลับ ไม่ให้เจ้าของบทประพันธ์ไปดู ดิฉันก็อยากจะยื่นหน้าไปดูนะคะ ตามวิสัยดิฉันอยากดูนู้นดูนี่ หรืออย่างมาวันนี้ เหมือนกัน ดิฉันเคยไปกองถ่ายครั้งแรกเมื่อนารถเป็นพระเอก เจอหน้ากันดีใจ เพราะตอนนั้นระเบิด พอแอฟเฟคขึ้นปังเรายังวิ่งกันอยู่ในท้องร่อง วิ่งด้วยกันทั้งผู้ประพันธ์แล้วก็พระเอก สนุ๊กสนุก แล้วก็ไม่เคยไปกองถ่ายใด นอกจากคู่กรรม ที่ตัวเองกำกับ ในยุคของคุณมีชัย ดิฉัน คุณสุพรรณ บูรณะ แล้วก็เทิ้ง เราเรียกกันอีเทิ้ง 3 คน พี่สุพรรณ เป็นผู้กำกับตัวจริง ดิฉันกันอีเทิ้ง ก็เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ นั้นแหละคะที่อยู่บนเวทีจริง ๆ การแสดงจนจบ แต่ละครเรื่องนี้ เป็นคู่เวรกับดิฉัน เนี่ยะพอละครจะจบทุกเวอร์ชั่นถึงแม้ที่ไม่ได้ดู พอลูกชายบอกละครเรื่องนี้จะจบ ดิฉัน1. หยิบโทรศัพท์ออกจากแท่น 2. พอสมัยนี้ต้องปิดเครื่องมือถือ แล้วจะถูกด่า ใจร้าย !!! คนอะไรเค้ารักกันอยู่ดี ๆ ทำไมต้องให้เค้าตาย ก็มันตายไปแล้วอ่ะ เราไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยบอกคุณบอยว่า " นัดกันนะ ละครจะจบ เรา 2 คนออกจากบ้าน แล้วก็ปิดโทรศัพท์ด้วย ถูกซัดแน่นอน คนเค้ารักกันอยู่ดี ๆ ไปพรากเค้าทำไม " 

คู่กรรมถือว่าเป็นบทประพันธ์ที่ถูกหยิบมาทำเป็นละครเยอะที่สุดในบทประพันธ์ของคุณหญิงเลยมั้ยคะ
คุณทมยันตี : มีหลายเรื่อง ก็พอ ๆ กัน ในฝันก็โดนแบบเดียวกัน มีละครส่วนใหญ่ของดิฉัน นอกจากเรื่องบางอย่างที่มันหนักไปหน่อย เค้ายังไม่ทำกัน แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นละครพวกรักคลาสสิก ทำไม่รู้กี่รอบ จนเวลาใครไปซื้อคู่กรรม ดิฉันต้องท้วงเค้า เฮ้ย!!! เพิ่งทำไปนะ อย่าซื้อเลยนะ ไปซื้อเรื่องอื่นไม่ได้หรอ ก้อผมจะเอาเรื่องนี้ ยายว่าเรื่องอื่นดีกว่านี้ เค้าเพิ่งทำ ก้อผมจะทำ พอเค้ามาซื้อทำหนังใหญ่ อย่าซื้อ เพราะว่าเค้ากำลังเอาไปทำทีวีนะ ก็ผมจะทำของผมอ่ะ คุณยายมีหน้าที่เซ็นต์ ก็มองหน้าลูกชาย เจ้ายอด ผู้ครองลิขสิทธ์ เจ้ายอดบอก ถ้าเสี่ยงก็ช่างเถอะแม่ แม่คอยนั่งใจหายใจคว่ำก็แล้วกัน

คุณหญิงคะ ขอย้อนไปในสมัยตอนที่เขียนเป็นบทประพันธ์คู่กรรม หนักใจมั้ยที่จะเขียนให้พระเอกตายในตอนจบ
คุณทมยันตี : ไม่หนักใจ เวลาจะเขียนหนังสือต้องวางเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อดิฉันเขียนบรรทัดแรก ดิฉันรู้บรรทัดสุดท้าย ดิฉันรู้แล้วว่าโกโบริจะต้องตาย ตายเมื่อไร แต่ในการเขียนหนังสือนั้น คนถามว่ารู้สึกยังไง ดิฉันบอก ในการเขียนถ้าคนเขียนไม่ร้องไห้ก่อนคนอ่านก็ไม่ร้องไห้ คนที่น้ำตาหยดลงบนกระดาษ เขียนในวันที่โกโบริสิ้นใจ เราต้องอินไปในเรื่อง ดิฉันต้องจำโกโบริของดิฉันได้ ใครถามว่าคนไหนดี ดิฉันก็หัวเราะ เพราะทุกคนก็มีความดีของตัวเอง ด้านของดารา แต่ดิฉันก็มีโกโบริในใจของดิฉัน และเชื่อมั้ยคะคนอ่านก็ต้องมีโกโบริอยู่ในใจของเค้าบางทีก็บ่น ทำไมไม่เหมือนของฉัน คนโน้นคิดอย่างนี้ คือทุกคนมีทั้งนั้นแหละคะในใจแต่ละคน และพวกโกโบริญาติเยอะ ดิฉันยังไม่ค่อยกล้ายุ่งกับเค้า คุณอย่าไปว่ากล่าว ตำหนิ ติเตียน ไม่ได้ ญาติจะออกมารับทันที เพราะฉะนั้นจึงบอกว่าพ่อโกโบริญาติเยอะ ดิฉันไม่ยุ่งด้วย

อย่างโกโบริและอังศุมาลินในเวอชั่นนี้เป็นไงบ้าง
คุณทมยันตี : เล่นเก่ง เพราะว่าโดยปกติดิฉันไม่รู้จักบี้ เพราะดิฉันไม่รู้จักดารา เป็นคนแก่ที่ชอบอ่านหนังสือเขียนหนังสืออยู่ในห้องเงียบ ๆ ก็บอกแล้วไงลูกเอารูปให้ดู สิ่งแรกที่ดิฉันชอบบี้ คือ วิธียิ้ม ไอเจ้าคนนี้มันยิ้มดี มันยิ้มยั่วดี คุณอังแกดุไป แกดุจริง ๆ ได้ผลค่ะ คนดูแล้วบอกแหม!!! คุณอังแกดุเอาดุเอา สงสารพ่อโก ยิ้มยั่วเข้าหน่อยยิ้มแหย ไม่รู้จะทำไรกับเค้า เค้าดุ แต่ตอนจบ ดิฉันไม่อยากให้คนดูได้เห็นตอนจบว่าอังศุมาลิน จากการที่เคยรังแกเค้าแล้ววันหนึ่ง ถ้าคุณรู้ว่า คน ๆ นั้น กำลังจะจากคุณไปต่อหน้าต่อตา วันนั้นอ่ะ อังต้องเล่นปล่อยบทโล่ง ตัวเองรู้สึกยังไง ดิฉันอยากให้ดารา 2 คน เข้าไปในบทให้มาก ๆ ขึ้น เพราะมีผลต่อฉากสุดท้าย ซึ่งโกโบรินั้นก็รู้ว่าสายเกินไป ยิ่งภาพของอังศุมาลิน ภาพที่วิ่งไปขอโทษ ยื่นมือไปสุดล้าปลายมือถึงโกโบริ แต่เรือออกไป มันสุดล้าจริง ๆ ถ้ายื่นไปทันซักนิดนึง ก็จะไม่ตาย แต่ในวันนั้นอังศุมาลินต้องไปเผชิญกับสิ่งที่ตนเองลังคัดลังแค และกำลังศูนย์เสีย เค้าเรียกว่าจุดสุดยอดของการแสดง ตัวแสดง 2 ตัวนั้น จะต้องไปเผชิญจุดนั้น ถ้าเกิด 2 คน เล่นด้วยความรู้สึก อินเข้าไป อินเข้าไป อินเข้าไป จนกระทั่งโกโบริรู้สึกว่า เค้าเป็นตัวนั้นจริง ๆ อังศุมาลินรู้สึก ฉันก็เป็นอังศุมาลินจริง ๆ และในวันที่เค้ากำลังจะสิ้นใจต่อหน้าต่อตา คุณจะทำอย่างไร เคล็ดลับของการเล่นละคร

พูดในเรื่องส่วนตัวหนังจะทำออกมาตรงตามที่คุณหญิง .....
คุณทมยันตี : ยังไม่เห็นเลย เค้าว่าณเดชน์หล่อก็ยังไม่เห็น เห็นแต่บี้อยู่ ก็ออกคลิปออกไร เพราะดิฉันเป็นคนงี่เง้าเป็นคนแก่โบราณ ทำไรไม่เป็น ไฮเทคทำไม่เป็น ลูกชายชม ดิฉันเปิดตู้เย็นเป็นด้วย หนังสือดิฉันยังเขียนด้วยลายมืออยู่นะคะ ดิฉันทำไม่เป็น ออกทีวีนี่ ถ้าเผื่ออย่างวันนี้ก็ต้องตั้งไว้ให้ ถ้าจะให้ไปหานู้นหานี่ก็ทำไม่เป็น โวยวาย ให้คนหาให้ ดิฉันเป้นคนแก่โลเทค เพราะฉะนั้น รู้จักบี้ในทีวี ณเดชน์ วันก่อนเห็นในโฆษณา เค้าบอกคนนี้ ณเดชน์ ดิฉันบอก หรอ!!! ก็ไม่รู้จัก เค้าจะแสดงเป็นโกโบริอย่างไงในคลิป ก็ไม่รู้ เพียงแค่ชอบอยู่อย่าง เพลง ฝากไปบอกคนแต่ง เพลงเพราะจัง เพลงของละคร เพราะฉะนั้นไม่สามารถพูดถึง ณเดชน์ กับ ใครก็ไม่รู้เป้นอัง ยังไม่รู้เลย เพราะเค้าเก็บไว้เป็นความลับ ลับสุดยอดท้ายสุดคอนโดด้วย คุณยายเองยังไม่เคยเห็นเลย แต่เค้าสัญญาว่า เร็ว ๆ นี้เค้าจะพาไปดู

พอเค้าปิดเป็นความลับขนาดนี้ คุณหญิงอยากไปดูมั้ยค่ะ

คุณทมยันตี : มันลับสุดคอนโด จะปีนไหวหรอ คิดว่าวันนึงเค้าให้ดูก็ดู ดิฉันเป็นคนแก่ ให้ดูก็ดู ไม่ให้ดูก็ไม่ดู

คุณหญิงคะ ขอย้อนถามนิดนึงว่าทำไมบทประพันธ์นี้ ถึงต้องใช้ชื่อว่า คู่กรรม หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ
คุณทมยันตี : ก็เป็นกรรมจริงมั้ยล่ะ กรรมนำพาให้มาพบกัน บอกแล้วว่าสำหรับดิฉันคือคู่เวร พอเล่นละครทีก็บอกที ละครเวทีตอน เซกิ เซกิอินเข้าไปมากเป็นโกโบริจนไม่ยอมกลับญี่ปุ่น และเซกิพูดภาษาไทยคำแรก ชัดเจน เวลาไปดูละครเวทีป้ามาแล้วนี่คือความน่ารักของเซกิตอนนั้นนะคะ ป้ามาแล้ว พูดไทยคำนี้ชัดมากเลย เค้าคิดว่าเค้าเป็นโกโบริ หลายคนนะคะ ผู้ใหญ่ด้วยไม่บอก ขนาดประธานบริษัท บริษัทใหญ่เบอเริมหน้าตาดี น่าจะไปเล่นเป็นโกโบริ เท่านั้นท่านยึดเลย ผมนี่แหละเป็นโกโบริ เป็นบระธานบริษัทเบอเร่อของญี่ปุ่น และเวลามาเมืองไทยเค้าจะต้องกลับมาและแวะมา โกโบริต้องมาเยี่ยมทมยันตี แต่หลายปีนี้ไม่ได้มา ทำไมไม่เป็นคู่เวร เพราะสถานี NHK เค้าไปสัมภาษณ์ที่บ้าน เค้าทวงคาตานะ ของโกโบริ บอกฉันเก็บคาตานะของโกโบริไว้ ผมไม่รู้ ไม่มี แล้วก็ถามพ่อโกโบริชื่ออะไร แม่ชื่ออะไร อยู่จังหวัดไหน นามสกุลอะไร

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ เมื่อ "ทมยันตี" วิจารณ์คู่กรรมเวอร์ชั่น 2556

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook