นิคมปัดรับใบสั่งทักษิณฮั้วสส.พท.แก้รธน.รายมาตรา

นิคมปัดรับใบสั่งทักษิณฮั้วสส.พท.แก้รธน.รายมาตรา

นิคมปัดรับใบสั่งทักษิณฮั้วสส.พท.แก้รธน.รายมาตรา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวยืนยันว่า การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของ ส.ส. และ ส.ว. เป็นไปตามคำแนะนำของศาลรัฐธรรมนูญ และข้อกำหนดตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไม่ใช่เป็นการเอื้อประโยชน์ระหว่างกัน และไม่ได้เป็นการรับใบสั่งจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นเพราะ ส.ส. , ส.ว. เห็นส่วนที่เป็นปัญหาร่วมกันเท่านั้น อาทิ ในมาตรา 237 ที่ผู้ไม่ได้กระทำผิดก็ต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง และถูกยุบพรรคการเมืองด้วย ขณะที่ มาตรา 190 แก้ไขเพื่อให้การทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศบางเรื่อง ทำได้สะดวกมากขึ้นและให้นำเฉพาะเรื่องสำคัญเข้าสู่สภา อย่างไรก็ตาม ประธานวุฒิสภา เชื่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ จะไม่สร้างความขัดแย้งมากยิ่งขึ้น และถือว่าอยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังไม่ทราบว่ามี ส.ว.บางคน ถอนรายชื่อออกไป นายนิคม ยังได้เปิดเผยกับ รายการเปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่น พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา ว่า  จะมีการบรรจุเข้าวาระการประชุมก็จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภา จากนั้นก็จะเปิดประชุมสภา เพื่อพิจารณา 3 วาระ เมื่อพิจารณาวาระ 1 เสร็จ ก็จะมีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาพิจารณารายมาตรา และเมื่อเสร็จสิ้นก็จะเข้าสู่การพิจารณาในวาระ 3 ซึ่งจะใช้วิธีการขานชื่อ จากนั้นจะทิ้งไว้ 15 วัน แล้วมาโหวต ซึ่งการยื่นครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้แก้ไขรายมาตราทั้งนี้ มาตรา 190 ถือเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ส่วนเรื่องการยุบพรรคนั้น ทำให้พรรคอ่อนอ และที่มาของส.ว. ที่มี 2 ส่วน จากสรรหากับการเลือกตั้ง ก็มีเจตนาที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องการคัดค้านคิดว่า คงไม่รุนแรงและไม่มีเหตุอะไรที่จะมาทักท้วง หรือประวิงเวลา  'ถาวร' ชี้ ปชป. ไม่เห็นด้วยกับการแก้ รธน. ครั้งนี้นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับรายการ เปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่น พ.ร.บ.แก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ว่า สิ่งที่น่าจับตาก็คือ การแก้ไขที่มาของสมาชิกวุฒิสภา แต่ไม่มีการแก้อำนาจหน้าที่ ถ้าวุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้งเพียงอย่างเดียวก็หนีไม่พ้นที่จะเป็นตัวแทนของกลุ่มการเมือง ซึ่งจะไปคาดหวังเรื่องการถ่วงดุล หรือการกลั่นกรอง คงเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้เกรงว่าจะนำไปสู่เผด็จการรัฐสภา ส่วนมาตรา 68 ที่ว่าด้วยเรื่องที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความ ต้องให้อัยการ เป็นผู้ยื่นนั้น เห็นว่า ถ้าไปตัดอำนาจของประชาชนและปล่อยให้อัยการทำหน้าที่ฝ่ายเดียวคงไม่ได้ และน่าจะขัดกับหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้จะนำเข้าสู่ที่ประชุมพรรคทันที เพื่อดูว่าการแก้ที่มาของ ส.ว. และมาตรา 68 เราจะคัดค้านหรือยื่นร่างแก้ไขเข้าไปประกบนายถาวร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ ระบอบทักษิณ กำลังหวนกลับมาในรูปแบบเดิม เพียงแต่เปลี่ยนผู้เล่นเท่านั้น ประชาชนที่รู้ทันก็อาจจะออกมาเคลื่อนไหว ทั้งนี้ กลัวความวุ่นวายจะเกิดขึ้นมาอีก 'อุดมเดช' ชี้ ฝ่ายค้าน ยื่นร่างประกบเป็นเรื่องที่ดีนายอุดมเดช  รัตนเสถียร  ที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล เปิดเผยในรายการ เปิดข่าวเด่น เจาะประเด็นดัง ว่า  เมื่อวานนี้ได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว คาดว่า อีก 7 วัน น่าจะบรรจุร่างได้ ส่วนใครที่มีมุมมอง หรือมีความกังวลก็นำมาพูดคุยกันได้ เท่าที่ฟังจากวุฒิสมาชิกทุกคนมีเจตนาดี และเห็นควรที่จะมีการแก้ไข เพราะเป็นปัญหากับการบริหารราชการ ส่วนที่มาของ ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ควรไปปิดกั้น พร้อมระบุว่า หากฝ่ายค้านจะยื่นร่างประกบก็เป็นเรื่องที่ดี  นายอุดมเดช กล่าวว่า การที่ 40 ส.ว. บอกว่า หากมีการแก้ไขจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 122 นั้น เห็นว่า คนที่ไม่เห็นด้วยก็บอกว่าขัด ก็สามารถไปตรวจสอบได้ ทั้งนี้แสดงต่อไปจะแก้ไขอะไรไม่ได้เลย ความจริงก็จะปรากฏขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่า รัฐธรรมนูญนี้ ถูกร่างขึ้นมา เพื่อไม่ให้มีการแก้ไข   'อภิสิทธิ์' ขอดูร่างแก้ไข รธน. ก่อนเรียก ส.ส. กำหนดท่าทีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ ส.ส. และ ส.ว. ยื่นแก้ไขต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวานนี้ว่า มีรายละเอียดเป็นอย่างไรบ้าง จากนั้นจะมีการเรียกประชุม ส.ส. ของพรรคเพื่อ กำหนดท่าทีต่อไป สำหรับความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีการยุบพรรคนั้นก็ต้องระบุในหลักการให้ชัดเจนว่า จะให้องค์กรใดมาพิจารณาและจะต้องมีความชัดเจนว่า ประชาชนจะได้ประโยชน์อย่างไร โดยนำปัญหาในอดีตมาทบทวน 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook