นายกฯร่วมประชุมACMECSที่ลาว-กลับไทยเย็น

นายกฯร่วมประชุมACMECSที่ลาว-กลับไทยเย็น

นายกฯร่วมประชุมACMECSที่ลาว-กลับไทยเย็น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีเปิดการประชุมผู้นำและเข้าร่วมการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ครั้งที่ 5 ที่เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ภายหลังวานนี้ ได้หารือทวิภาคีกันแล้ว ได้พบกันเมื่อ การประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม อย่างไม่เป็นทางการ (JCR) เวียดนามตอบรับพิจารณาเข้าร่วมโครงการ ACMECS Single Visa ที่ปัจจุบันไทยและกัมพูชา ได้เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูมิภาคและอาเซียนโดยรวม เพื่อเสริมสร้างการท่องเที่ยวของภูมิภาค สำหรับประเด็นการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม โดยไทยได้ย้ำถึงความสำคัญในการพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาคและอนุภูมิภาค โดยเฉพาะระหว่าง ไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานเพื่อรองรับการสร้างเศรษฐกิจอาเซียนต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ รัฐมนตรีคมนาคมของไทย-ลาว-เวียดนาม ซึ่งได้ช่วยกันผลักดันความร่วมมือนี้ และรัฐมนตรีทั้งสาม ได้ลงนามในบทเพิ่มเติมของ MOU ว่าด้วยการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกการใช้เส้นทาง EWEC หรือเส้นทางหมายเลข 9 มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มีการเสนอให้มีการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของเส้นทางหมายเลข 8 และ 12 ผ่าน สปป.ลาว มากขึ้นด้วย นายกฯทุ่ม15,000ล.ดันเชื่อมโยงอนุภูมิภาค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำ ในที่ประชุม ผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 5 ACMECS ถึงสิ่งที่ประเทศไทยให้ความสำคัญในการผลักดันคือ การเชื่อมโยงอนุภูมิภาคเข้าด้วยกัน โดยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการประสานกฎระเบียบให้สอดคล้องกัน เพื่อให้การขนส่งสินค้ามีความคล่องตัว สามารถไปมาหาสู่กันได้สะดวก รวมทั้ง ช่วยกระจายความเจริญไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ให้ทั่วถึง โดยล่าสุด รัฐบาลไทย ได้ประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างครบวงจร เป็นจำนวนเงินประมาณ 66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่มุ่งปรับปรุงระบบการขนส่งทางถนน ทางราง ทางน้ำและด่านการค้าชายแดน ซึ่งจะเชื่อมโยงเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศอื่น ๆ ในอนุภูมิภาค เช่น การเชื่อมโยงทางบกในลักษณะ land bridge ระหว่างท่าเรือแหลมฉบังในประเทศไทย และท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสหกรรมที่ทวายในเมียนมาร์ที่จะสร้างขึ้นมาในอนาคต ทั้งนี้ คาดว่า การลงทุนดังกล่าว จะทำให้การค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มขึ้น 45,000 ล้านบาทต่อปี  โดยรัฐบาลไทย ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อผลักดันเป้าหมายนี้ โดยขณะนี้ ไทยและกัมพูชา ได้เริ่มหารือในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนร่วมกันแล้ว และหวังว่าจะได้มีการหารือกับเมียนมาร์ และ สปป. ลาว ต่อไป  ไทย-ลาวMOUเกษตรแบบมีสัญญาผลักดันธุรกิจในที่ประชุม ผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 5 ACMECS วันนี้ ไทยและลาว ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU โครงการเกษตรแบบมีสัญญา ระหว่างไทย กับ สปป.ลาว เพื่อยืนยันความพร้อมที่ไทยจะดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ รวมถึงผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างภาคธุรกิจใน ACMECS ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพราะภาคธุรกิจเป็นทั้งผู้บุกเบิกนำร่องและพลังขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ดังนั้น ประเทศ ACMECS จึงควรร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ ทั้งสำหรับภาคธุรกิจของประเทศ ACMECS กันเอง และภาคธุรกิจจากนอก ACMECS ไม่ว่าจะเป็นกรอบนโยบาย หรือ กฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อดึงดูดให้ภาคธุรกิจเหล่านี้สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของอนุภูมิภาคนี้ได้อย่างเต็มที่ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชา ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งไทยและกัมพูชา และหวังว่าจะมีความร่วมมือเช่นนี้กับ ประเทศ ACMECS อื่น ๆ ในอนาคต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook