กาฬสินธุ์เชิดชู ส.ต.อ.ปิยะ เหยื่อบึ้มโจรใต้

พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า ได้รับคำสั่งการ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้จัดงานให้กับ ส.ต.อ.ปิยะ ภูพันเว่อ ตร.สภ.รือเสาะ ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิด อย่างสมเกียรติ โดยตำรวจภูธรภาค 4 และตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือทุกอย่าง ทั้งการจัดสถานที่ เครื่องดื่ม อาหาร และค่าใช้จ่าย เพราะถือว่า ส.ต.อ.ปิยะ เป็นชาวกาฬสินธุ์ เป็นลูกข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่เสียสละชีวิตเพื่อชาติบ้านเมือง จึงสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นวีระบุรุษ และเป็นแบบอย่างที่ดีของข้าราชการตำรวจอีกด้วย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จะมอบเงินช่วยเหลือ 800,000 บาท และจะขอพระราชทานเลื่อนชั้นยศ 7 ชั้นยศ จาก ส.ต.อ. เป็น พ.ต.ท. โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 20 มีนาคม 2556 และในวันที่ 21 มีนาคม 2556 จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเจ้าภาพจัดงาน และไม่ให้ญาติเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นด้าน นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเสียชีวิตของ ส.ต.อ.ปิยะ สมควรได้รับการยกย่องและเชิดชูเกียรติ เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่จนเสียชีวิต ซึ่งทางจังหวัดกาฬสินธุ์ จะเข้าไปช่วยเหลืองานศพและครอบครัวอย่างเต็มที่ เบื้องต้น ได้มอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวไปแล้วจำนวนหนึ่ง แม่ ส.ต.อ.ปิยะ ภูมิใจลูกทำเพื่อชาติจนถึงวินาทีสุดท้ายจากกรณีเหตุคนร้ายวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เสียชีวิต 3 นาย คือ พ.ต.ท.จักรกฤษณ์ วงศ์พรหมเมศร์ อายุ 49 ปี รองผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส, ส.ต.อ.ปิยะ ภูพันเว่อ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพลขับ และ ส.ต.ท.สุเวส จันทรังษี อายุ 30 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาวัดบ้านหนองกุงเผือก ต.หนองกุงศรี อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของ ส.ต.อ.ปิยะ ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ มี นายสวรรค์ และ นางทองแดง ภูพันเว่อ บิดา มารดา พร้อมญาติๆ และเพื่อนข้าราชการตำรวจ กำลังจัดเตรียมสถานที่ต้อนรับแขก โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้านางทองแดง อายุ 59 ปี มารดาของ ส.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า ครอบครัวมีลูก 2 คน โดย ส.ต.อ.ปิยะ เป็นลูกชายคนเล็ก ซึ่งตั้งแต่เด็กๆ อยากเป็นตำรวจ กระทั่งสามารถสอบตำรวจได้ และเรียนจบตั้งแต่ปี 2547 และได้ปฏิบัติหน้าที่ใน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส มานานกว่า 9 ปีแล้ว จนปัจจุบันเตรียมที่จะสอบเป็นนายร้อยและขอย้ายเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพมหานคร แต่ก็มาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวเสียก่อน ทั้งนี้ ตนยังทำใจกับการสูญเสียลูกชายไม่ได้ เพราะ ส.ต.อ.ปิยะ ถือเป็นเสาหลักของครอบครัว มีความกตัญญู แต่ก็ยังภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองจนถึงวินาทีสุดท้าย